แดนกลาง ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิตะวันธารา!
ภายในวังใต้ดินมีชายชุดขาวกำลังนั่งเล่นอยู่กับนางบำเรอสองคน
ในเวลานี้มันได้มีลูกน้องของเขาผู้หนึ่งวิ่งเข้ามารายงานด้วยหน้าตาตื่น “ท่านผู้นำสาขา กระดานวิญญาณของเหล่าเทพสวรรค์ที่ตามติดไป่หลี่ชิงหยานไปนั้นแตกสลายลงสิ้น พวกเขาตายลงหมดทุกผู้คน!”
“หะ? เทพสวรรค์เก้าดาวถึงห้าคนตามล่าเทพสวรรค์แปดดาวคนเดียวแต่กลับเป็นฝ่ายตายลงสิ้น? นางไปเก่งกาจปานนั้นได้ตั้งแต่เมื่อใดกัน?” ชายชุดขาวนั้นร้องถามขึ้นมา
ลูกน้องผู้นั้นเองก็ไม่รู้ต้องตอบอย่างไร “เรื่องนั้น… ข้าน้อยก็ไม่ทราบ”
ชายชุดขาวเองก็นั่งเงียบไปพักใหญ่ก่อนจะสั่งออกมา “ไปเอากระดานวิญญาณของนางมา! ดูท่าจักรพรรดิผู้นี้จะต้องลงมือเองเสียแล้ว! ชิๆ นางเด็กคนนี้มันดื้อด้านจริงๆ ยอมตายดีกว่ายอมก้มหัวให้จักรพรรดิผู้นี้! ข้าล่ะอยากรู้เสียจริงๆ ว่ามันจะไปซ่อนตัวที่ใดได้?”
ไม่นานนักลูกน้องผู้นั้นก็ได้นำเอากระดานวิญญาณของไป่หลี่ชิงหยานออกมา
ชายชุดขาวนั้นมองดูกระดานวิญญาณนั้นด้วยใบหน้าเย้ยหยัน
เขาส่งจิตศักดิ์สิทธิ์ของตนลงไปค้นหาดูจนต้องขมวดคิ้วแน่น
ชายชุดขาวนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางมึนงง “เดี๋ยวนะ ทำไมข้าถึงสัมผัสได้ว่ามันอยู่ไม่ไกลไปนี้?”
“เจ้าสัมผัสไม่ผิดหรอก นางอยู่ที่นี่จริง”
เวลาเดียวกันนั้นเองมันก็มีเสียงหนึ่งร้องกล่าวขึ้นมาจากความว่างเปล่า
จากนั้นมันก็ปรากฏสามเงาร่างค่อยๆ ก้าวเดินออกมาจากความมืด
หนึ่งในนั้นย่อมเป็นไป่หลี่ชิงหยานแล้ว
ในหมู่คนทั้งสามนี้ชายแก่ที่เดินตามหลังมานั้นให้ความรู้สึกอันตรายมากที่สุด
ช่างเป็นคลื่นพลังที่รุนแรง!
ตัวชายชุดขาวนี้ไม่ลังเลใดๆ รีบยกเท้าขึ้นกระทืบลงพื้นจนทำให้ห้วงมิติสั่นสะเทือน!
พร้อมๆ กันนั้นร่างของเขาก็ได้จางหายไปเหลือไว้แค่เงาเลือนลาง
จักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงหรี่ตาลงกล่าวขึ้นทันที “ศาสตร์เร้นลับ! ไม่ดีแล้ว มันคิดหนี!”
“หยุด!”
แต่ทว่าเสียงของเขายังไม่ทันจางหายดีเย่หยวนก็ได้กล่าวคำพูดนี้ออกมา
มิติรอบข้างทั้งหลายนั้นถูกหยุดลงในทันที!
จักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงต้องเบิกตากว้างมองดูเย่หยวนอย่างตกตะลึง “ค-คำบัญชาเต๋าสวรรค์! เจ้า… เจ้าจะมีไม้ตายอีกสักกี่อย่างกัน?”
