จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2266

สรุปบท ตอนที่ 2266 รักแกเผ่าเทวาที่ไร้ผู้มีฝีมือ!: จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 2266 รักแกเผ่าเทวาที่ไร้ผู้มีฝีมือ! – ตอนที่ต้องอ่านของ จอมเทพโอสถ

ตอนนี้ของ จอมเทพโอสถ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายActionทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 2266 รักแกเผ่าเทวาที่ไร้ผู้มีฝีมือ! จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตบหน้า!

คำพูดนี้มันกล่าวเพื่อตบหน้ากันชัดๆ!

เย่หยวนพูดกล่าวเช่นนี้ออกมามันก็เหมือนเป็นการตบหน้าเหล่ายอดฝีมือเต๋าสวรรค์แปดลายทั้งหลายของเผ่าเทวาสิ้น

เผ่าเทวานั้นคิดว่าตัวเองสุดแสนยิ่งใหญ่ไม่คิดสนใจเผ่าพันธุ์อื่นอยู่ในสายตา

แต่เวลานี้มันกลับมีมนุษย์คนหนึ่งที่ก้าวข้ามอาณาจักรต่อสู้กับเหล่าเผ่าเทวาทั้งหลายได้

มันจะยังมีสิ่งใดน่าเจ็บใจไปมากกว่านี้?

หรูเฟิงนั้นได้แต่หน้าสั่นร้องกล่าวออกมาด้วยท่าทางไม่พอใจ “สหายหนุ่ม ไม่ว่าเจ้าจะมากพรสวรรค์ล้ำฟ้าดินปานใดสุดท้ายเจ้าก็ยังเป็นแค่เทพสวรรค์ มันยังไม่ถึงเวลาที่เจ้าจะมาทำตัวกร่างในเผ่าเทวาเราเช่นนี้หรอก!”

เย่หยวนหันกลับไปมองด้วยรอยยิ้มเย้ยเยาะ “เจ้าคือหนึ่งในเก้าผู้อาวุโสของตระกูลสายเลือดเร้น? เลิกมาวางท่าต่อหน้าเย่ผู้นี้เถอะ! มันมิใช่ว่าเย่ผู้นี้ไม่เคยปะทะกับคนเช่นเจ้ามาก่อน สุดท้ายมันก็ยังถูกข้าทำลายพลังบ่มเพาะลงไปถึงหนึ่งอาณาจักรมิใช่หรือ?”

เย่หยวนนั้นมิใช่คนที่ชอบอวดโม้เรื่องราวแต่เวลานี้จิตใจของเขามันรุ่มร้อนราวถูกไฟสุม มีความโกรธแค้นอย่างที่ไม่รู้จะไปลงที่ใดจึงต้องระบายมันออกมากับคนทั้งหลายนี้แทน

เผ่าเทวานี้คือเป้าหมายการระบายอารมณ์ที่เหมาะสมที่สุด

ทั้งเขานั้นยังไม่ได้โม้ว่าเกินตัว เรื่องที่กล่าวมีแต่ความจริงสิ้น

ต่อให้จะเป็นเก้าผู้อาวุโสประจำตระกูล มีหรือที่พวกเขาจะมีพลังอำนาจมากพอมาวางท่าต่อหน้าเขา?

ตอนที่เขาสู้กับหยวนเจี่ยวนั้นหยวนเจี่ยวก็มีสภาพสมบูรณ์พร้อมแต่สุดท้ายก็ถูกเย่หยวนทำร้ายจนพลังบ่มเพาะตกลงไปหนึ่งอาณาจักร

เวลานี้เย่หยวนบ่มเพาะขึ้นมาสูงล้ำกว่าเก่าไม่รู้กี่เท่า หากยอมที่จะใช้วิธีการเสี่ยงชีวิตนั้นอีกครั้งแล้วจะจัดการหรูเฟิงมันก็คงพอเป็นไปได้

ตัวตนของหรูเฟิงนั้นยิ่งใหญ่ปานใด? มีหรือที่เขาจะเคยถูกผู้คนเหยียดหยามเช่นนี้มาก่อน?

