อันดับสอง ว่านเจิ้น แต้มเทพสงครามสี่ล้านสามแสนสี่หมื่นแต้ม!
อันดับสาม จางเหลียน แต้มเทพสงครามสามล้านสองแสนหนึ่งหมื่นแต้ม!
อันดับสี่ กู่เถียนเจิ้น แต้มเทพสงครามสองล้านหนึ่งแสนสองหมื่นแต้ม!
…
อันดับทองคำเทพสงครามนั้นมันปรากฏออกมาต่อสายตาทุกผู้คนอย่างแจ่มชัด
ในที่สุดสิบอันดับแรกมันก็ถูกตัดสินเด็ดขาดลง
บ้างนั้นตื่นเต้นดีใจ บ้างนั้นผิดหวังเสียใจ ด้วยความที่เย่หยวนพุ่งทะยานขึ้นมาติดสิบอันดับแรก มันย่อมจะมีคนที่ถูกเบียดลงไปด้านล่างด้วยเช่นกัน
ในหมู่คนนั้นมันมีสายตาอาฆาตหลายคู่จ้องมายังตัวเย่หยวน
แน่นอนว่าเย่หยวนไม่ได้คิดสนใจมัน
เมื่อได้เห็นผลลัพธ์นี้ตัวว่านเจิ้นก็ตื่นตะลึงไปไม่แพ้กัน
เขาไม่นึกว่าเย่หยวนนั้นจะทำได้จริงๆ!
สิบปีก่อนนั้นเย่หยวนยังไม่เคยจะขึ้นมาติดอันดับทองคำเทพสงครามแม้สักครั้ง!
แต่ช่องว่างที่ห่างกว่าสี่ล้านแต้มมันกลับถูกไล่ตามจนทัน
หากให้พูดกันตรงๆ แล้วเขาก็ยังคงรู้สึกไม่ยอมรับอยู่ลึกๆ ในใจ
“น้องเย่เจ้ากลับสามารถล่าแต้มเทพสงครามมาได้ถึงห้าแสนสี่หมื่นแต้มในเวลาแค่ปีเดียว!” ว่านเจิ้นนั้นหันมามองดูเย่หยวนด้วยสายตาตื่นตะลึง
แม้ว่าหลายๆ ปีที่ผ่านมานั้นมันจะเหนือล้ำเพียงใดแต่ความเร็วในปีสุดท้ายนี้มันก็ยังเหนือล้ำกว่าที่ใครจะคาดคิดไปได้
เย่หยวนตอบกลับไป “ข้านั้นโชคดีได้บรรลุในปีนี้อีกครั้งจึงตัดสินใจเดินทางเข้าไปล่ายังทุ่งสัตว์สวรรค์ นั่นคงเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ข้าสามารถล่ามาได้ถึงห้าแสนกว่าแต้มเช่นนี้”
ว่านเจิ้นที่ได้ยินนั้นก็ต้องสั่นสะท้านไปทั้งกายก่อนจะกล่าวขึ้นมา “เจ้าไปยังทุ่งสัตว์สวรรค์?”
“หะ?! เขา… เขากลับไปยังทุ่งสัตว์สวรรค์มาอย่างนั้นหรือ!”
“เจ้าหมอนี่มันคนบ้าแท้! ทุ่งสัตว์สวรรค์นั้นคือส่วนกลางของทุ่งศึกสัตว์ร้ายล้น สัตว์ร้ายแต่ละตัวที่อาศัยอยู่ในนั้นมันสุดแสนจะแข็งแกร่ง แต่เจ้าหมอนี่กลับออกมาได้อย่างปลอดภัย!”
“มันมิใช่ว่าไม่มีใครกล้าไปยังทุ่งสัตว์สวรรค์ แต่มันไม่มีใครสามารถไปได้!”
