“ฮ่าๆๆ นี่หรือคือฝีมือของเจ้ารองมหาปราชญ์? น่าผิดหวังนัก! ดูเสียเถอะ ทุกสิ่งอย่างนั้นขึ้นอยู่กับพลัง เต๋าของเจ้ามันด้อยกว่าเต๋าของข้า”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูนั้นหัวเราะลั่นขึ้นมาเพราะการประลองนี้มันได้ตัดสินผลแพ้ชนะไปแล้ว
นี่มันคือการประลองเต๋า และเต๋าของเขานั้นก็ได้บดขยี้เต๋าของเย่หยวนอย่างที่เย่หยวนไม่มีทางใดจะตีกลับมาได้แม้แต่น้อย
บนที่นั่งคนดูนั้นเหล่าบรรพกาลทั้งหลายต่างมองดูภาพตรงหน้าอย่างผิดหวัง
“ตำนานของเจ้าเด็กคนนี้มันจะได้จบลงเสียที” จักรพรรดิเทพสวรรค์อี้เซียนถอนหายใจยาวออกมา
เพราะเส้นทางของเย่หยวนนั้นมันเหนือล้ำจนเรียกได้ว่าเหนือปาฏิหาริย์
มันมิใช่ว่าพวกเขาไม่คิดยอมรับความอัจฉริยะ แต่อัจฉริยะระดับเย่หยวนนี้มันน่ากลัวจนเกินไป
ด้วยอายุยังไม่ถึงสามพันปีแต่กลับบรรลุขึ้นอาณาจักรโอสถเต๋า มันเป็นสิ่งที่ผิดสามัญสำนึกไปมากล้น
แม้จะเป็นลูกหลานจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นมาเก่งกาจตั้งแต่แรกนั้นก็ยังไม่อาจเทียบเคียงเย่หยวนผู้นี้ได้
ก่อนหน้านี้พวกเขาทั้งหลายนั้นต่างคิดไปว่าเย่หยวนเป็นแค่เด็กน้อยคนหนึ่งไม่มีค่าใดๆ ให้สนใจ
แต่เย่หยวนกลับท้าทายเขาเมฆาคิมหันต์จนถึงยอด เก่งกาจจนแม้แต่จางจื้อหลิงก็ยังพ่ายลงย่อยยับ เวลานั้นทุกผู้คนต่างได้แต่ต้องอ้าปากค้าง
จนสุดท้ายเขาก็กดดันให้แม้แต่จักรพรรดิเทพสวรรค์เฟิงหลินนั้นต้องก้มหัวให้
เป็นเวลานั้นเองที่คนทั้งหลายได้รู้ว่าเขาผู้นี้คือยอดคนระดับบรรพกาลอย่างแท้จริง
เวลานี้เมื่อเย่หยวนกำลังจะแพ้พ่ายลง คนทั้งหลายก็ย่อมจะโล่งใจ
เพราะตำนานอันน่าหวาดกลัวนี้มันจะได้จบลงเสียที
จักรพรรดิเทพสวรรค์เฟิงหลินนั้นยิ้มขึ้น “หากเย่หยวนเอาชนะได้แม้แต่จักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูแล้วตัวโอสถบรรพกาลก็คงไม่อาจจะอยู่เฉยได้อีกต่อไป”
“แต่จะอย่างไรเจ้าเด็กคนนี้ก็ทำได้ถึงปานนี้ มันน่าหวาดกลัวจนเกินรับแล้ว! โชคยังดีที่เฒ่าผู้นี้เชื่อคำของเจ้าและไม่ได้ลงมือไปในตอนนั้น ไม่เช่นนั้นผลที่ออกมามันคงน่าอับอาย” จักรพรรดิเทพสวรรค์อี้เซียนกล่าว
“เรื่องสนุกๆ กำลังจะจบลงแล้ว ข้าสงสัยเหลือเกินว่าเจ้าเด็กคนนี้มันจะรับการพ่ายแพ้นี้ได้หรือไม่” จักรพรรดิเทพสวรรค์เฟิงหลินกล่าวขึ้น
“เรื่องนั้นคงยาก เพราะจะอย่างไรอัจฉริยะในระดับนี้คงไม่เคยพ่ายแพ้ใครมาก่อน ก้าวล้ำขึ้นมาจนถึงจุดสูงสุด! อย่างที่เขาว่ายิ่งตัวใหญ่ก็ยิ่งล้มดัง ข้าเกรงว่าเจ้าหนุ่มคนนี้คงไม่อาจรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้ได้แน่” จักรพรรดิเทพสวรรค์อี้เซียนกล่าว
เหล่าบรรพกาลทั้งหลายนั้นพยักหน้ารับไปตามๆ กันเพราะพวกเขานั้นก็คิดเช่นนี้
ส่วนอีกด้านทางเย่หยวนและจักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูนั้นกำลังเข้าสู่วงสุดท้ายของการประลอง
จักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูกลืนกินพื้นที่ของเย่หยวนไปเรื่อยๆ จนแทบจะดีดเขาออกจากการหลอมนี้
“ฮ่าๆๆ เด็กน้อย เจ้าโอหังมากมิใช่หรือ? ท่าทางนั้นของเจ้ามันไปอยู่ที่ใดแล้ว?”
“เจ้าพูดจามีเหตุผลหนักแน่นมากมิใช่หรือ? ทำไมตอนนี้ไม่พูดเล่า?”
“นี่หรือคือเต๋าของเจ้า? น่าขัน อ่อนแอสิ้นดี”
การทำลายอัจฉริยะอย่างเย่หยวนลงนั้นมันเป็นสิ่งที่จักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูรู้สึกสนุกสนานอย่างมาก
แต่เย่หยวนนั้นกลับเงียบนิ่งเหมือนถูกคลื่นพลังของจักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูกดดันไว้และรอความพ่ายแพ้
“หลอม!”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูร้องลั่นขึ้นมาคิดปิดฉากการประลองในครั้งนี้ลง
เจ้าไข่นั้นมันค่อยๆ หลอมขึ้นมาเป็นโอสถกลางอากาศ
และการที่มันหลอมขึ้นด้วยคำสั่งของจักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูนั้นมันก็เป็นการประกาศอย่างชัดเจนว่าเขาคือผู้ชนะการประลองนี้
“หึๆ แพ้จนได้” จักรพรรดิเทพสวรรค์อี้เซียนยิ้มเย้ย
“ตำนานจบลงเสียที!”
“น่าเสียดาย ข้าหวังลึกๆ อยากให้รองมหาปราชญ์เอาชนะให้ได้”
…
เวลานี้คนทั้งหลายเริ่มแสดงท่าทีผิดหวังออกมา
เพราะตำนานของเย่หยวนนี้มันทำให้เกิดความรู้สึกแปลกประหลาดในจิตใจของทุกผู้คน
ด้านหนึ่งพวกเขานั้นคิดอยากจะให้เย่หยวนสานต่อตำนานยิ่งใหญ่ ส่วนอีกด้านพวกเขาก็กลัวว่าตำนานนี้มันจะน่ากลัวจนเกินไป
จักรพรรดิเทพสวรรค์เหยาชูมองดูเย่หยวนและยิ้มขึ้นมา “ทำไมเล่า? ไม่มีอะไรจะกล่าวแล้วหรือรองมหาปราชญ์? ก่อนหน้ายังปากดีอยู่มิใช่หรือ? เจ้าบอกว่าเต๋าของจักรพรรดิผู้นี้มันไม่มีค่ามิใช่หรือ? ทำไมตอนนี้ไม่พูดเสียหน่อยเล่า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...