เขาจึงได้แต่หัวเราะขึ้นมา “เด็กน้อย เจ้าจะโม้อวดใดก็คิดถึงสภาพตัวเองก่อนเถอะ! หากมิใช่เพราะเรื่องร้ายที่เกิดขึ้นกับบุตรเทวะแล้วเจ้าคงได้ตายไปแล้ว! พวกเจ้าไป! ไปเอาตัวไอ้มนุษย์คนนั้นมา!”

“ไม่ต้อง ข้าจะไปหาเขาเอง!” เย่หยวนร้องบอก

หรูเฟิงจึงตวาดออกมา “ไม่! มีหรือที่ตระกูลสายเลือดเร้นข้าจะปล่อยให้มนุษย์อย่างเจ้าเหยียบย่ำไปมากกว่านี้?”

เย่หยวนจึงตอบกลับไป “เรื่องนั้นเจ้าไม่มีสิทธิมาตัดสินใจหรอก!”

หรูเฟิงนั้นโกรธจนหน้าแดงหน้าดำร้องตะโกนลั่นออกมา “เด็กน้อย เจ้าอย่าคิดประเมินตัวเองสูงล้ำไป! หรือว่าเจ้าคิดว่าเผ่าเทวาเรานั้นไม่มีนักหลอมโอสถ?”

เย่หยวนจึงตอบกลับไปด้วยใบหน้าเย้ยหยัน “ข้าจะให้โอกาสเจ้า เอาตัวหรงซีเยว่ไปและลองแก้พิษนี้ดูเถอะ ข้าจะไปหาหนิงเทียนปิงเอง หากเจ้ามีปัญญาแก้พิษของหรงซีเยว่จริงปล่อยข้าไปเดินเล่นกับหนิงเทียนปิงมันจะเป็นปัญหาใด?”

โอหัง!

อวดดี!

เย่หยวนนั้นคิดรังแก่เผ่าเทวาว่าไร้ผู้มากฝีมือ!

หรูเฟิงจึงยิ้มเย้ยออกมา “อวดดีโอหังนัก! เฒ่าคนนี้จะให้เจ้าได้ตายสมอยาก! กงหมิง เจ้าพามันไปหามนุษย์คนนั้น ข้าจะพาบุตรีเทวะไปล้างพิษ!”

กงหมิงก้มหัวรับ “ขอรับผู้อาวุโสที่สาม!”

หรงซีเยว่นั้นมองดูเย่หยวนด้วยสายตาตื่นตะลึงอยู่ไม่น้อย เพราะนางนั้นไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดจู่ๆ เขาจึงได้เปลี่ยนท่าทางจากหน้ามือเป็นหลังมือเช่นนั้น

นางนั้นเข้าใจได้ถึงกระดูกว่าเย่หยวนคงมีความแค้นใดกับเผ่าเทวาเป็นแน่

ที่สำคัญไปกว่านั้นเขายังเคยปะทะกับคนเผ่าเทวามาก่อน

หรือว่าเขาจะเสียคนรักคนสนิทไปภายใต้ฝ่ามือของเผ่าเทวา?

เมื่อส่งเย่หยวนไปได้แล้วหรูเฟิงก็หันมากล่าวกับหรงซีเยว่ “เจ้าเด็กคนนั้นมันโอหังอวดฝีมือเหลือเกิน! เฒ่าคนนี้ไม่ได้รู้สึกมีจิตสังหารที่พุ่งพวยเช่นนี้มาไม่รู้กี่ปีแล้ว มันเป็นครั้งแรกจริงๆ!”

หรงซีเยว่ยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “เดิมทีเขาไม่ได้เป็นเช่นนี้เลย ไม่รู้เพราะเหตุใดจู่ๆ เขาก็เปลี่ยนท่าทางไประหว่างทาง!”