…
เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวคนทั้งหลายต่างก็แสดงสีหน้าตกตะลึง
ทุ่งศึกสัตว์ร้ายล้นนั้นมันเป็นเขตแดนที่กว้างขวางสุดลูกหูลูกตา แต่ยิ่งเข้าไปใกล้ส่วนกลางมากเท่าไหร่ สัตว์ร้ายที่อาศัยอยู่ในบริเวณมันก็จะยิ่งเก่งกาจขึ้นเท่านั้น
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเหล่าสัตว์ร้ายในทุ่งส่วนกลางนั้นมันมากล้น หากคิดอยากเดินเข้าไปให้ถึงส่วนกลางของทุ่งศึกสัตว์ร้ายล้นนั้นมันย่อมไม่มีทางใดจะทำได้
แม้แต่ตัวว่านเจิ้นนั้นเองก็ยังไม่อาจทำ!
เขาและจางเหลียนนั้นค่อยๆ ก้าวลึกเข้าไปยังส่วนกลางก็จริงแต่ก็ยังไม่อาจฝ่าเข้าไปจนถึงทุ่งสัตว์สวรรค์ได้
แต่เย่หยวนกลับไปถึงได้
ในความเป็นจริงแล้วก่อนที่จะถูกดึงตัวกลับมานั้นเย่หยวนก็ยังคงต่อสู้อย่างเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายอยู่ในทุ่งสัตว์สวรรค์
ทุกผู้คนนั้นเริ่มเข้าใจขึ้นมาทันทีว่าทำไมแต้มของเย่หยวนมันจึงพุ่งทะยานขึ้นไปกว่าห้าแสนได้ในปีสุดท้ายนี้
การเข้าไปถึงทุ่งสัตว์สวรรค์ได้นั้นมันย่อมจะทำลายปัญหาใดๆ ที่คาใจคนสิ้น
ในความเป็นจริงแล้วเย่หยวนนั้นก็ได้พัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้งในช่วงสิบปีที่ผ่านมานี้เช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็นเต๋าดาบ เต๋าค่ายกล แนวคิดแห่งห้วงมิติ แนวคิดแห่งกาลเวลาใดๆ เขานั้นก็เข้าใจพวกมันได้อย่างลึกล้ำกว่าเก่ามาก
ภายใต้การต่อสู้ดุเดือดตลอดเวลาเช่นนั้น เขาย่อมจะได้แสดงความเก่งกาจในการพัฒนาของตัวเองออกมาอีกครา
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเมื่อเขากำจัดฝูงสัตว์ร้ายหนึ่งได้เขาก็จะไม่หยุดพักใดๆ และมุ่งหน้าเข้าไปยังส่วนกลางจนกว่าจะถึงทุ่งสัตว์สวรรค์ในที่สุด
แต่จะอย่างไรกำลังของเหล่าสัตว์ร้ายในทุ่งสัตว์สวรรค์มันก็เหนือล้ำกว่าคำว่าธรรมดาไปมาก
แม้แต่ตัวเย่หยวนเองก็ยังลำบากแทบเป็นแทบตาย
หากมิใช่เพราะแนวคิดแห่งห้วงมิติของเขาบรรลุขึ้นมาอยู่ระดับแปดนั้นเขาก็คงไม่อาจจะกลับมายืนในเมืองเมฆหนุนได้เช่นนี้
“เจ้าหมอนี่มันสัตว์ประหลาดเสียจริงๆ! ข้าไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าเวลานี้เจ้ากำลังยืนอยู่ในระดับใดกันแน่แล้ว!” ว่านเจิ้นกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มขมขื่น
“มันย่อมจะได้มีโอกาสรู้” เย่หยวนยิ้มตอบ
ทุกผู้คนนั้นต่างหันมามองดูเย่หยวนราวกับว่าเขานั้นเป็นสัตว์ประหลาด เจ้าหมอนี่ดูอย่างไรมันก็ไม่ใช่คน!
แต่ระหว่างที่ทุกคนกำลังตกตะลึงนั้นเองมันก็เกิดแรงสั่นสะเทือนรุนแรงขึ้นบนท้องฟ้า
พร้อมๆ กันนั้นมันก็ปรากฏกรงขนาดใหญ่ลอยค้างอยู่กลางอากาศ
ในวินาทีนี้เหล่าเด็กชะตาไร้คาดเดาทั้งหลายในมิติสงครามดึกดำบรรพ์ต่างสามารถมองเห็นเจ้ากรงยักษ์นี้ได้อย่างชัดเจน
ในวินาทีนี้มันเกิดตื่นตะลึงไปทั่วทุกหย่อมหญ้า!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...