จื่อจินนั้นคิดว่าเย่หยวนคงตะโกนร้องไม่พอใจคิดถามหาความรับผิดชอบจากเขา
แต่ผลลัพธ์มันกลับผิดคาด
เพราะเย่หยวนแค่ตอบกลับมาสั้นๆ “ย่อมได้” และเดินจากไป
“หึ รองมหาปราชญ์ใดแล้ว ที่แท้ก็เท่านี้ มันไม่กล้าแม้แต่จะผายลมออกมาสักคำ!” เล้งเทียนฉีนั้นกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าเหยียดหยาม
จ้าวซีซวนยิ้มรับออกมา “ไม่ว่ามันจะมีเต๋าโอสถที่แข็งแกร่งปานใดมันก็ยังเป็นแค่เด็กน้อย! ข้าว่ามันคงต้องกลับไปฟ้องให้มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลฟังแน่”
“ฮ่าๆๆ…” ทุกผู้คนต่างหัวเราะขึ้นมาตาม
“ตัวตนของมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลยิ่งใหญ่ปานใด? มีหรือที่เขาลงลดตัวลงมาจัดการเรื่องราวน้อยๆ เช่นนี้? เจ้าเด็กคนนี้มันยังเป็นแค่เด็กน้อยจริงๆ!” จักรพรรดิเทพสวรรค์ชิงหยูกล่าวขึ้นอย่างดูถูก
แต่จักรพรรดิเทพสวรรค์จื่อจินนั้นก็ขมวดคิ้วออกมา รู้สึกได้ว่ามันมีอะไรที่ไม่ถูกต้อง
เพราะแม้เขาจะไม่ได้เข้าใจนิสัยของเย่หยวนมากมายแต่ดูจากการที่เขาไม่ยอมปล่อยให้จักรพรรดิเทพสวรรค์ชิงหยูไปง่ายๆ ในคราก่อนแล้ว เขาคงมิใช่คนที่จะยอมแพ้ง่ายๆ แน่
ระหว่างที่เขากำลังมึนงงจ้าวซีซวนก็เดินเข้ามาหาเพื่อกล่าวขอบคุณ
“ขอบคุณท่านจื่อจินที่ช่วยทวงความยุติธรรมให้ ซีซวนซาบซึ้งยิ่ง!”
จักรพรรดิเทพสวรรค์จื่อจินยิ้มตอบกลับไป “จักรพรรดิผู้นี้ก็แค่กล่าวตามความจริง ซีซวนเจ้าไม่ต้องขอบคุณใดๆ ไป”
จ้าวซีซวนกล่าวขึ้นมาด้วยสีหน้าเกลียดชังพร้อมมองดูแผ่นหลังของเย่หยวน “รองมหาปราชญ์นั้นเป็นยอดอัจฉริยะการในโอสถอย่างแท้จริง เพียงแค่ว่านิสัยของเขานั้นมันช่างไร้เหตุผล ดูอย่างไรก็เป็นฝ่ายผิดแต่กลับคิดบังคับให้เราขอโทษ เย่อหยิ่งเสียจริง!”
จื่อจินพยักหน้ารับ “เรื่องวันนี้มันเป็นรองมหาปราชญ์ที่ผิดจริงๆ”
แต่แท้จริงพวกเขาทั้งหลายย่อมจะรู้อยู่แก่ใจ
เพราะเรื่องราววันนี้เดิมทีมันก็เกิดขึ้นมาจากแผนของพวกเขานี้ จ้าวซีซวนเองก็รู้ดี
จะอย่างไรจักรพรรดิเทพสวรรค์จื่อจินก็ไม่มีทางเข้าข้างเย่หยวนแน่
ไม่เช่นนั้นแล้วมันจะไม่เป็นการตบหน้าตัวเองเอาหรือ?
ระหว่างที่คนทั้งหลายกำลังพูดคุยกันไปนั้นที่อีกด้านก็ได้มีเสียงร้องลั่นดังขึ้นมา
“เย่แหยวนแห่งวิหารนักบวชขอท้าเขาเมฆาคิมหันต์!”
คำพูดสั้นๆ นี้มันดังลั่นจนแม้แต่คนหูหนวกยังต้องได้ยินดังสะท้านไปทั้งเมืองหทัยเมฆาอย่างไม่อาจหยุดห้าม
เมื่อได้ยินเสียงนั้นคนทั้งหลายก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นอย่างตื่นตะลึง
“หะ? รองมหาปราชญ์… กลับคิดท้าขุนเขา! เขาเมฆาคิมหันต์นั้นมันคือที่พักของจักรพรรดิเทพสวรรค์เฟิงหลิน! นี่มัน… มันคงได้กลายเป็นเรื่องใหญ่แล้ว!”
คนทั้งหลายต่างหันมามองดูที่ใบหน้าของชายหนุ่มอีกคนข้างๆ จ้าวซีซวน
ชายหนุ่มคนนี้มีนามว่าจู้เทียนเซียงเป็นศิษย์รักของจักรพรรดิเทพสวรรค์เฟิงหลิน!
“คิดท้าขุนเขาเช่นนี้มันก็เหมือนการหาเรื่องตรงๆ! นี่รองมหาปราชญ์คิดจะท้าทายเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วยตัวคนเดียวหรือ? บ้าไปแล้ว! บ้าไปแล้วแน่ๆ!”
“เจ้าคิดผิดแล้ว! ดูท่าเป้าหมายของเขานั้นมันจะมิใช่แค่เขาเมฆาคิมหันต์!”
“หะ?! เจ้าจะบอกว่า…”
ทุกผู้คนต่างหันไปมองหน้าพวกจ้าวซีซวนทั้งห้าคน
รองมหาปราชญ์นั้นไม่ได้ตั้งเป้าหมายไว้แค่ที่เขาเมฆาคิมหันต์ แต่เป็นเขาทั้งห้าที่เจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้าพักอยู่
พวกเขานั้นเดาได้ไม่ผิด!
เป้าหมายของเย่หยวนนั้นมันคือเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้าจริงๆ!
‘พวกเจ้าไม่ขอโทษ? กลัวเสียหน้า?’
‘ได้!’
‘เช่นนั้นข้าจะตบสั่งสอนให้พวกเจ้าต้องเสียชื่อเสียงที่มีทั้งหมดไป!’
จักรพรรดิเทพสวรรค์จื่อจินและพวกจ้าวซีซวนนั้นจะดูอย่างไรก็คงรวมหัวกันมาแน่นอนว่าต่อให้พูดไปเท่าใดเย่หยวนก็จะไม่มีทางจัดการปัญหาลงได้
เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่คิดจะพูดคุยใดๆ อีก!
‘ในเมื่อเจ้าคิดทำการอย่างไร้เหตุผลก็จงเตรียมรับความไร้เหตุผลของข้าไว้!’
‘ข้าจะกระทืบเจ้าจนกว่าจะยอมแพ้!’
การท้าเขาที่เย่หยวนทำนี้มันคือการที่เย่หยวนท้าทายทุกผู้คนบนเขาเมฆาคิมหันต์ตั้งแต่ปากทางเข้าจนถึงยอดเขา
ตราบเท่าที่มันมีใครคิดไม่ยอมรับ คนผู้นั้นก็ต้องออกมาประลองกัน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...