เย่หยวนตอบกลับมา “ไม่ต้องกังวลไป เดี๋ยวท่านจะได้เห็นมันเรื่อยๆ เอง”
พูดจบเขาก็เดินเข้าไปชี้นิ้วลงยังความว่างเปล่าก่อนจะปรากฏร่างของชายชุดขาวนั้นในสภาพอ่อนแรงไม่อาจต่อสู้ใดๆ
ชายชุดขาวผู้นี้มันเป็นแค่จักรพรรดิเทพสวรรค์หนึ่งดาว สำหรับเย่หยวนแล้วการฆ่าสังหารเขานั้นมันย่อมง่ายดายลำบากแค่พลิกฝ่ามือ
เย่หยวนลากคอของเขาขึ้นและโยนร่างนั้นไปตรงหน้าไป่หลี่ชิงหยาน “เจ้าจัดการมันเองเถอะ”
ไป่หลี่ชิงหยานมองดูที่จักรพรรดิเทพสวรรค์ผู้เก่งกาจนี้ แม้แต่ตัวเขาก็ยังไม่อาจต่อต้านเย่หยวนได้แม้แต่น้อย นางได้แต่ต้องมองดูด้วยรอยยิ้มเย้ยหยันสุดใจ
เย่หยวนในเวลานี้แข็งแกร่งจนเกินไป!
ไป่หลี่ชิงหยานมองดูที่ชายคนนั้นก่อนจะกล่าวขึ้น “รุ่ยฉิน เจ้าคงไม่คิดว่าจะได้มีวันนี้ใช่หรือไม่?”
รุ่ยฉินหน้าถอดสีร้องตะโกนขึ้นมา “ไป่หลี่ชิงหยาน เจ้าอย่าได้ลืมไปว่าเจ้ายังคำสาปวิญญาณมรณาอยู่ในร่าง! หากเจ้าคิดทรยศประตูวิญญาณมรณาแล้วเจ้าจะได้ตายอย่างไรที่กลบฝัง!”
ไป่หลี่ชิงหยานกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าเย้ยหยัน “น่าเสียดายที่คำสาปวิญญาณมรณาของข้ามันถูกแก้ไขลงแล้ว!”
รุ่ยฉินนั้นหัวเราะลั่นขึ้นมา “ฮ่าๆๆ… คำสาปวิญญาณมรณานั้นมันเป็นสิ่งที่แม้แต่เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ยังไม่อาจแก้ไขได้ เจ้าคิดว่าตนเองจะมีปัญญาทำมัน?”
“ข้าย่อมไร้ซึ่งปัญญาใดๆ จะแก้ไขมัน แต่เขานั้นมีปัญญาพอ!” ไป่หลี่ชิงหยานชี้ไปทางเย่หยวน
รุ่ยฉินยังไม่คิดเชื่อใดๆ “คำสาปวิญญาณมรณานั้นคือวิชาคำสาปลับของประตูวิญญาณมรณาที่แม้แต่จักรพรรดิเทพสวรรค์เก้าดาวก็ยังไม่อาจแก้ไข! เจ้าคิดว่าแค่มันนี้ จักรพรรดิเทพสวรรค์หนึ่งดาวผู้หนึ่งก็สามารถแก้มันออกได้หรือ? ไป่หลี่ชิงหยานเจ้าคิดว่าจักรพรรดิผู้นี้โง่มากหรือ?”
แต่ไป่หลี่ชิงหยานกลับกล่าวขึ้น “เจ้าน่าจะเคยได้ยินนามของเขานะ รองมหาปราชญ์แห่งวิหารนักบวช!”
ครั้งนี้มันกลับเป็นฝ่ายรุ่ยฉินที่หน้าถอดสี
เขาได้แต่ต้องหันหน้ากลับไปมองดูที่เย่หยวนด้วยความหวาดกลัว
“เจ้า… เจ้าคือรองมหาปราชญ์เย่หยวน! เป็นไปได้อย่างไร! มันเป็นไปได้อย่างไรกัน! ข้า… ข้าไม่ได้มีความแค้นใดกับเจ้า! ทำไมเจ้าถึงได้…”
ไม่นานมานี้เขาได้รับคำสั่งจากเบื้องบนมาว่าอย่าได้นำพาประตูวิญญาณมรณาไปท้าทายลบหลู่เย่หยวนผู้นี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...