จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2356

อันดับสอง ว่านเจิ้น แต้มเทพสงครามสี่ล้านสามแสนสี่หมื่นแต้ม!

อันดับสาม จางเหลียน แต้มเทพสงครามสามล้านสองแสนหนึ่งหมื่นแต้ม!

อันดับสี่ กู่เถียนเจิ้น แต้มเทพสงครามสองล้านหนึ่งแสนสองหมื่นแต้ม!

อันดับทองคำเทพสงครามนั้นมันปรากฏออกมาต่อสายตาทุกผู้คนอย่างแจ่มชัด

ในที่สุดสิบอันดับแรกมันก็ถูกตัดสินเด็ดขาดลง

บ้างนั้นตื่นเต้นดีใจ บ้างนั้นผิดหวังเสียใจ ด้วยความที่เย่หยวนพุ่งทะยานขึ้นมาติดสิบอันดับแรก มันย่อมจะมีคนที่ถูกเบียดลงไปด้านล่างด้วยเช่นกัน

ในหมู่คนนั้นมันมีสายตาอาฆาตหลายคู่จ้องมายังตัวเย่หยวน

แน่นอนว่าเย่หยวนไม่ได้คิดสนใจมัน

เมื่อได้เห็นผลลัพธ์นี้ตัวว่านเจิ้นก็ตื่นตะลึงไปไม่แพ้กัน

เขาไม่นึกว่าเย่หยวนนั้นจะทำได้จริงๆ!

สิบปีก่อนนั้นเย่หยวนยังไม่เคยจะขึ้นมาติดอันดับทองคำเทพสงครามแม้สักครั้ง!

แต่ช่องว่างที่ห่างกว่าสี่ล้านแต้มมันกลับถูกไล่ตามจนทัน

หากให้พูดกันตรงๆ แล้วเขาก็ยังคงรู้สึกไม่ยอมรับอยู่ลึกๆ ในใจ

“น้องเย่เจ้ากลับสามารถล่าแต้มเทพสงครามมาได้ถึงห้าแสนสี่หมื่นแต้มในเวลาแค่ปีเดียว!” ว่านเจิ้นนั้นหันมามองดูเย่หยวนด้วยสายตาตื่นตะลึง

แม้ว่าหลายๆ ปีที่ผ่านมานั้นมันจะเหนือล้ำเพียงใดแต่ความเร็วในปีสุดท้ายนี้มันก็ยังเหนือล้ำกว่าที่ใครจะคาดคิดไปได้

เย่หยวนตอบกลับไป “ข้านั้นโชคดีได้บรรลุในปีนี้อีกครั้งจึงตัดสินใจเดินทางเข้าไปล่ายังทุ่งสัตว์สวรรค์ นั่นคงเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ข้าสามารถล่ามาได้ถึงห้าแสนกว่าแต้มเช่นนี้”

ว่านเจิ้นที่ได้ยินนั้นก็ต้องสั่นสะท้านไปทั้งกายก่อนจะกล่าวขึ้นมา “เจ้าไปยังทุ่งสัตว์สวรรค์?”

“หะ?! เขา… เขากลับไปยังทุ่งสัตว์สวรรค์มาอย่างนั้นหรือ!”

“เจ้าหมอนี่มันคนบ้าแท้! ทุ่งสัตว์สวรรค์นั้นคือส่วนกลางของทุ่งศึกสัตว์ร้ายล้น สัตว์ร้ายแต่ละตัวที่อาศัยอยู่ในนั้นมันสุดแสนจะแข็งแกร่ง แต่เจ้าหมอนี่กลับออกมาได้อย่างปลอดภัย!”

“มันมิใช่ว่าไม่มีใครกล้าไปยังทุ่งสัตว์สวรรค์ แต่มันไม่มีใครสามารถไปได้!”

เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวคนทั้งหลายต่างก็แสดงสีหน้าตกตะลึง

ทุ่งศึกสัตว์ร้ายล้นนั้นมันเป็นเขตแดนที่กว้างขวางสุดลูกหูลูกตา แต่ยิ่งเข้าไปใกล้ส่วนกลางมากเท่าไหร่ สัตว์ร้ายที่อาศัยอยู่ในบริเวณมันก็จะยิ่งเก่งกาจขึ้นเท่านั้น

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเหล่าสัตว์ร้ายในทุ่งส่วนกลางนั้นมันมากล้น หากคิดอยากเดินเข้าไปให้ถึงส่วนกลางของทุ่งศึกสัตว์ร้ายล้นนั้นมันย่อมไม่มีทางใดจะทำได้

แม้แต่ตัวว่านเจิ้นนั้นเองก็ยังไม่อาจทำ!

