จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2350

สรุปบท ตอนที่ 2350 ติดอันดับทองคำเทพสงคราม!: จอมเทพโอสถ

อ่านสรุป ตอนที่ 2350 ติดอันดับทองคำเทพสงคราม! จาก จอมเทพโอสถ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 2350 ติดอันดับทองคำเทพสงคราม! คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายAction จอมเทพโอสถ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ฮงเย่นั้นไม่ทันรู้ตัวว่าเย่หยวนนั้นออกไปตั้งแต่เมื่อใดแต่ตัวนางนั้นยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติง

เพราะราคาของดาบหยกแท้นั้นมันเกินกว่าสามร้อยแต้ม ราคาของมันนับพันเล่มนั้นย่อมจะเกินกว่าสามแสนแต้ม!

เย่หยวนนั้นจ่ายแต้มเทพสงครามออกมาคราเดียวมากถึงเกือบสี่แสนแต้มเพื่อจะซื้อดาบหยกแท้ไปนับพันๆ เล่ม!

มันเป็นการใช้อย่างฟุ่มเฟือยโดยแท้!

ชายหนุ่มที่หายหน้าไปจากโลกหล้าราวเก้าร้อยปีนี้และไม่เคยจะปรากฏขึ้นบนอันดับทองคำเทพสงคราม เหตุใดเขาจึงได้มีแต้มเทพสงครามสะสมมากปานนี้ได้?

เพราะแต้มกว่าสามแสนนี้มันมากพอที่จะติดขึ้นไปถึงอันดับหนึ่งพันได้ในช่วงก่อนๆ

อันดับทองคำเทพสงครามนั้นยิ่งอันดับสูงมันก็จะยิ่งมีความแตกต่างที่มาก

เหมือนอย่างตัวว่านเจิ้นนั้นที่ยึดครองอันดับหนึ่งอยู่ในตอนนี้ เขามีแต้มติดตัวอยู่มากถึงสามล้านแต้ม!

มันเป็นจำนวนที่มากมายจนน่ากลัว เป็นตัวตนที่ทำให้เหล่าเด็กชะตาไร้คาดเดาทั้งหลายต้องสิ้นหวัง

คนที่พอจะเป็นภัยต่อเขาได้มันมีแค่จางเหลียน

แต่ถึงจะเป็นจางเหลียนเองเขาก็ยังมีแต้มเพียงแค่สองล้านสี่แสนเท่านั้น ขาดไปอีกราวห้าแสนแต้มจากตัวว่านเจิ้น

และเหล่ายอดคนที่ติดอันดับหนึ่งในสิบอันดับทองคำเทพสงครามนั้นต่างล้วนแล้วแต่มีแต้มเกินหนึ่งล้านขึ้นไปสิ้น

ตัวตนอย่างว่านเจิ้นนั้นย่อมไม่เคยจะตายลงในมิติสงครามดึกดำบรรพ์

เวลาที่เก็บสะสมแต้มเทพสงครามมากว่าเก้าร้อยปีมันย่อมจะมากล้นเกินบรรยาย

แท้จริงแล้วเย่หยวนก็ออกมาจากการเก็บตัวตั้งแต่สามปีก่อน

สามปีมานี้เขาได้ล่าสัตว์ร้ายอยู่ในทุ่งศึกสัตว์ร้ายล้นตลอดมา

เวลาหลายร้อยปีที่พยายามบรรลุเต๋ามานั้นมันได้ทำให้เย่หยวนบรรลุขึ้นมาถึงอาณาจักรมหาพิภพขั้นกลางได้

หากคนอื่นรู้ว่าเย่หยวนได้แต้มเทพสงครามกว่าสี่แสนแต้มในเวลาแค่สามปีนี้พวกเขาทั้งหลายคงแทบลมจับ

เพราะมันรวดเร็วจนเกินคนไป!

