“ดูท่าจักรพรรดิผู้นี้คงต้องลงมือแล้ว!”
เมื่อได้เห็นเย่หยวนยืนนิ่งไม่ขยับไหวตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์ชิงหยูก็ได้ยกนิ้วชี้ขึ้นมาคิดทำลายเย่หยวนทิ้ง
แต่ในเวลานั้นเองมันกลับปรากฏเงาร่างหนึ่งก้าวออกมาจากความว่างเปล่าบังหน้าเย่หยวนไว้พร้อมยกมือขึ้นปัดพลังโจมตีนั้นทิ้งสิ้น
เมื่อได้เห็นถึงผู้มาเยือนนี้ตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์ชิงหยูก็ต้องก้มหัวลงทันที “ท่านจื่อจิน!”
จื่อจินนั้นไม่คิดสนใจเขาและหันไปก้มหัวคารวะต่อเย่หยวน “ศิษย์แห่งโอสถบรรพกาลขอต้อนรับท่านรองมหาปราชญ์”
ได้ยินนามของรองมหาปราชญ์นั้นตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์ชิงหยูย่อมจะหน้าซีดขาวลงทันที
ใครกันที่จะไม่รู้จักนามนี้!
ดาวรุ่งแห่งโลกโอสถ จักรพรรดิเทพสวรรค์ชิงหยูก็ย่อมจะเคยได้ยินนามนั้นมามากหลายจนหูแทบฉีก
แต่เขานั้นไม่เคยจะได้เห็นหน้าเย่หยวนมาก่อน!
เวลานี้ตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์ชิงหยูได้แต่ต้องยื่นเสียวสันหลัง เป็นเวลานี้เองที่เขาได้รู้แล้วว่าตนเองพลาดไปแค่ไหน
เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นมันย่อมจะดึงดูดสายตาผู้คนที่ผ่านไปมาไม่น้อยและทำให้ยอดฝีมือมากหลายเริ่มหยุดเท้าลงหันมามองดู
ได้ยินคำของจื่อจินนั้นทุกผู้คนต่างก็ต้องจ้องมองดูเย่หยวนอย่างสั่นสะท้าน
“เขานี้คือรองมหาปราชญ์ในตำนานนั้น? ไม่นึกเลย! เด็กหนุ่มเช่นนี้กลับจะสร้างชื่อได้มากปานนั้นไปแล้ว!”
“ข้าได้ยินมาว่ารองมหาปราชญ์นั้นมีวิชาการโอสถที่เหนือล้ำกว่าเหล่าจอมเทพโอสถแปดดาวขั้นสุดทั้งหลายเสียด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าเป็นจริงหรือไม่”
“ชิๆ ท่านชิงหยูก็วางท่าเสียมาก ดูท่าเรื่องคงไม่จบง่ายๆ แล้ว”
…
นามของรองมหาปราชญ์นั้นไม่ว่าคนผู้นั้นจะอาศัยอยู่ที่ใดในมหาพิภพถงเทียนแต่หากเป็นคนในวงการโอสถย่อมจะเคยได้ยินถึงมันมาสิ้น
เพียงแค่ว่าคนที่เคยได้พบเจอเย่หยวนเจ้าจริงๆ นั้นมันมีเพียงแค่หยิบมือเท่านั้น
เย่หยวนจึงกล่าวขึ้นมา “หึๆ การต้อนรับของอาณาจักรหทัยเมฆาท่านนี้เย่ผู้นี้ได้รับรู้ถึงมันอย่างสุดใจแล้ว”
จื่อจินผงะไปก่อนจะร้องกล่าว “ชิงหยู ทำไมยังไม่มาขอโทษท่านรองมหาปราชญ์อีก?”
จักรพรรดิเทพสวรรค์ชิงหยูนั้นได้แต่ต้องฝืนใจเดินเข้ามาก้มหัวลงขอโทษต่อเย่หยวน “ชิงหยูไม่ทราบว่ารองมหาปราชญ์มาถึงแล้ว ทำให้ล่วงเกินท่านไปข้าต้องขออภัยอย่างสูง!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “พี่ชิงหยู เมื่อกี้ท่านว่าอย่างไรนะ? เย่ผู้นี้ไม่ได้ยิน ช่วยพูดดังๆ อีกครั้งได้หรือไม่?”