เขาและจางเหลียนนั้นค่อยๆ ก้าวลึกเข้าไปยังส่วนกลางก็จริงแต่ก็ยังไม่อาจฝ่าเข้าไปจนถึงทุ่งสัตว์สวรรค์ได้

แต่เย่หยวนกลับไปถึงได้

ในความเป็นจริงแล้วก่อนที่จะถูกดึงตัวกลับมานั้นเย่หยวนก็ยังคงต่อสู้อย่างเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอยู่ในทุ่งสัตว์สวรรค์

ทุกผู้คนนั้นเริ่มเข้าใจขึ้นมาทันทีว่าทำไมแต้มของเย่หยวนมันจึงพุ่งทะยานขึ้นไปกว่าห้าแสนได้ในปีสุดท้ายนี้

การเข้าไปถึงทุ่งสัตว์สวรรค์ได้นั้นมันย่อมจะทำลายปัญหาใดๆ ที่คาใจคนสิ้น

ในความเป็นจริงแล้วเย่หยวนนั้นก็ได้พัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้งในช่วงสิบปีที่ผ่านมานี้เช่นกัน

ไม่ว่าจะเป็นเต๋าดาบ เต๋าค่ายกล แนวคิดแห่งห้วงมิติ แนวคิดแห่งกาลเวลาใดๆ เขานั้นก็เข้าใจพวกมันได้อย่างลึกล้ำกว่าเก่ามาก

ภายใต้การต่อสู้ดุเดือดตลอดเวลาเช่นนั้น เขาย่อมจะได้แสดงความเก่งกาจในการพัฒนาของตัวเองออกมาอีกครา

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเมื่อเขากำจัดฝูงสัตว์ร้ายหนึ่งได้เขาก็จะไม่หยุดพักใดๆ และมุ่งหน้าเข้าไปยังส่วนกลางจนกว่าจะถึงทุ่งสัตว์สวรรค์ในที่สุด

แต่จะอย่างไรกำลังของเหล่าสัตว์ร้ายในทุ่งสัตว์สวรรค์มันก็เหนือล้ำกว่าคำว่าธรรมดาไปมาก

แม้แต่ตัวเย่หยวนเองก็ยังลำบากแทบเป็นแทบตาย

หากมิใช่เพราะแนวคิดแห่งห้วงมิติของเขาบรรลุขึ้นมาอยู่ระดับแปดนั้นเขาก็คงไม่อาจจะกลับมายืนในเมืองเมฆหนุนได้เช่นนี้

“เจ้าหมอนี่มันสัตว์ประหลาดเสียจริงๆ! ข้าไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าเวลานี้เจ้ากำลังยืนอยู่ในระดับใดกันแน่แล้ว!” ว่านเจิ้นกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มขมขื่น

“มันย่อมจะได้มีโอกาสรู้” เย่หยวนยิ้มตอบ

ทุกผู้คนนั้นต่างหันมามองดูเย่หยวนราวกับว่าเขานั้นเป็นสัตว์ประหลาด เจ้าหมอนี่ดูอย่างไรมันก็ไม่ใช่คน!

แต่ระหว่างที่ทุกคนกำลังตกตะลึงนั้นเองมันก็เกิดแรงสั่นสะเทือนรุนแรงขึ้นบนท้องฟ้า

พร้อมๆ กันนั้นมันก็ปรากฏกรงขนาดใหญ่ลอยค้างอยู่กลางอากาศ

ในวินาทีนี้เหล่าเด็กชะตาไร้คาดเดาทั้งหลายในมิติสงครามดึกดำบรรพ์ต่างสามารถมองเห็นเจ้ากรงยักษ์นี้ได้อย่างชัดเจน

ในวินาทีนี้มันเกิดตื่นตะลึงไปทั่วทุกหย่อมหญ้า!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