ทุ่งศึกสัตว์ร้ายล้นนั้นมันเป็นสถานที่ที่แม้แต่พวกว่านเจิ้นหรือจางเหลียนยังไม่กล้าจะเข้าไปง่ายๆ

“โอ้ บุตรแห่งเวลาของเราจะออกเมืองไปล่าแต้มแล้วหรือ? ฮ่าๆๆ บรรลุแนวคิดแห่งกาลเวลามาได้เช่นนี้เจ้าคงเก่งขึ้นมาแล้วสิ? สิบปีมันพอแหละเนอะ?”

“เก่งจริงๆ บุตรแห่งเวลาของเราจะตีโต้กลับมาแล้ว! ด้วยแต้มกว่าหนึ่งล้านสามแสนแต้มนั้น เจ้าย่อมจะขึ้นไปติดหนึ่งในสิบได้ไม่ยากแน่! สู้ๆ!”

“ฮ่าๆ บุตรแห่งเวลานั้นคงเปลี่ยนเวลาสิบปีให้เป็นพันปีได้!”

เย่หยวนนั้นเดินออกมาจากเมืองด้วยเสียงเย้ยหยันตามหลัง

ตัวตนแปลกประหลาดเช่นเขานี้มันย่อมจะทำให้คนทั้งหลายดูถูกเหยียดหยามไปตามๆ กัน

ทุกผู้คนนั้นต่างพัฒนาตัวเองและเก็บล่าแต้มเทพสงครามเพื่อหวังจะติดอันดับหนึ่งในสิบ

แต่เย่หยวนนั้นกลับใช้เวลาที่มีทั้งหมดไปกับการบ่มเพาะแนวคิดแห่งกาลเวลา

เวลาที่เหลือนั้นมันแค่สิบปีแต่เขากลับวิ่งออกเมืองไปหาเก็บแต้ม มันย่อมจะทำให้คนทั้งหลายหัวร่อแล้ว

ส่วนเรื่องของแนวคิดแห่งกาลเวลานั้น มันย่อมไม่มีใครคิดว่าเย่หยวนจะทำได้

หากบรรลุได้จริงเขาก็คงทำเสร็จไปนานแล้ว มีหรือที่จะมาบรรลุได้ในช่วงเวลาสุดท้ายเช่นนี้?

หลังจากออกเมืองไปได้เย่หยวนก็มุ่งหน้ากลับไปยังทุ่งศึกสัตว์ร้ายล้นอีกครา

ภายใต้การควบคุมของเย่หยวนนั้นมันมีดาบสมบัติวิญญาณจักรพรรดิเทพสวรรค์อยู่นับพันๆ เล่ม พลังของมันนั้นย่อมเหนือล้ำอย่างไม่ต้องสงสัย

เย่หยวนนั้นได้แต้มกว่าสี่แสนแต้มมาโดยไม่ใช่สมบัติวิญญาณจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลายนี้ เวลานี้ยิ่งจะเหนือล้ำกว่าเก่า

หลังจากมาถึงทุ่งศึกสัตว์ร้ายล้นเย่หยวนก็เริ่มทำการออกล่าอย่างบ้าคลั่ง

ในทุ่งศึกสัตว์ร้ายล้นนี้มันมีผู้คนอยู่น้อยนิด คนที่กล้ามานั้นล้วนแล้วแต่เป็นยอดคนอันดับสูงๆ สิ้น ไม่มีใครจะมาพบเจอเย่หยวนได้ในทุ่งกว้างเช่นนี้

แต่หากมันมีคนอยู่แล้วคนทั้งหลายนั้นย่อมจะเห็นว่ากระแสการไหลของเวลารอบๆ กายเย่หยวนนั้นเปลี่ยนหมุนไปอย่างแปลกประหลาด

เมื่อเหล่าสัตว์ร้ายทั้งหลายเข้ามาถึงระยะพวกมันก็ต้องพบเจอกับพลังหน่วงของเวลา ปล่อยให้เย่หยวนจัดการได้ตามใจชอบ

นี่มันคือสัญญาณแห่งแนวคิดแห่งกาลเวลา!

