“ผู้แข็งแกร่งก็มีแต่จะแข็งแกร่งขึ้น ผู้อ่อนแอนั้นมันก็จะอ่อนแอวันยังค่ำ วิถีของข้านั้นผู้อ่อนแอย่อมต้องถูกผู้แข็งแกร่งใช้งาน”
“แข็งแกร่งแล้วจะทำไม? อ่อนแอแล้วจะทำไม? ตัวเจ้าเองก็ก้าวขึ้นมาจากความอ่อนแอมิใช่หรือ? สิ่งเดียวที่เจ้าแตกต่างจากเหล่าสมุนไพรวิญญาณก็คือเจ้าได้ชาติเกิดที่ดีกว่าเท่านั้น”
“น่าขัน! จักรพรรดิผู้นี้มากพรสวรรค์ก่อนนั้นข้าเอาชนะทุกสิ่งอย่างมาได้ด้วยกำลังของตนเองสิ้นจนได้กลายเป็นตำนานของมหาพิภพถงเทียนนี้ มีหรือที่จะเอาข้าไปเทียบกับมดปลวกพวกนั้นได้?”
“แล้วทำไมเล่า? ไม่ว่าเจ้าจะเก่งกาจปานใดเจ้าก็ยังไม่อาจจะเหนือล้ำมหาพิภพถงเทียนนี้ไปได้! ที่สำคัญไปกว่านั้นคือหากเจ้าพูดถึงเรื่องพรสวรรค์ใดๆ แล้ว เจ้าคิดว่าตัวเองมีค่าใดต่อหน้าเย่ผู้นี้?”
…
คนทั้งสองถกเถียงกันอย่างไม่มีใครคิดยอมให้แก่ใคร
คนที่สามารถสร้างยอดเต๋าของตนเองได้นั้นมันจะต้องมีจิตใจที่หนักแน่นปานใด? มีหรือที่จะถูกคำพูดของผู้คนมาชักจูงออกนอกเส้นทางได้?
จักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูจู่ๆ ก็หัวเราะลั่นขึ้นมา “ฮ่าๆๆ… รองมหาปราชญ์ เจ้าและข้าล้วนแล้วแต่เป็นยอดคนสวรรค์เลือกของยุคสมัยนี้ เหตุใดต้องมาเสียเวลาถกเถียงกันให้เปลืองน้ำลายด้วย? ถึงงานมันจะเพิ่งเริ่มแต่เจ้าสนใจประลองกับข้าสักคราหรือไม่?”
เย่หยวนตอบกลับไปอย่างหนักแน่น “เย่ผู้นี้เองก็คิดเช่นนั้นมาแต่แรกแล้ว”
เวลานี้ลมหายใจของทุกผู้คนมันจึงติดขัดขึ้นเพราะบรรยากาศอันหนักหน่วง
อย่างที่ตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูนั้นว่า คนทั้งสองล้วนแล้วแต่เป็นยอดคนสวรรค์เลือกของยุคสมัยนี้มีกำลังเหนือล้ำคนรุ่นเดียวกันไปมากโข โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูนั้นที่เป็นถึงยอดคนที่เคยประลองกับมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลมาก่อน
ส่วนตัวเย่หยวนเองก็เป็นดาวรุ่งที่สว่างจ้าเสียยิ่งกว่าดวงตะวัน
เพียงแค่ว่าฝีมือที่แท้ของเขานั้นมันอยู่ในระดับใด คนทั้งหลายต่างสงสัยในใจสิ้น
การประลองของยอดคนทั้งสองนี้มันย่อมจะเป็นจุดสนใจของงานประชุมโอสถสหภูมิภาคในทันที
เมื่อคนทั้งสองลุกขึ้นพวกเขาก็ลอยตัวขึ้นไปเหนือท้องฟ้า
จักรพรรดิเทพสวรรค์เฟิงหลินนั้นหลับตาไม่สนใจเรื่องราวมาตลอดจนตอนนี้ที่ในที่สุดเขาก็ต้องเงยหน้าขึ้นมองดูคนทั้งสองนั้น
“เจ้าเฒ่า เจ้าดูคนทั้งสองนั้นเจ้าคิดว่าใครแข็งแกร่งกว่ากัน?” จักรพรรดิเทพสวรรค์อี้เซียนถามขึ้น
“เฒ่าผู้นี้เองก็ไม่ทราบได้แน่” จักรพรรดิเทพสวรรค์เฟิงหลินตอกบลับไป
“หึ เจ้าเฒ่ามากเล่ห์นี่ ถึงเวลานี้แล้วยังไม่คิดจะแสดงความเห็นออกมาอีกหรือ? ในสายตาของข้านี้จะอย่างไรรองมหาปราชญ์ก็ยังมีอายุน้อยจนเกินไป เส้นทางของโอสถเต๋านั้นมันพึ่งพาประสบการณ์ที่สั่งสมนานปี ด้วยความรู้ที่ข้าและเจ้าสั่งสมกันมาหากลงมือกันจริงๆ แล้วมันก็ไม่แน่หรอกว่าจะด้อยกว่ารองมหาปราชญ์นั้น” จักรพรรดิเทพสวรรค์อี้เซียนกล่าว
จักรพรรดิเทพสวรรค์เฟิงหลินหรี่ตาลงก่อนจะกล่าวขึ้นอีกครั้ง “เฒ่าผู้นี้… ไม่แน่ใจ”
เมื่อคำพูดนั้นถูกกล่าวย้ำคนทั้งหลายก็ต้องหันมามองด้วยใบหน้าประหลาดใจ
จักรพรรดิเทพสวรรค์อี้เซียนเองก็กล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าเหยเก “เจ้าเฒ่านี้ เจ้าไม่ได้คิดล้อเล่นข้าใช่หรือไม่? มันไม่ตลกเลย”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เฟิงหลินตอบกลับไปอย่างไม่คิดกระพริบตา “เฒ่าผู้นี้จะมีอารมณ์มาเล่นตลกกับเจ้าหรือ?”
