จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2303

สรุปบท ตอนที่ 2303 วิกฤตของอาณาจักรหทัยเมฆา: จอมเทพโอสถ

อ่านสรุป ตอนที่ 2303 วิกฤตของอาณาจักรหทัยเมฆา จาก จอมเทพโอสถ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 2303 วิกฤตของอาณาจักรหทัยเมฆา คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายAction จอมเทพโอสถ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ข่าวใหญ่หนึ่งได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองหทัยเมฆา

ข่าวนั้นคือเรื่องที่ว่าห้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้าได้ลงโทษศิษย์ของตนและให้ศิษย์คนโตของแต่ละดินแดนออกมาก้มหัวขอโทษแก่คนติดตามทั้งสองของรองมหาปราชญ์

ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้านั้นได้ออกมายอมรับว่าพวกจ้าวซีซวนทั้งห้านั้นได้วางแผนร้ายให้คนติดตามทั้งสองของรองมหาปราชญ์มาติดกับ

เรื่องราวเช่นนั้นมันเป็นการหมิ่นเกียรติผู้อาวุโสและควรถูกลงโทษอย่างร้ายแรง!

และปิดท้ายมาด้วยเรื่องที่ว่าห้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นได้เปลี่ยนท่าทีและยอมรับว่าเย่หยวนนั้นคือยอดฝีมือระดับบรรพกาลอย่างแท้จริง!

ข่าวนี้มันได้ทำให้วงการโอสถของทั้งมหาพิภพต้องตกสู่ความโกลาหล!

บ้างก็ว่ากันว่าเย่หยวนนั้นได้กดหัวห้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ลงด้วยตัวคนเดียว ทำให้เหล่ายอดฝีมือบรรพกาลทั้งหลายต้องก้มหัวลงอย่างไม่มีทางเลือก

บ้างก็ว่าเพราะเย่หยวนนั้นเอาชนะจางจื้อหลิงได้ด้วยกำลังที่อยู่ในจุดสุดยอดนี้เหล่าบรรพกาลทั้งหลายจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องก้มหัวลงให้เพราะเห็นแก่หน้ามหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล

เพียงแค่ว่าเรื่องใดเป็นความจริงนั้น มันไม่มีฝ่ายไหนออกมาอธิบายให้กระจ่าง

ไม่มีใครทราบได้ว่าในโถงใหญ่ที่ยอดเขานั้นมันเกิดเรื่องราวใดขึ้นกันแน่

แน่นอนว่าผลลัพธ์ที่เป็นที่ประจักษ์คือเรื่องครั้งนี้เย่หยวนเป็นฝ่ายชนะอย่างเด็ดขาด

พวกจ้าวซีซวนทั้งห้านั้นไม่ยอมขอโทษจบเรื่องแต่แรก สุดท้ายกลับทำให้ทั้งสำนักของตนต้องก้มหัวลงขอโทษตาม

เรื่องราวนี้มันได้ทำให้คนทั้งหลายต้องตกตะลึงไปตามๆ กัน

เมื่อพวกจักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงได้เห็นพวกจ้าวซีซวนมาก้มหัวขอโทษ พวกเขาก็ต้องยืนตะลึง

พวกจ้าวซีซวนนั้นย่อมมีฝีมือพลังบ่มเพาะต่ำกว่าจักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงแต่ตำแหน่งสถานะของพวกจ้าวซีซวนนั้นเหนือล้ำกว่าเขาไปอย่างคนละโลก

ส่วนตัวเฒ่าขี้เมานั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงไปกันใหญ่

เมื่อพวกจักรพรรดิเทพสวรรค์จื่อจินทั้งสามได้ยินเรื่องเข้า พวกเขาต่างก็ยื่นนิ่งด้วยความมึนงง

ก่อนหน้านี้พวกเขาทั้งหลายนั้นยังคิดว่าเย่หยวนหาเรื่องใส่ตัวคิดไปท้าทายขุนเขาเช่นนั้น

แต่ใครจะไปคิดว่าเรื่องราวกลับออกมาอย่างร้ายแรง กลายเป็นว่าฝ่ายห้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก้มหัวลงขอโทษตามๆ กันแทน!

