จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2302

ในโถงใหญ่นั้นมันมีชายแก่ผมเผ้าหนวดเคราหงอกขาวค่อยๆ เดินลงจากบัลลังก์สูงมาหยุดอยู่ตรงหน้าเย่หยวน

จากนั้นเขาก็ผายมือเชิญเย่หยวนลงนั่งที่โต๊ะรับแขก “รองมหาปราชญ์เชิญนั่ง”

เย่หยวนพยักหน้ารับก่อนจะนั่งลงในตำแหน่งเจ้าบ้านและแขกตรงข้ามกัน

ศิษย์ทั้งหลายต่างมึนงงกับการกระทำของอาจารย์ตนมาก!

อาจารย์ของพวกเขานั้นมีตัวตนสูงส่งระดับใด? นอกจากเหล่าเฒ่าทั้งหลายด้วยกันแล้วมันจะมีใครที่มานั่งลงในระดับเดียวกับอาจารย์พวกเขาได้?

“รองมหาปราชญ์นั้นคงตรัสรู้ในเต๋าแล้ว?” บรรพกาลเฟิงหลินถามขึ้น

แม้ว่ามันจะเป็นคำถาม แต่แท้จริงตัวเขาย่อมจะมีคำตอบอยู่ในใจมาแต่แรก

ไม่เช่นนั้นแล้วด้วยตำแหน่งของเขานั้นมีหรือที่เขาจะมานั่งลงในระดับเดียวกับเย่หยวนเหมือนเป็นคนระดับเดียวกัน?

“ข้านั้นพอจะตรัสรู้ได้บ้าง บรรพกาลเฟิงหลินจะให้เกียรติสั่งสอนข้าสักหน่อยหรือไม่?” เย่หยวนถามขึ้น

“ไม่หรอก เมื่อขึ้นมาถึงระดับของพวกเรานี้แล้ว มันไม่ควรจะลงมือกันง่ายๆ อย่างแรกเลยคือสมุนไพรทั้งหลายนั้นมันหาได้ยาก อย่างที่สองคือตำแหน่งของเรานี้” บรรพกาลเฟิงหลินปฏิเสธออกมาอย่างชัดเจน

“หากบรรพกาลเป็นกันเช่นนั้นมันก็คงเป็นการยากต่อเย่ผู้นี้แล้ว” เย่หยวนส่ายหัวออกมา

“หึๆ เฒ่าผู้นี้รู้ดีว่ารองมหาปราชญ์มีเป้าหมายอื่น แต่การปะทะกับคนผู้นั้นมันมิใช่เรื่องที่ฉลาดนัก เรื่องนี้ท่านน่าจะเข้าใจ” บรรพกาลเฟิงหลินกล่าวด้วยสีหน้าหนักใจ

“เย่ผู้นี้ย่อมเข้าใจ แต่ว่า… เย่ผู้นี้ไม่มีอะไรต้องกลัว” เย่หยวนยิ้มตอบ

บรรพกาลเฟิงหลินนั้นส่ายหัวออกมาเมื่อได้ยิน อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้น “อย่างที่เขาว่ากันว่าวัวน้อยนั้นไม่รู้จักกลัวเสือร้าย! เว้นเสียแต่ว่ามันคงไม่มีทางเกิดขึ้นกับเฒ่าผู้นี้ได้ และมิใช่แค่ตัวเฒ่าผู้นี้ แต่คนอื่นๆ เองก็คงไม่ติดกับนั้นง่ายๆ แล้ว”

เย่หยวนที่ได้ยินก็หัวเราะขึ้น “เช่นนั้นมันก็น่าเสียดายจริงๆ!”

คำพูดของคนทั้งสองนั้นมันฟังดูมึนงงลึกลับแต่ศิษย์ทั้งหลายของบรรพกาลเฟิงหลินนั้นเข้าใจสิ้น

ข้อมูลตรงหน้านี้มันสุดแสนยิ่งใหญ่!