จักรพรรดิเทพสวรรค์ชิงหยูนั้นได้แต่ทำหน้าเหยเก เพราะคำของเย่หยวนนั้นมันยังกังก้องในหัว
ก่อนหน้าเขายังไม่คิดใดๆ แต่เวลานี้ใบหน้าของเขามันแดงก่ำราวกับถูกตบเข้าอย่างจัง
แต่แน่นอนว่าคนที่ตบหน้าเขานี้มันก็คือตัวเขาเอง
เขานั้นวางท่ามากจนเกินไป
เพิ่งพูดกล่าวไปว่าคนอาณาจักรหทัยเมฆานั้นไม่เคยต้องขอโทษใคร แต่วินาทีต่อมาเขากลับต้องก้มหัวลงขอโทษ
“ชิงหยูมีตาหามีแววไม่ หวังว่ารองมหาปราชญ์จะไม่โกรธแค้นเอาเรื่องกัน” ชิงหยูนั้นได้แต่ต้องกล่าวขอโทษขึ้นมาอีกครั้ง
เย่หยวนกล่าวขึ้น “หากเจ้าแค่เข้าข้างคนไม่ตัดสินตามเรื่องราวก็ยังพอว่า แต่นี่เจ้ากลับคิดสังหารเย่ผู้นี้ลง! เจ้าคิดว่าความผิดที่คิดฆ่ากันลงมันจะจบลงได้ด้วยคำพูดขอโทษเช่นนี้?”
ชิงหยูหน้าถอดสีก่อนจะกล่าวขึ้น “ท่านรองมหาปราชญ์ จะอย่างไรข้าก็เป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์เก้าดาวผู้หนึ่ง ท่านจำเป็นต้องกดดันข้าปานนี้? อย่าได้ทำให้เรื่องมันกลายเป็นเรื่องใหญ่โต วันหน้าเรายังต้องพบเจอกันอีกหลายครั้งนะท่าน!”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เก้าดาวนั้นก็ย่อมจะมีศักดิ์ศรีของจักรพรรดิเทพสวรรค์เก้าดาว
ตัวตนของเขานี้คือยอดคนที่ปกครองมหาพิภพถงเทียน
เจ้าฟ้าดินทั้งหลายนั้นไม่ได้ออกมาสู่โลกภายนอกมากนักเก็บตัวอยู่ในสถานที่ไร้ผู้คน
เพราะฉะนั้นจักรพรรดิเทพสวรรค์เก้าดาวจึงเป็นตัวตนที่ปกครองโลกหล้าอย่างแท้จริง
จักรพรรดิเทพสวรรค์ชิงหยูนั้นรู้ว่าตำแหน่งของเย่หยวนมันสูงล้ำ แต่เขาก็ยังเป็นแค่เด็กหนุ่มที่เพิ่งบรรลุอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ขึ้นมา
การให้เขามาขอโทษเย่หยวนนี้ก็ถือว่าเป็นการให้เกียรติมากพอแล้ว แต่อีกฝ่ายกลับยังไม่คิดพอใจ!
เย่หยวนไม่ตอบกลับเขา แต่หันไปพูดกับจื่อจินแทน “พี่จื่อจิน ท่านว่าอย่างไร?”
จื่อจินเองก็ได้แต่ทำหน้าเหยเก เพราะเขานั้นไม่นึกว่าเย่หยวนยังไม่ทันจะได้เข้าถึงอาณาจักรหทัยเมฆาทั้งสองฝ่ายก็จะเกิดเรื่องแตกหักกันได้ปานนั้น
หากให้พูดจริงๆ แล้วตัวเขาก็ไม่ได้เข้าใจว่าเหตุใดอาจารย์ของเขาจึงให้ค่าเย่หยวนมากนัก
แต่อาจารย์ของเขากำชับมาแล้วว่าให้ดูแลเย่หยวนอย่างดี
เทียบกับคำสั่งนั้นแล้วศักดิ์ศรีใดๆ ของจักรพรรดิเทพสวรรค์ชิงหยูมันย่อมไร้ค่า
“ชิงหยู คุกเข่า!” จื่อจินสั่ง
ตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์ชิงหยูต้องหันไปร้องตอบ “ท่านจื่อจิน!”
“คุกเข่า! กราบขอโทษเสีย!” จื่อจินร้องสั่นด้วยน้ำเสียงตวาด
จักรพรรดิเทพสวรรค์ชิงหยูนั้นยังมีสีหน้าไม่คิดยอมรับมองดูเย่หยวนอย่างดุดัน คิดสังหารอีกฝ่ายลงให้มันจบๆ กันไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...