“สาม!”
“สอง!”
“หนึ่ง!”
“โจมตี!”
เย่หยวนขยับมือยกขึ้นพร้อมปล่อยดาบแสงพุ่งผ่านห้วงมิติไปยังจุดหนึ่งในข่ายดวงดาว
เหล่ายอดฝีมือฝ่ายมนุษย์ทั้งหลายเองก็เตรียมพร้อมไว้รอที่จะปล่อยการโจมตีออกมาแต่แรก วินาทีนี้การโจมตีหนักหน่วงนั้นมันจึงได้พุ่งทะยานเข้าไปยังดวงดาวที่เย่หยวนชี้เป้าแทบพร้อมกัน!
หยวนเจิ้นและพวกนั้นยังคงเหนื่อยอ่อนกับการใช้เคล็ดฉีกยอดมิติและยังตะลึงไม่หายจากการที่เย่หยวนหลบรอดออกไปได้ แต่วินาทีต่อมาพวกเขาก็ได้พบว่ามีพลังโจมตีหนักหน่วงรุนแรงพุ่งผ่านมิติมาหา
และเป้าหมายที่เย่หยวนชี้การโจมตีมานั้นมันคือจุดอ่อนที่สุดของมหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์ในเวลานี้!
ศาสตร์ยิ่งใหญ่ที่รวมพลังของคนนับหมื่นๆ ไว้ด้วยกันนั้นมันย่อมจะไม่มีทางไร้จุดอ่อนไปได้
เว้นเสียแต่ว่าเจ้ามหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์นี้มันขยับเคลื่อนอยู่ตลอด ทำให้จุดอ่อนของมันนั้นเรียกได้ว่าเปลี่ยนไปในทุกวินาที
บวกกับการที่มหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์มันเป็นวิชาที่เหนือล้ำ ต่อให้จะเป็นจุดอ่อนก็ไม่ได้อ่อนแอมากมาย
และหากคิดอยากหาจุดอ่อนนี้มันย่อมแทบจะไม่มีทางเป็นไปได้
แต่ตอนนี้มันกลับถูกเย่หยวนค้นพบเข้า!
เย่หยวนนั้นรับการโจมตีไปมากมายและแทบตายลงก็เพื่อที่จะหาสิ่งนี้
ก็จริงที่ว่ามันเป็นวิชาที่เหนือล้ำแต่มันก็มีจุดอ่อนที่รุนแรง มันก็คือจุดที่เชื่อมต่อกัน!
ด้วยการรวมพลังของยอดคนกว่าสามหมื่นหกพันคนนั้น มันย่อมจะทำให้มหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์นี้มีพลังเหนือล้ำไร้ต้าน
สำหรับคนที่ไม่รู้แนวคิดแห่งห้วงมิติหรือรู้แค่ผิวเผินแล้ววิชานี้มันย่อมจะไร้จุดอ่อนใดๆ
แต่เย่หยวนนั้นมีความเข้าใจลึกล้ำต่อแนวคิดแห่งห้วงมิติ เขานั้นก้าวขึ้นมาถึงระดับเจ็ดขั้นสุดได้
พร้อมๆ กันนั้นเย่หยวนก็ยังเข้าใจเต๋าค่ายกลจนถึงต้นกำเนิด เมื่อเขาได้วิเคราะห์มหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์นี้มันจึงแตกต่างจากสายตาของคนทั่วไปมาก
แค่มองดูเย่หยวนก็เข้าใจได้ทันทีว่ามหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์นี้มันถูกสร้างขึ้นด้วยการประกอบกันของสิบสองจุดควบคุม
เพราะฉะนั้นเขาจึงได้เข้าไปดูยังจุดควบคุมที่เป็นศูนย์กลาง
ที่ที่เขาหลบเข้าไปนั้นมันสุดแสนแยบยล มันคือจุดที่ศูนย์ควบคุมไม่อาจเข้าไปถึงได้
เพราะฉะนั้นเขาจึงได้ค่อยๆ ทดสอบมันไปเรื่อยๆ เพื่อที่จะหาจุดอ่อนที่แท้จริงของมหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์
ระหว่างที่หาไปนั้นเย่หยวนก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงความลึกล้ำของมหาศาสตร์ผนึกลายสวรรค์นี้ มันราวกับว่าตรงหน้านั้นคือหนังสือความรู้เกี่ยวกับแนวคิดแห่งห้วงมิติ
สำหรับเย่หยวนแล้ว เมื่อเขาใช้เต๋าค่ายกลวิเคราะห์ห้วงมิตินี้ไปเรื่อยๆ มันก็ได้ทำให้เขาเข้าใจความลึกล้ำของแนวคิดแห่งห้วงมิติขึ้นอีกขั้น
แม้ว่าจะต้องบาดเจ็บสาหัส แต่สุดท้ายเขาก็ได้เข้าใจถึงความลึกล้ำของห้วงมิติ
ในวินาทีสุดท้ายนั้นเย่หยวนได้บรรลุแนวคิดแห่งห้วงมิติขึ้นมาถึงระดับแปดในที่สุด
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเขายังหาจุดอ่อนของมันเจอได้พร้อมกัน!
