ม่านหมอกในเวลานี้มันหนาแน่นจนทำให้ผู้คนไม่อาจมองเห็นทางข้างหน้าได้
ที่แห่งนี้มันคือเทือกเขาหทัยเมฆา
เทือกเขาหทัยเมฆานั้นเป็นเทือกเขาใหญ่ที่อยู่ติดกับเขาแห่งถงเทียนมีพลังงานวิญญาณฟ้าดินที่หนาแน่นจนแทบจะจับต้องได้ด้วยมือเปล่า
ทางเข้าของอาณาจักรหทัยเมฆานั้นมันตั้งอยู่ ณ จุดที่พลังงานฟ้าดินหนาแน่นที่สุดบนเทือกเขาหทัยเมฆาแห่งนี้
ปกติแล้วมันย่อมจะไม่มีใครกล้าเดินทางมา
เพราะที่แห่งนี้มันคือวังพำนักของโอสถบรรพกาล ไม่มีใครกล้าที่จะมาเข้าใกล้อย่างไม่ได้รับอนุญาตแน่นอน
แต่เวลานี้เทือกเขาหทัยเมฆามันกลับเปี่ยมล้นไปด้วยผู้คนมากหลาย ยอดฝีมือมากมายกำลังเหาะเหินเข้าไปภายในเทือกเขาไม่ว่างเว้น
“ชิๆ โอสถบรรพกาลนั้นครองเทือกเขาที่มีพลังงานฟ้าดินหนาแน่นราวสายน้ำเช่นนี้มันช่างสมชื่อจริง! หากไม่ได้ติดตามเจ้ามานั้นจักรพรรดิผู้นี้เองก็คงไม่อาจจะเข้ามาถึงที่แห่งนี้ได้!” จักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าตื่นตะลึงต่อภาพตรงหน้า
ตัวตนระดับจักรพรรดิเทพสวรรค์แปดดาวของเขานี้มันคือตัวตนระดับสูงล้ำ ระดับผู้ปกครองมหาพิภพถงเทียน
แต่เทือกเขาหทัยเมฆาแห่งนี้ แม้แต่ตัวเขาก็ไม่กล้าจะเข้ามาย่างกราย
อาณาจักรหทัยเมฆานั้นมันมีรากฐานพลังอำนาจที่ลึกล้ำกว่าวิหารนักบวชจะเทียบเคียงได้
ที่แห่งนี้มันมียอดฝีมือมากล้น แม้แต่เหล่าเจ้าฟ้าดินทั้งหลายก็ยังไม่กล้าจะมาวางอำนาจในที่แห่งนี้ ไม่ต้องพูดถึงจักรพรรดิเทพสวรรค์แปดดาวอย่างจักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงนี้เลย
เมื่อสัมผัสถึงคลื่นพลังงานตรงหน้านี้เย่หยวนก็ต้องพยักหน้ารับออกมา “ที่แห่งนี้มันอยู่ใกล้เขาแห่งถงเทียนมาก ดูท่าแล้วคงเป็นหนึ่งในวังพำนักจักรพรรดิเทพสวรรค์ที่มีพลังงานวิญญาณหนาแน่นที่สุดแน่ สมชื่อโอสถบรรพกาลเสียจริง”
แม้ว่าตัวเขานั้นจะไม่ได้ชื่นชมนิสัยของโอสถบรรพกาล แต่เย่หยวนก็ไม่เคยคิดสงสัยในความเก่งกาจของคนผู้นั้นเลย
“เอ๋ สาวงามแท้!”
