โอสถขั้นเทวะตำนานปรากฏขึ้นเช่นนี้มันก็เหมือนกับสมบัติล้ำค่าได้เกิดขึ้นมาสู่โลก
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือมันจะเพิ่มประสิทธิภาพของโอสถวิญญาณบรรพกาลศึกทักษิณไปอีกมาก
การกินโอสถวิญญาณบรรพกาลศึกทักษิณขั้นเทวะตำนานลงไปนี้มันจะช่วยให้จักรพรรดิเทพสวรรค์บรรลุดาวขึ้นได้ทันที!
สำหรับการบ่มเพาะในอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์แล้ว การจะขึ้นในแต่ละดาวนั้นมันต้องใช้เวลานับล้านปี
จักรพรรดิเทพสวรรค์บางคนที่ไม่ได้มากพรสวรรค์ก็อาจจะใช้เวลาถึงสิบล้านปีกว่าที่จะบรรลุดาวขึ้นมาได้
การจะขึ้นแต่ละดาวนั้นมันยากเสียยิ่งกว่าคำว่ายาก!
เพราะฉะนั้นเวลานี้ดวงตาของเหล่ายอดฝีมือทั้งหลายมันจึงแดงก่ำ
โอสถนี้หากอยู่ในมือจางจื้อหลิงแล้วมันก็คงไม่เป็นปัญหาใดเพราะเขานั้นเป็นถึงเจ้าฟ้าดินผู้หนึ่ง
แน่นอนว่าหากเย่หยวนเก็บไว้เองมันก็คงไม่มีปัญหาใดๆ เช่นกัน
เพราะด้วยตำแหน่งของเย่หยวนนั้น อย่างน้อยๆ ในอาณาจักรหทัยเมฆานี้มันก็คงไม่มีใครกล้าลงมือใด
หากแต่เมื่อมันมาอยู่ในมือของมู่เถี่ยเฉิงแล้วมันก็เหมือนเด็กน้อยสามขวบเดินถือทองคำเล่นในเมืองอันวุ่นวาย
แน่นอนว่าเขานั้นเก่งกาจ แต่คนที่เก่งกาจกว่าเขานั้นยังมีอีกมากมาย!
“ร-รองมหาปราชญ์ โอสถนี้… ท่านเก็บไว้เองเถอะ มู่ผู้นี้ไม่มีดวงจะได้ครอบครองมัน” มู่เถี่ยเฉิงกล่าวขึ้นด้วยสีหน้าเจ็บช้ำ
การที่จะพูดกล่าวเช่นนี้ออกมา เขาก็ต้องกัดฟันข่มใจไว้อย่างหนักหน่วง
เพราะแท้จริงแล้วหากเขาได้โอสถนี้ไปเขาก็คงไม่คิดจะขายและเก็บมันไว้ใช้เอง
แต่เขานั้นรู้ว่าตนเองคงไม่มีปัญญาจะเอามันออกไป
เย่หยวนตอบกลับไป “เก็บไปเถอะ เดี๋ยวเจ้าลงเขาไปกับข้า”
มู่เถี่ยเฉิงสั่นสะท้านไปทั้งกายกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มกว้าง “ขอบพระคุณรองมหาปราชญ์มาก! ขอบพระคุณรองมหาปราชญ์จริงๆ!”
คนทั้งหลายที่ได้ยินเองต่างก็ต้องผงะ ความกระหายเลือดบ้าคลั่งใดๆ ของพวกเขามันค่อยๆ เบาบางลงเมื่อได้ยิน
เพราะเรื่องราวในเวลานี้ตัวมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลก็คงรู้ถึงมันแล้ว
หากลงมือใดๆ ต่อรองมหาปราชญ์ไปเวลานี้ พวกเขาทั้งหลายคงได้ตายอย่างไรที่กลบฝัง
เรื่องโง่ๆ เช่นนั้นมันย่อมไม่มีใครคิดทำ
เพียงแค่ว่ามันช่างน่าเสียดาย
“อ่อก!”
