“โอสถเมฆาสวรรค์เก้าหลอม! เจ้า… เจ้าหลอมโอสถเมฆาสวรรค์เก้าหลอมเป็น?”
เมื่อได้ยินนามของโอสถเมฆาสวรรค์เก้าหลอมนี้ตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นมาแต่สุดท้ายเขาก็หัวเราะขึ้นเย้ย “โม้ไปเถอะเจ้าเด็กนี่! ต่อให้เจ้าจะบ่มเพาะมานานจนถึงอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์เก้าดาวเจ้าก็คงไม่มีปัญญาจะหลอมโอสถเมฆาสวรรค์เก้าหลอมได้ ไหนจะยังเรื่องที่เจ้านี้เพิ่งบรรลุอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์มาได้อีก!
เพราะโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับแปดนั้นมันเป็นสิ่งที่สุดแสนยาก!
สำหรับเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายแล้วต่อให้จะเป็นโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับแปดขยะๆ สักเม็ดมันก็ยังสุดแสนล้ำค่า
เพราะโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับแปดนั้นมันเหนือล้ำกว่าทุกโอสถ
หากไม่มีฝีมือเต๋าโอสถถึงอาณาจักรบรรพกาลแล้ว พวกเขาคงไม่อาจจะสร้างหลอมมันขึ้นใดๆ ได้เลย!
แต่ต่อให้จะมีฝีมือถึงระดับบรรพกาล มันก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีปัญญาหลอมโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับแปดได้
เพราะฉะนั้นจำนวนของเหล่าจอมเทพโอสถแปดดาวมันจึงได้มีน้อยจนถึงขั้นหายาก
ที่สำคัญไปกว่านั้นการจะพัฒนาฝีมือในระดับจอมเทพโอสถแปดดาวเพื่อหลอมโอสถขั้นสูงนั้นมันยิ่งเป็นเรื่องที่สุดแสนยาก!
โอสถเมฆาสวรรค์เก้าหลอมนี้มันคือโอสถความยากเจ็ด เหนือล้ำกว่าโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับแปดทั่วๆ ไปอย่างมากมายนัก ความยากของมันนี้อยู่ในระดับที่ต้องหลับฝันถึงเท่านั้น
ต่อให้จะเป็นเหล่าจอมเทพโอสถแปดดาวทั้งหลายก็ยังไม่อาจจะหลอมโอสถนี้ขึ้นมาได้ง่ายๆ มีหรือที่เด็กน้อยที่เพิ่งบรรลุอาณาจักรจักรพรรดิทเทพสวรรค์จะมีปัญญาหลอมมัน?
จอมเทพโอสถแปดดาวที่หลอมโอสถเมฆาสวรรค์เก้าหลอมนี้ได้มันคงมีแต่ระดับยอดคนชื่อเสียงค้ำฟ้าดินเท่านั้น
หากเทียบกันแล้วคนทั้งหลายเหล่านั้นย่อมจะมีตำแหน่งสูงล้ำกว่าตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิง จักรพรรดิเทพสวรรค์แปดดาวคนนี้ไปมาก!
แต่เด็กน้อยที่เพิ่งบรรลุอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์กลับกล่าวบอกว่าจะหลอมโอสถเมฆาสวรรค์เก้าหลอมให้? มันจะมิใช่เรื่องตลกไปได้?
“หึๆ เด็กน้อย จะโม้ก็หัดพูดให้มันน่าเชื่อหน่อยเถอะ!”
“หากเจ้าหลอมโอสถเมฆาสวรรค์เก้าหลอมได้ข้าก็คงกินเขาแห่งถงเทียนได้!”
“เจ้าคิดว่าตนเองเป็นใคร? อวตารของโอสถบรรพกาลหรือ? แค่บรรลุขึ้นมาได้ก็จะหลอมโอสถเมฆาสวรรค์เก้าหลอมได้เช่นนั้น?”
…
คำพูดของเย่หยวนมันย่อมทำให้เกิดเสียงเหยียดหยามดูถูก
แต่เย่หยวนไม่คิดสนใจเถียงใดๆ “พี่เจิ้งหมิง เย่ผู้นี้ไม่ได้ล้อท่านเล่น หลังลงจากเขาท่านก็ไปหาข้าที่วังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์อินทรีสวรรค์แล้วกัน แต่จะอย่างไรสมุนไพรที่ต้องใช้นั้นท่านต้องเตรียมมาให้ข้าเอง เย่ผู้นี้ไม่ได้ร่ำรวยมากมาย!”