นั้นทำให้คนทั้งหลายต้องสั่นสะท้านไปทั้งกาย
ในหมู่บรรพกาลทั้งหลายนั้นคนที่เคยจะเห็นเย่หยวนลงมือจริงๆ มันคงมีแต่จักรพรรดิเทพสวรรค์เฟิงหลินผู้นี้เท่านั้น
แต่ในเวลานั้นเย่หยวนก็ยังไม่ได้แสดงฝีมือที่แท้จริงออกมา
มันย่อมทำให้ตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เฟิงหลินไม่อาจประเมินได้ว่าแท้จริงเย่หยวนเก่งกาจปานใด
ตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เฟิงหลินนี้ไม่อาจจะสามารถประเมินได้จากทักษะอื่นๆ ที่เย่หยวนแสดงออกมาได้เลยว่าเขานั้นเก่งกาจสักเท่าใด
เขานั้นไม่มีความมั่นใจใดๆ เขาจึงไม่กล้าที่จะทำการอย่างประมาท
จักรพรรดิเทพสวรรค์เฟิงหลินกล่าวขึ้นอีกครั้ง “หากเฒ่าผู้นี้มั่นใจว่าเขามีฝีมือเท่าใดข้าก็คงลงมือไปตั้งแต่เวลานั้นแล้ว มีหรือที่จะทนทานมาจนถึงเวลานี้?”
นั่นทำให้สีหน้าของคนทั้งหลายเริ่มซีดขาวลง เพราะคิดดูแล้วมันก็ย่อมเป็นเช่นนั้น
หากเย่หยวนเป็นแค่เด็กหนุ่มไร้ประสบการณ์ที่เพิ่งบรรลุผ่านระดับโอสถเต๋ามาได้ ตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เฟิงหลินเองก็คงไม่ต้องกัดฟันทนมาจนถึงที่วันนี้
เพราะจะอย่างไรเสียการให้ศิษย์ของตนไปก้มหัวขอโทษคนอื่นนั้นแม้มันจะมิใช่เรื่องร้ายแรงแต่มันก็เสียหน้าไม่น้อย
เหล่าบรรพกาลทั้งหลายต่างเงยหน้าขึ้นมองดูคนทั้งสองกลางอากาศที่กำลังจะลงมือประลองเต๋ากัน
จักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูมองดูเย่หยวนและกล่าวขึ้นมา “เราสองจะประลองกันด้วยวิธีใด?”
เย่หยวนจึงตอบกลับไป “เจ้าเป็นผู้เยาว์ เจ้าเลือก”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูหัวเราะลั่นขึ้นมา “ในโลกนี้นอกจากตัวอาจารย์และมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลแล้วมันยังไม่เคยมีใครกล้ามาเรียกข้า เรียกจักรพรรดิผู้นี้ว่าเป็นผู้เยาว์! รองมหาปราชญ์ เจ้ามันช่างโอหังเสียจริงๆ!”
เย่หยวนจึงตอบกลับไป “เจ้ามีอะไรจะเถียงรึ?”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูแทบจะต้องสำลักออกมาเพราะเขานั้นไม่อาจจะหาสิ่งใดมาเถียงได้
รองมหาปราชญ์นั้นถูกมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลยกย่องให้เป็นคนรุ่นเดียวกัน มันย่อมจะหมายความว่าเขานี้อยู่ในรุ่นเดียวกับโอสถบรรพกาล ตัวเขาที่เป็นศิษย์ของโอสถบรรพกาลนั้นก็ย่อมจะเป็นผู้เยาว์ต่อหน้าเย่หยวน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...