อย่างแรกคือเย่หยวนนั้นขึ้นไปถึงระดับของโอสถเต๋าแล้ว!

อย่างที่สองคือเย่หยวนคิดท้าทายโอสถบรรพกาล!

อย่างที่สามคืออาจารย์พวกเขานั้นไม่คิดจะต่อสู้ประลองกับเย่หยวน!

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนมันก็ล้วนเป็นเรื่องใหญ่ที่เขย่าฟ้าดินได้

บรรพกาลเฟิงหลินนั้นไม่ยอมประลองกับเย่หยวน มันเป็นเพราะว่าไม่ว่าเขาจะชนะหรือไม่ มันก็ไม่ได้สร้างประโยชน์ใดๆ ให้แก่ตัวเขา

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเขาเองก็อยู่มาจนเฒ่าปานนี้ มีหรือที่จะยอมให้คนอื่นมาใช้ประโยชน์เปล่าๆ เช่นนี้?

เดิมทีนั้นเขายังไม่รู้ถึงฝีมือของเย่หยวนจึงยังไม่ได้สนใจมากมาย แต่เวลานี้เขาได้รู้แล้วจึงไม่ยอมที่จะให้คนอื่นมาชิงเอาผลประโยชน์ชักจูงเรื่องราว

หากเขาก้มหัวลงให้แก่เย่หยวนในเวลานี้ มันยังพอจะอ้างต่อผู้คนได้ว่าเพราะเขาเคารพต่อมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาล

แต่หากประลองกันไปแล้วแม้จะชนะได้แต่มันก็จะพิสูจน์ให้คนทั้งหลายได้รู้ว่าเย่หยวนนี้ขึ้นมาถึงระดับโอสถเต๋า ทำให้เขาบรรลุเป้าหมายได้ง่ายๆ

และหากแพ้… มันก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความฉิบหายที่จะตามมาเลย

จางจื้อหลิงและศิษย์ทั้งหลายนั้นต่างต้องอ้าปากค้างไม่อาจจะกลับมาตั้งสติได้นานสองนาน

ตรัสรู้ในเต๋า!

แล้วเต๋าใดที่เย่หยวนตรัสรู้?

พวกเขาทั้งหลายเองก็ไม่ใช่คนโง่เง่า มีหรือที่จะเดาไม่ออก?

เย่หยวนนั้นตรัสรู้ในเต๋าโอสถขึ้นถึงระดับของต้นกำเนิดเต๋า อยู่ในระดับของโอสถเต๋า เขานั้นคือยอดฝีมือในระดับเดียวกับอาจารย์ของพวกเขาทั้งหลายไปแล้ว!

แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร?

เจ้าหมอนี่มันยังเป็นแค่เด็กน้อยในสายตาของพวกเขาทั้งหลายแต่กลับยืนอยู่บนจุดสุดยอดของโลกหล้า ขึ้นอยู่ในระดับบรรพกาลได้!

เรื่องราวเช่นนั้น ต่อให้จะอยากเชื่อแค่ไหนพวกเขาก็ไม่อาจทำใจเชื่อลง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวจางจื้อหลิงที่เขาได้ยืนติดอยู่บนจุดนี้มานานนับล้านๆ ปีแต่ก็ยังไม่อาจจะก้าวขึ้นไปได้

ยอดคนระดับเขานี้คือผู้ที่เข้าใจถึงความยากของก้าวย่างนี้อย่างแท้จริง

ก่อนหน้านี้เขาค่อยๆ รอคอยให้วันหนึ่งนั้นจะมาถึง

แต่วันนี้เรื่องราวมันกลับไม่เป็นเหมือนก่อน!

เพราะเด็กหนุ่มที่ออกตัวก้าวช้ากว่าเขาไปนับล้านๆ ไปคนหนึ่งกลับเดินนำหน้าผ่านเขาขึ้นไปถกเต๋ากับอาจารย์ของเขาได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