“เร็ว! รีบไปช่วยมันป้องกันไว้!” หยวนเจิ้นร้องสั่งด้วยท่าทางตระหนก
แต่มันก็สายเกินไปแล้ว!
เขาทั้งหลายนั้นเพิ่งจะใช้เคล็ดฉีกยอดมิติออกมา พลังงานที่มากมายนั้นมันย่อมทำให้เกิดความอ่อนล้าและไม่อาจจะฟื้นตัวขึ้นมาได้ง่ายๆ
เย่หยวนนั้นจึงได้คิดใช้โอกาสนี้ในการโจมตีทันที
บนห้วงมิตินั้นการโจมตีทั้งหลายได้ปะทะเข้ากับจุดอ่อนทำให้เกิดเสียงระเบิดดังลั่นขึ้น
“อ่อก!”
ยอดฝีมือเผ่าเทวาผู้นั้นไม่อาจจะทนรับการโจมตีมากมายนั้นไว้ได้พร้อมๆ กันจนต้องกระอักเลือดออกมาและสิ้นใจลงทันที
ดาวหนึ่งดวงถูกทำลายลง!
อีกด้านฝ่ายมนุษย์ที่เห็นว่าห้วงมิติที่ถูกปิดกั้นไว้อย่างหนาแน่นมันเริ่มคลายตัวออกมาพวกเขาก็เริ่มมีความหวัง
และความหวังนี้เองที่ทำให้ผู้คนแทบคลั่งขึ้น
“รองมหาปราชญ์จงเจริญ! รองมหาปราชญ์จงเจริญ! รองมหาปราชญ์สร้างปาฏิหาริย์ขึ้นได้ด้วยตัวคนเดียว!”
“รองมหาปราชญ์ช่างรักษาคำพูดเสียจริงๆ! เขาจะพาเราออกไปได้จริงๆ!”
“หลังจบศึกนี้ข้าจะขอกราบบูชารองมหาปราชญ์แล้ว!”
…
วินาทีนี้คนทั้งหลายต่างตื่นเต้นดีใจขึ้นตามๆ กัน
เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายนั้นบ้างถึงขั้นร้องไห้ออกมาแสดงความซาบซึ้งต่อปาฏิหาริย์ที่เย่หยวนก่อ
ส่วนอีกหลายคนก็ร้องไห้ขึ้นอย่างขมขื่น
เพราะนี่มันเปลี่ยนแปลงจากสิ้นหวังเป็นความหวัง ทำให้เหล่าคนเฒ่าทั้งหลายนี้แสดงอารมณ์ออกมาอย่างที่ไม่เคย
“อย่าเพิ่งดีใจไป! มันยังไม่จบ! ทุกคน โจมตีตามข้ามา!”
จากนั้นเสียงของเย่หยวนก็ร้องบอกขึ้นอย่างแจ่มชัด
ฟุบ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...