ในฝูงชนที่ตามมาติดๆ นั้นตัวฟางเทียนเหรินที่ได้เห็นมู่เถี่ยเฉิงเก็บโอสถวิญญาณบรรพกาลศึกทักษิณขั้นเทวะตำนานลงไปก็ถึงกับต้องกระอักเลือดคำโตร่วงไปนอนหมดสติกับพื้น
การกระทำนี้ของเย่หยวนมันเป็นการตอกย้ำว่าเขานั้นยอมทิ้งทองไปเก็บหินอย่างไร้สมอง!
เจ้าโอหังมากมิใช่หรือ?
คิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่นัก?
เจ้าบอกว่ารองมหาปราชญ์นั้นไร้ค่าใด?
ก็ย่อมได้ ข้าจะทำให้เจ้าต้องเจ็บแค้นจนแทบตาย!
เมื่อเห็นตัวฟางเทียนเหรินล้มลงไปเช่นนั้นคนทั้งหลายต่างก็อดไม่ได้ที่จะหันมามองด้วยความสมเพช
ส่วนอีกด้านทางจางจื้อหลิงนั้นยังคงยืนนิ่งไม่อาจกลับมาตั้งสติใดๆ ได้
เย่หยวนมองดูและกล่าวถามขึ้น “ข้าไปได้แล้วใช่หรือไม่?”
จางจื้อหลิงที่ได้ยินก็สั่นสะท้านไปทั้งกายก่อนจะกล่าวถามขึ้น “เจ้า… ทำได้อย่างไร? ไม่มีคลื่นต้นกำเนิดลึกลับใดแต่เจ้ากลับหลอมโอสถขั้นเทวะตำนานขึ้นมาได้!”
เย่หยวนมองดูที่ใบหน้าตื่นตะลึงนั้นอย่างหนักใจ “ข้าก็บอกเจ้าไปแล้วว่าเจ้านั้นเป็นผู้เยาว์ เพียงแค่ว่าเจ้ากลับไม่คิดสนใจมัน”
พูดจบเย่หยวนก็เดินผ่านตัวจางจื้อหลิงขึ้นไปบนโถงใหญ่ ณ ยอดเขา
มู่เถี่ยเฉิงก็ได้แต่ก้มหัวต่ำเดินตามไป
จางจื้อหลิงนั้นสะดุ้งตัวขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะกล่าวพึมพำ “ข้ากลับแพ้พ่ายลงต่อเด็กน้อยผู้หนึ่ง เช่นนั้นความพยายามหลายล้านปีของข้านี้มันจะทำไปเพื่อสิ่งใด?”
“น่าขัน! บ้าบอสิ้นดี! ข้านั้นคิดไปเสียว่าข้านั้นยืนอยู่จุดสูงสุดภายใต้โอสถเต๋า ที่แท้กลับถูกเด็กน้อยคนหนึ่งเอาชนะลงได้!”
“ฮ่าๆๆ… จุดสุดยอดของเต๋าโอสถบ้าบอใด! อาณาจักรบรรพกาลขั้นสุดใด! ข้าจางจื้อหลิงนี้มันก็แค่หมาขี้แพ้ตัวหนึ่ง!”
เวลานี้มันเหมือนราวกับว่าตัวจางจื้อหลิงกลายเป็นคนบ้าไป
ทุกผู้คนต่างหันมามองเขาด้วยสายตาสงสารและตื่นตะลึง
จางจื้อหลิงนั้นเคยบอกว่าจิตแสวงเต๋าของเย่หยวนมันจะพังทลายลง ไม่นึกว่าฝ่ายที่ต้องเสียจิตแสวงเต๋าไปมันจะกลายเป็นตัวเขา!
แต่คนทั้งหลายก็พอเข้าใจความรู้สึกของจางจื้อหลิงได้
ยอดฝีมือที่อยู่บนจุดสูงสุดผู้นี้กลับแพ้พ่ายลงแก่เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เพิ่งสร้างชื่อให้ตัวเองได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...