หรูเฟิงนั้นยกมือขึ้นมาโบกปัด “ไม่ต้องไปสนใจให้มากมาย ไม่ว่าจะอย่างไรเสียมันก็ตายแน่แล้ว! มาเถอะ ไปล้างพิษให้ท่านกัน”

พูดจบหรูเฟิงก็พาตัวหรงซีเยว่เดินเข้าไปภายในบ้านตระกูล

เผ่าเทวาเองมันก็ย่อมจะมียอดฝีมือการโอสถมากมายเช่นกัน หากให้พูดแล้วพิษของหรงซีเยว่มันก็คงพอมีวิธีรักษาให้หายได้

แต่ไม่ทราบว่าด้วยเหตุใดตัวนางกลับรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง

การที่เย่หยวนจะกล้าเดินทางมากับนางนี้ มันย่อมจะหมายความว่าเขามั่นใจในพิษนี้อย่างเหนือล้ำ

จะบอกว่าวิชาเต๋าโอสถของเย่หยวนมันเหนือล้ำกว่าเหล่านักหลอมโอสถแปดลายในตระกูลหรือ?

ห้องโอสถของตระกูลส่ายเลือดเร้น

หรูเฟิงพยักหน้ารับรอฟังผลตรวจของจ้าวเฉิง

แต่สีหน้าของเขามันกลับค่อยๆ เปลี่ยนไปคล้ายกับสีหน้าของหลินยี่ก่อนหน้า

จนสุดท้ายมันก็ตามมาด้วยเสียงถอนหายใจยาว “พิษนี้ เฒ่าคนนี้เองก็ไม่มีปัญญาจะรักษา!”

หรูเฟิงนั้นไม่คิดยอมแพ้และให้เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายลองตรวจหรงซีเยว่ดูจนถ้วนหน้า

แต่ผลลัพธ์มันก็ไม่ได้แตกต่างไปแม้แต่น้อย

พิษนี้ พวกเขาทั้งหลายไม่มีใครคิดหาทางรักษามันได้เลย

ในตอนแรกๆ หรูเฟิงนั้นยังคงมีสีหน้ามั่นใจเต็มอก แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ได้เข้าใจถึงความน่ากลัวของพิษนี้

พิษนี้ที่ถูกเจ้าเด็กมนุษย์เทพสวรรค์คนนั้นหลอมขึ้นมันกลับไม่มีใครในตระกูลสายเลือดเร้นจะรักษามันได้!

ก่อนหน้านี้เขายังคิดจะตบหน้าเอาคืนเย่หยวน ไม่นึกว่าสุดท้ายจะถูกเย่หยวนกดหัวจนจมดินแทน

หรงซีเยว่เองก็มีสีหน้าหมองหม่นแต่ไม่ถึงขั้นสิ้นหวังอย่างคนทั้งหลายเพราะตัวนางเตรียมใจไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว

การให้คนทั้งหลายได้ตรวจดูนั้นมันก็เพื่อแค่ความแน่ใจ

นางนั้นรู้ว่าเย่หยวนมีเต๋าโอสถที่เหนือล้ำฟ้าดินปกครองได้ทั้งภูมิภาคแดนใต้ด้วยวิชาโอสถเพียงอย่างเดียว โอสถที่เขาหลอมออกมามันมีราคามากเสียกว่าสมบัติวิญญาณจักรพรรดิเทพสวรรค์เสียด้วยซ้ำ!

แม้จะเป็นโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับแปดเองมันก็ไม่มีค่าเท่าโอสถของเย่หยวน

มีหรือที่พิษที่คนเช่นนั้นมั่นใจอย่างมากจะถูกผู้คนลบล้างลงได้ง่ายๆ?

หากมันรักษาได้ง่ายๆ เย่หยวนคงไม่กล้าเดินมาถึงตระกูลสายเลือดเร้นพร้อมๆ กันนางหรอก

หรูเฟิงเองก็มีสีหน้ามืดมน เมื่อนึกถึงใบหน้าของเย่หยวนขึ้นมาอีกครั้งเขาก็แทบจะต้องกระอักเลือด

เขานั้นรวบรวมยอดฝีมือวิชาโอสถจากทั้งตระกูลมาสุมหัวกันคิดตบหน้าเอาคืนเย่หยวน

ใครจะไปคิดว่าฝ่ายที่ถูกตบเข้าอีกครั้งมันจะเป็นพวกเขาเอง!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