เย่หยวนนั่งลงถกเต๋ากับมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลอย่างที่เหล่าศิษย์ทั้งสิบเอ็ดไม่อาจจะเข้าใจถึงเนื้อหาของมันได้มากมายนัก
ในหมู่คนทั้งสิบเอ็ดนั้นบ้างก็บรรลุผ่านอาณาจักรเจ้าฟ้าดินและมีเต๋าโอสถในอาณาจักรบรรพกาลขั้นสุดไปแล้ว
แต่เมื่อยังก้าวไม่ถึงระดับของโอสถเต๋าแล้วพวกเขาก็ย่อมจะไม่อาจเข้าใจถึงเรื่องที่คนทั้งสองถกกันได้มากมายนัก
พวกเขานั้นได้เข้าใจชัดเจนว่าความเข้าใจของอาจารย์ตนและเย่หยวนนั้นมันเหนือล้ำจนข้ามหัวพวกเขาไปไกล
เต๋าโอสถนั้นมันแตกต่างจากวิชาอื่นๆ ไปมากเพราะมันจะเริ่มขึ้นมาจากวิชาการสมุนไพรและต้องเรียนรู้กันผ่านวัตถุดิบนั้นๆ
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือสมุนไพรวิญญาณทั้งหลายในโลกหล้ามันมีคุณสมบัติมากหลายต้องใช้เวลาทำความเข้าใจมากล้น
สำหรับนักหลอมโอสถทั่วๆ ไปแล้วการหลอมโอสถของพวกเขามันย่อมจะหยุดลงแค่ที่ระดับของวัตถุดิบ
การจะก้าวขึ้นจากความรู้พื้นฐานสู่เต๋านั้นมันเป็นเรื่องที่สุดแสนยากเย็น
เพราะในระดับนี้แล้วคนทั้งหลายจะเข้าใจสมุนไพรต่างๆ ได้ในระดับของเต๋า เป็นมุมมองที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง
ศิษย์ทั้งสิบเอ็ดนั้นเข้าใจมันจากล่างขึ้นบน
ส่วนเย่หยวนและมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนี้เข้าใจมันจากบนลงล่าง
มันเป็นมุมมองความรู้ของผู้ที่อยู่สูงส่ง
แม้ว่าคนทั้งสองนั้นจะไม่ได้ยืนอยู่ที่ยอดสุดของเต๋าโอสถอย่างแท้จริงแต่มันก็ยังอยู่สูงล้ำเหนือหัวคนทั่วไปอย่างสิ้นเชิง
ไม่นานจากที่คนทั้งสองเริ่มถกกันมันก็เกิดทำนองเต๋าดังขึ้นกังวานทั่วเขาขนนก
เวลานี้ทั้งเขาขนนกมันดังก้องไปด้วยเสียงอันน่าหลงใหลแห่งเต๋า
แม้ว่าศิษย์ทั้งสิบเอ็ดนั้นจะไม่อาจเข้าใจได้อย่างชัดเจนแต่จะอย่างไรพวกเขานี้ก็เป็นยอดคนที่เหนือล้ำโลกหล้าเบื้องล่าง การถกเต๋าของยอดคนระดับนี้มันย่อมจะให้ความรู้พวกเขาไปได้ในระดับหนึ่ง
“ฮ่าๆๆ… เยี่ยม! ยอดเยี่ยมจริงๆ! เย่หยวน เจ้านั้นได้ทำให้จักรพรรดิผู้นี้ได้เปิดหูเปิดตาแล้ว!” ยี่ยิ้มกล่าวขึ้นอย่างพึงพอใจ
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เช่นกัน ผู้อาวุโสศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลท่านได้ทำให้เย่ผู้นี้เข้าใจโลกหล้าเหมือนได้ตรัสรู้”
แต่จู่ๆ ยิ่งก็หุบยิ้มลงและกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “เย่หยวน แม้เต๋าของเจ้านั้นจะยังไม่เติบโตเต็มที่ แต่มันก็มีความเฉียบคมของตัวมันเองแล้ว! ตราบเท่าที่เจ้ายังก้าวเดินไปในวิถีของตนนี้ สักวันเจ้าอาจจะก้าวผ่านข้าหรือโอสถบรรพกาลไปก็ได้!”
การถกเต๋าในครั้งนี้มันได้ทำให้เกิดความตื่นตะลึงขึ้นในหัวใจของยี่อย่างไม่อาจห้าม
ความเข้าใจของเย่หยวนต่อเต๋าโอสถนั้นมันเฉียบคมเหนือล้ำอย่างที่ไม่มีความเป็นเด็กน้อยใดๆ มันเหมือนว่านี่เป็นเต๋าของยอดคนที่สั่งสมประสบการณ์ชีวิตมายาวนานไม่อาจนับ
แม้ว่าเรื่องนั้นมันจะไม่ได้เกินคาดไปนัก แต่เขาก็ยังรู้สึกว่าตัวเองประเมินเย่หยวนต่ำไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาหกสิบปีที่ความจำเสื่อมนั้นมันได้ทำให้เย่หยวนได้ศึกษาเต๋าโอสถจากหลายมุมมองทำให้ความเข้าใจต่อเต๋าของเขามันเหมือนได้เกิดใหม่ขึ้น
ระหว่างที่พูดคุยกันนี้ เย่หยวนได้กล่าวถึงหลายต่อหลายเรื่องที่ตัวยี่ไม่เคยจะฉุกคิดถึงมาก่อน
ตัวเขานี้มีความคิดที่เฉียบคมความรู้ที่มากหลายด้วยอายุเพียงเท่านี้ มันเป็นเรื่องที่เหนือความเข้าใจผู้คนไปมาก
เย่หยวนยิ้มตอบกลับมา “อาหารนั้นจะอย่างไรมันก็ต้องกินทีละคำ ตั้งแต่ที่ข้าเริ่มศึกษาต้นกำเนิดแห่งเต๋าโอสถนี้วิชาเต๋าโอสถของข้ามันก็พัฒนาได้ช้าลงมาก”
เมื่อคำพูดเหล่านี้ถูกกล่าวเหล่าศิษย์ทั้งหลายก็ต้องทำน้าเหยเกออกมา
เพราะคำพูดนี้มันอวดดีจนเกินทน!
คนอื่นๆ บ่มเพาะเต๋าโอสถนั้นมีใครบ้างที่ไม่ต้องใช้เวลานับหมื่นๆ แสนๆ ปี?
แต่เจ้าใช้เวลาแค่สองพันกว่าปีก้าวขึ้นมาจนถึงระดับต้นกำเนิดเหนือล้ำกว่าความพยายามนับล้านๆ ปีของคนทั้งหลาย แต่ยังกลับมาทำหน้าตาเหมือนไม่พอใจในความเร็วนี้?
สิ่งที่ยากที่สุดในเต๋าโอสถมันก็คือการทำความเข้าใจต่อต้นกำเนิดนี้
เจ้าเด็กคนนี้มันเปิดประตูนั้นออกได้แล้วยังจะมีหน้ามากล่าวบอกว่าตัวเองช้า!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...