“บ้าน่า! หรือว่าเจ้าเด็กคนนั้นมันจะขึ้นไปถึงระดับของโอสถเต๋าแล้วจริง?” จื่อจินนั้นร้องกล่าวขึ้นอย่างไม่คิดอยากเชื่อ

เย่หยวนนั้นมีฝีมือเอาชนะได้แม้แต่จางจื้อหลิง มีหรือที่ตัวเขาจะเอาชนะได้?

แล้วคนที่แสวงเต๋าโอสถ มีใครบ้างที่จะไม่อยากก้าวขึ้นถึงระดับโอสถเต๋า?

ด้วยความที่เป็นศิษย์คนเล็กของโอสถบรรพกาลตัวจื่อจินเองก็ย่อมจะเป็นถึงเจ้าฟ้าดินและมีวิชาเต๋าโอสถในอาณาจักรบรรพกาลขั้นปลาย

แม้ว่าเขาจะยังอยู่ห่างจากขั้นสุดไปนิดหน่อยแต่เป้าหมายของตัวเขามันก็ย่อมจะเป็นที่โอสถเต๋าเช่นกัน!

ภายใต้การสั่งสอนของโอสถบรรพกาลนั้นมีเพียงแค่ศิษย์พี่ใหญ่จักรพรรดิเทพสวรรค์ฉางเล่อและศิษย์พี่รองจักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูของเขาเท่านั้นที่ก้าวขึ้นไปถึงระดับโอสถเต๋าได้

ศิษย์คนอื่นๆ นั้นไม่มีใครที่จะก้าวผ่านระดับนี้ไปได้

หนึ่งสำนักแต่กลับมีผู้บรรลุโอสถเต๋าถึงสามคน แน่นอนว่าอาณาจักรหทัยเมฆานี้ย่อมจะสมได้รับฉายานามเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์อันดับหนึ่งในมหาพิภพถงเทียน

“อาจารย์อาท่านเองก็คิดมากเกินไปแล้ว! เจ้าเด็กคนนั้นมันเอาชนะจางจื้อหลิงได้จริง แน่นอนว่ามันย่อมมีพรสวรรค์ล้ำฟ้าจนทำให้เหล่าเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้านั้นเกรงว่าจะไปลบหลู่มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลเข้า พวกเขาทั้งหลายจึงเลือกที่จะยอมถอยให้ก็เท่านั้น” เล้งเทียนฉีกล่าว

“ใช่แล้ว ท่านจื่อจินอย่าได้คิดให้มันมากความนักเลย ความยากของย่างก้าวนั้นมันยากเกินกว่าที่ใครจะผ่านไปได้! ท่านทั้งหลายนั้นมีพรสวรรค์เหนือล้ำฟ้าดินกันปานใดแต่ก็ยังไม่อาจจะก้าวขึ้นไปได้ มีหรือที่เด็กน้อยอายุแค่ไม่กี่พันปีอย่างมันนี้จะผ่านขึ้นไปได้?” จักรพรรดิเทพสวรรค์ชิงหยูกล่าวขึ้นตาม

แต่ตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์จื่อจินนั้นกลับไม่คิดเช่นนั้นเลย

เขานั้นหยุดคิดไปอีกพักใหญ่ก่อนจะบอกขึ้น “ข้าเกรงว่ามันคงบรรลุขึ้นอาณาจักรโอสถเต๋าได้แล้วจริง!”

เมื่อคนทั้งสองได้ยินเช่นนั้นสีหน้าของพวกเขามันก็เปลี่ยนสีไป

จื่อจินกล่าวขึ้นต่อ “เรื่องราวที่อาจารย์ย้ำมานั้นมันเหนือล้ำกว่าที่พวกเจ้าคาดคิดไปมาก หากเขานี้ยังไม่ขึ้นถึงระดับโอสถเต๋าแล้วมันก็คงไม่มีทางใดที่อาจารย์จะให้ความสำคัญกับเขามากขนาดนี้! ที่สำคัญไปกว่านั้นคือห้าเจ้าดินแดนศักดิ์สิทธิ์นี้เองก็แสนฉลาดมากเล่ห์ หากเย่หยวนไม่มีกำลังมากพอมีหรือที่พวกเขาจะยอมก้มหัวลงง่ายๆ เช่นนี้? ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนใหญ่คนโตเช่นใดแต่การสั่งให้ศิษย์ของตนไปกราบขอโทษคนอื่นเช่นนี้มันก็เป็นการเสียหน้าอย่างมาก!”