ชายหนุ่มผู้หนึ่งปรากฏขึ้นมาที่ด้านข้างของไป่หลี่ชิงหยานด้วยสายตาหื่นกระหาย
ที่ด้านหลังชายหนุ่มนั้นมันมีชายแก่หัวขาวตามมาไม่ไกล
ชายแก่ผู้นี้มีพลังที่เหนือล้ำ ดูท่าแล้วคงมิใช่แค่จักรพรรดิเทพสวรรค์ทั่วๆ ไป
ไป่หลี่ชิงหยานนั้นขมวดคิ้วแน่นแต่ก็ไม่ได้คิดสนใจชายหนุ่ม
“เย่หยวน ไปเถอะ” ไป่หลี่ชิงหยานบอก
เย่หยวนพยักหน้ารับก่อนจะพุ่งตัวทิ้งห่างชายหนุ่มคนนั้นออกไป แต่เจ้าหนุ่มคนนั้นกลับมุดมิติเข้ามายืนปิดทางคนทั้งสามไว้
“หึๆ นางงามน้อย นายน้อยผู้นี้ชอบเจ้าเหลือเกิน! สาวงามล้ำ ข้านั้นคือจอมเทพโอสถเจ็ดดาวที่เก่งกาจที่สุดในตระกูลเล้งแห่งอาณาจักรม่วงคราม นามว่าเล้งเทียนห่าว ในวันหน้าข้านั้นจะได้เข้ารับการสั่งสอนจากโอสถบรรพกาล หากเจ้าติดตามข้าไปแล้วเจ้าจะได้รับผลประโยชน์และชื่อเสียงมหาศาล”
เล้งเทียนห่าวกล่าวคำพูดออกมาอย่างมั่นใจ คิดไปว่าเมื่อเขาเอ่ยถึงนามของตระกูลเล้งขึ้นมาตัวไป่หลี่ชิงหยานจะต้องสนใจแน่นอน
“ตระกูลเล้งแห่งอาณาจักรม่วงคราม!”
เย่หยวนและไป่หลี่ชิงหยานนั้นไม่ได้คิดสนใจมากมาย แต่เป็นฝ่ายจักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงที่เบิกตากว้างขึ้นมาอย่างตกตะลึง
ได้เห็นสีหน้าของจักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงนั้น เล้งเทียนห่าวก็ยิ่งยิ้มได้ใจ
“ทำไมหรือ? ตระกูลเล้งแห่งอาณาจักรม่วงครามนี้มีชื่อมาก?” เย่หยวนถามขึ้น
จักรรพรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงนั้นพยักหน้ารับ “อาณาจักรม่วงครามนั้นเป็นตระกูลโอสถโบราณมากชื่อ มีตำนานย้อนกลับไปนานแสนนานเบื้องหลังลึกล้ำ! ส่วนบรรพบุรุษของตระกูลเล้งนั้นก็เป็นถึงยอดฝีมือเต๋าโอสถอาณาจักรบรรพกาลขั้นสุด ได้ยินว่าเล้งเทียนฉีแห่งตระกูลเล้งนี้ได้เข้ากราบศิษย์คนโตของโอสถบรรพกาลเป็นอาจารย์ นับเป็นหลานศิษย์ของโอสถบรรพกาลคนหนึ่ง”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงนั้นอยู่มานานปีและย่อมจะรู้เรื่องราวของยอดคนตระกูลใหญ่ในมหาพิภพถงเทียนมากมาย
ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือตระกูลเล้งนี้เป็นหนึ่งในยอดตระกูลโอสถโบราณ
ได้ยินคำของจักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงนั้นเล้งเทียนห่าวก็กล่าวขึ้น “หึ เล้งเทียนฉีนั้นคือพี่ชายข้าเอง!”
เย่หยวนตอบกลับไปด้วยเสียง ‘อ่อ’ อย่างไม่คิดสนใจ
“สาวงามน้อย ติดตามเจ้าเด็กน้อยจนๆ เช่นนี้ไปมันก็ไม่มีอนาคตหรอก เจ้าติดตามข้ามาเถอะ เจ้าจะได้รับทั้งทรัพย์สมบัติและชื่อเสียง วันหน้าอาจจะขึ้นถึงอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ขั้นสุดได้ไม่ยากเย็น! คิดว่าอย่างไร สนใจหรือไม่?”
เล้งเทียนห่าวกล่าวขึ้นพร้อมยื่นมือเข้ามาถึงตัวไป่หลี่ชิงหยานอย่างไม่คิดสนใจตัวเย่หยวนหรือจักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิง
ไป่หลี่ชิงหยานหรี่ตาลงอย่างเย็นเยือกขยับตัวหลบมือของเขา
เล้งเทียนห่าวนั้นไม่คิดสนใจแม้แต่น้อยและรีบกล่าวขึ้นมาตาม “สาวน้อยเจ้าคงอายแล้ว! วางใจเถอะ พี่คนนี้จะรักดูแลเจ้าอย่างดี”
ไป่หลี่ชิงหยานเริ่มปล่อยจิตสังหารออกมาพร้อมกล่าว “เย่หยวน ข้าอยากสังหารคน!”
เย่หยวนตอบกลับไป “สังหารทำไม? เจ้าสัตว์ป่าหื่นกระหายเช่นนี้ ตอนมันสิถึงจะสมควร”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...