พูดจบตัวเย่หยวนก็เดินผ่านค่ายกลเคลื่อนย้ายลงเขาแห่งถงเทียนไป
“วังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์อินทรีสวรรค์… วังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์อินทรีสวรรค์ ชื่อนี้คุ้นเสียจริง! อ่า! มัน… มันคือเขานี่เอง!” จักรพรรดิเทพสวรรค์ชิงชานร้องขึ้นมา
เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์คนอื่นๆ ต่างต้องหันมามองหน้าเจ้าคนที่จู่ๆ ก็เปิดปากร้องลั่นนี้
ชื่อของวังพำนักจักรรพรรดิเทพสวรรค์นี้พวกเขาทั้งหลายไม่เคยจะได้ยินมาก่อน แน่นอนแล้วว่ามันคงเป็นค่ายสำนักเล็กๆ
“จะร้องโวยวายทำไมเล่า? แดนใต้มันเป็นแดนน้อยๆ มีค่ายสำนักใหญ่ใดตั้งอยู่ที่นั่นบ้าง? ร้องลั่นทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้!” จักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งเมิงกล่าวขึ้นมาด้วยเลือดกำเดาที่ยังไหลไม่หยุด
จักรพรรดิเทพสวรรค์ชิงชานนั้นตอบกลับมา “พวกท่านทั้งหลายบ่มเพาะเก็บตัวอยู่บนเขามานานปีคงไม่ได้รู้ถึงความน่ากลัวของคนผู้นี้แล้ว!”
เมื่อคนทั้งหลายได้ยินพวกเขาต่างก็ต้องหันมาตั้งใจฟัง
จนมีเสียงแห่งความสงสัยหนึ่งถามขึ้น “มันเพิ่งบรรลุอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้ มันจะมีอะไรยิ่งใหญ่? แน่นอนล่ะว่าวรยุทธบ่มเพาะของมันนั้นเหนือล้ำจริง ถึงกับสามารถดูดกลืนพลังฟ้าดินของเขาแห่งถงเทียนลงได้สิ้น! แต่จะทำไมเล่า? หากเจอกันในโลกภายนอกแล้วมีหรือที่มันจะต้านทานพลังฝ่ามือของข้านี้ได้?”
แต่จักรพรรดิเทพสวรรค์ชิงชานกลับตอบกลับมาด้วยสีหน้าตื่นเต้น “การที่เขาบรรลุอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ขึ้นมานี่แหละที่เป็นเรื่องใหญ่! ท่านเจิ้งหมิง ถูกตบตีครั้งนี้มันไม่เสียเปล่าแล้ว ท่านได้โชคใหญ่มาแล้ว!”
เมื่อจักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงได้ยินเช่นนั้นก็ต้องตะโกนลั่นออกมา “เด็กน้อย จักรพรรดิผู้นี้จดจะจำเจ้าไว้! แม้จักรพรรดิผู้นี้จะทำอะไรเจ้าเด็กคนนั้นไม่ได้ แต่เจ้าคิดว่าตัวเองจะรอดไปได้หรือ?”
จักรพรรดิเทพสวรรค์ชิงชานต้องหน้าซีดขาวลงเพราะตัวเขานั้นอย่างไรก็เป็นแค่จักรพรรดิเทพสวรรค์หนึ่งดาวคนหนึ่ง มีหรือที่จะต้านทานการหมายหัวจากจักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงได้?
เขาจึงได้แต่ต้องยกมือขึ้นมาโบกปัด “ท่านเจิ้งหมิง ใจเย็นๆ ก่อน! ฟังข้าพูดให้มันจบก่อนเถอะ! วังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์อินทรีสวรรค์นั้นมันเป็นค่ายกองกำลังที่เพิ่งก้าวขึ้นมาในช่วงหลายร้อยปีนี้ แต่นามของพวกเขานั้นกลับโด่งดังไปได้ทั่วมหาพิภพถงเทียนจนไม่มีใครกล้าละเลย! เด็กคนนั้นที่ท่านเพิ่งได้เห็นไปเขาคงเป็นผู้นำของวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์อินทรีสวรรค์แล้ว! และตัวตนของเขานั้นยังมีอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือเขาเป็นรองมหาปราชญ์แห่งวิหารนักบวช!”
“รองมหาปราชญ์! ตัวตนที่เป็นรองแค่มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล เขานั้นกลับเป็นรองมหาปราชญ์ของวิหารนักบวช! เช่นนั้น…” เมื่อคนทั้งหลายได้ยินพวกเขาต่างก็ต้องหยุดคิดลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...