เย่หยวนนั้นหาแต้มในทุ่งศึกสัตว์ร้ายล้นได้มากล้นนั้นมันเพราะว่าแนวคิดแห่งกาลเวลานั้นเอง!

ไม่นานนักอันดับทองคำเทพสงครามครั้งต่อไปก็ได้ถูกประกาศออกมา

แต่เพราะว่าเวลาที่เย่หยวนออกไปล่าครั้งใหม่นี้มันเป็นเวลาไม่ถึงปี ทำให้เขาไม่อาจจะก้าวขึ้นมาติดอันดับทองคำเทพสงครามได้ในรอบนี้

เมื่อเป็นเช่นนั้นมันย่อมจะเกิดเสียงหัวเราะขึ้นรอบด้าน

การบ่มเพาะสะสมกันมาเกือบพันปี หากคิดอยากเข้าติดอันดับสามพันในเวลานี้มันย่อมจะต้องใช้อย่างน้อยๆ แสนแต้มเทพสงคราม

เย่หยวนนั้นเข้าไปล่ายังทุ่งศึกสัตว์ร้ายล้นแค่สี่ถึงห้าเดือนอย่างมาก มีหรือที่มันจะเก็บสะสมแต้มได้มากถึงขนาดนั้น

แต่มันก็ใกล้เต็มทีแล้ว

“หึๆ อีกเก้าปีแต่เจ้าหมอนั่นกลับยังขึ้นไม่ถึงอันดับสามพัน น่าขันจริงๆ!” เจียงเจ๋อมองดูอันดับทองคำเทพสงครามพร้อมกล่าวเย้ย

“หลังจากผ่านเก้าปีนี้ไปข้าล่ะอยากจะเห็นหน้ามันจริงๆ เจ้าหมอนี่มันคงได้กลายเป็นตัวตลกของทั้งมหาพิภพถงเทียน!” หลินจ้านกล่าวขึ้นเสริม

และไม่นานนักเวลาอีกหนึ่งปีก็ได้ผ่านไป

แต่ครั้งนี้พวกเจียงเจ๋อไม่อาจหัวเราะได้อีกแล้ว

“ตาข้าไม่ได้ฝาดไปใช่หรือไม่? นี่… นี่มัน… เวลาแค่ปีเดียวนี้มันกลับเก็บสะสมแต้มเทพสงครามมาได้กว่าหนึ่งแสนแต้มหรือ? บ้าน่า!”

เจียงเจ๋อมองดูรายชื่อบนอันดับทองคำเทพสงครามอย่างตื่นตะลึง

เย่หยวน หนึ่งแสนห้าหมื่นเก้าพันแปดร้อยสี่สิบสองแต้มเทพสงคราม อันดับสองพันเจ็ดร้อยสี่สิบห้า!

นามนี้มันได้ปรากฏขึ้นมาบนอันดับทองคำเทพสงครามเป็นครั้งแรก!

แต่นามของเย่หยวนนั้นคนทั้งเมืองเมฆหนุนต่างรู้จักกันดีสิ้น

ใครๆ ต่างก็รู้ถึงเรื่องเจ้าเด็กน้อยที่ไม่ประเมินตัวเอาเวลาทั้งหมดไปเสียกับการบ่มเพาะแนวคิดแห่งกาลเวลา

ตามหลังคนอื่นไปเก้าร้อยเก้าสิบปี มีหรือที่จะตามติดมาทันด้วยเวลาสั้นๆ นั้นได้?

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียเหล่ายอดฝีมือที่ติดอันดับสามพันขึ้นไปนั้นต่างล้วนแล้วแต่มีแต้มที่สะสมกันมานับพันปีก่อนที่จะได้แต้มเทพสงครามสะสมมาถึงแสนแต้ม!

แต่เย่หยวนกลับใช้เวลาปีเดียวไต่ขึ้นมาจนถึงระดับเหนือสามพันได้?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