เมื่อพวกชิงหยูได้ยินพวกเขาก็ตื่นตะลึงอย่างไม่อาจจะตอบใดๆ กลับมาได้

เรื่องราวตรงหน้านี้มันยิ่งใหญ่เกินไป!

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือจื่อจินวิเคราะห์ได้อย่างมีหลักเหตุผลรองรับหนักแน่นจนไม่อาจหาข้อเถียงได้

เพราะหากอยู่ในตำแหน่งสูงล้ำอย่างเขานี้ การจะวิเคราะห์เรื่องราวมันก็คงมิใช่เรื่องยากใด

เพียงแค่ว่าต่อให้จะรู้ แต่มันก็ไม่มีใครคิดอยากเชื่อ

ไม่ว่าจะเป็นตัวโอสถบรรพกาลหรือมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล มันก็ล้วนแล้วแต่มีเป้าหมายอยู่ที่โอสถเต๋าแท้นี้!

ส่วนเรื่องที่ว่าโอสถเต๋าแท้มันคืออะไร คนทั้งหลายล้วนไม่มีใครทราบ

นี่มันคือเป้าหมายชีวิต!

“เช่นนั้นแล้วมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลย่อมต้องรู้ เหตุใดเขาจึงได้ปล่อยให้เย่หยวนเติบโตอย่างไม่ควบคุม?” จื่อจินพึมพำ

อีกสองคนนั้นย่อมจะไม่อาจคิดหาคำตอบได้และต้องถามขึ้นมาแทบพร้อมๆ กัน “ทำไมหรือ?”

จื่อจินตอบกลับไป “เพราะว่าเขานั้นคิดใช้เย่หยวนนี้เพื่อช่วยให้ตัวเองเติบโต! หลายปีมานี้เขานั้นคิดอยากเอาชนะอาจารย์ข้ามาตลอด!”

พูดมาถึงตรงนี้คนทั้งหลายก็แทบล้มพับลง รวมไปถึงตัวจื่อจินด้วย

เรื่องราวครั้งนี้มันยิ่งใหญ่เกินไป!

หากมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นเอาชนะโอสถบรรพกาลได้จริงแล้ว เย่หยวนก็ยิ่งจะต้องได้รับแรงส่งที่หนักแน่นกว่าเดิมจนเปลี่ยนวงการโอสถทั้งหมดไปสิ้น!

อาณาจักรทหัยเมฆามันจะไม่ได้เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์อันดับหนึ่งอีกต่อไป

มันจะกลายเป็นฝั่งวิหารนักบวชแทน!

ในอดีตมานี้มียอดคนมากมายแค่ไหนที่คิดเอาชนะล้มอาณาจักรทหัยเมฆาลง? แต่มันก็ไม่มีใครที่จะทำได้

แม้แต่ตัวมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลผู้เก่งกาจนั้นเองก็ยังถูกอาจารย์ของเขากดไว้จนโงหัวไม่ขึ้น

แต่เวลานี้มันกลับมีเด็กหนุ่มอายุแค่สองพันกว่าปีปรากฏขึ้นมาทำให้วงการโอสถที่หนักแน่นนั้นต้องสั่นคลอน

เมื่อจื่อจินคิดมาถึงความจริงข้อนี้แล้วเขาก็เริ่มกลัวถึงวิกฤตที่อาณาจักรทหัยเมฆาต้องเผชิญในครั้งนี้!

มันก็เป็นเพราะเช่นนี้เองที่ทำให้เกิดงานประชุมโอสถสหภูมิภาคขึ้นมาเพื่อหยุดยั้งเรื่องราวนั้น

เป้าหมายของงานนี้มันคือเย่หยวน!

……………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