จู่ๆ มันก็ปรากฏแสงดาบพุ่งทะยานขึ้นมารอบกายเย่หยวน
ฉัวะ!
เย่หยวนนั้นไม่ต้องหันไปมองร่างของคนผู้นั้นแม้แต่น้อย แต่ร่างของเขานั้นมันก็ถูกสับจนเละไปแล้ว
อีกด้านตัวว่านเจิ้นก็ต้องหรี่ตาลงมอง
เย่หยวนสังหารยอดฝีมือที่ติดสิบอันดับแรกได้อย่างง่ายดาย!
แข็งแกร่งเสียจริงๆ!
ในเมืองเมฆหนุนนั้นผู้คนทั้งหลายต่างต้องอ้าปากค้างมองดูเรื่องราวอย่างตกตะลึง
“แข็งแกร่ง! นั่นมันคือยอดฝีมือที่ติดสิบอันดับได้ แต่เขานั้นกลับฆ่าสังหารอีกฝ่ายลงโดยไม่ต้องมองด้วยซ้ำ!”
“นั่นหรือคือพลังของแนวคิดแห่งกาลเวลา? สมชื่อหนึ่งในสุดยอดแนวคิดจริง แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”
“เวลานี้เย่หยวนเก่งกาจปานใดแล้วกันแน่? ดูจากท่าทางของเขานั้นมันเหมือนว่าเขากำลังเตรียมตัวสู้ว่านเจิ้นเลย!”
…
ทุกผู้คนนั้นต่างมองดูเรื่องราวอย่างร้อนรนจิตใจ พวกเขานั้นอยากจะรู้เหลือเกินว่าระหว่างอันดับหนึ่งคนก่อนและอันดับหนึ่งคนปัจจุบันนี้ ใครจะแข็งแกร่งกว่ากัน
แม้ว่าแนวคิดแห่งกาลเวลานั้นมันจะแข็งแกร่งปานใดแต่การพัฒนาที่ว่านเจิ้นทำมาในช่วงหลายปีนี้มันก็ทำให้คนทั้งหลายไม่อาจตัดสินได้ว่าเขานั้นเก่งกาจขึ้นปานใดแล้ว
จะรู้ได้นั้นมันมีแต่ต้องสู้กันให้เสร็จ!
เพราะอย่างไรเสียว่านเจิ้นนั้นก็มีพลังบ่มเพาะสูงกว่าเย่หยวนไปถึงสามดาว!
“แนวคิดแห่งกาลเวลามันช่างเหนือล้ำจริงๆ!”
ว่านเจิ้นหัวเราะลั่นขึ้นมาพร้อมปล่อยคลื่นพลังของจักรพรรดิเทพสวรรค์แปดดาวออกมา!
ในเวลาสิบปีที่ผ่านมานี้เย่หยวนได้ต่อสู้อย่างบ้าคลั่งมาตลอดจนทำให้เวลานี้เขามีพลังบ่มเพาะเทียบเคียงกับอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ห้าดาวได้แล้ว
ในหมู่เด็กชะตาไร้คาดเดาทั้งหลายนั้น โดยเฉพาะเหล่าคนที่ติดพันอันดับแรก แค่ครึ่งดาวมันก็มากพอจะทำให้เกิดความแตกต่างล้ำได้
แต่เย่หยวนนั้นกำลังจะท้าทายว่านเจิ้นที่เป็นถึงจักรพรรดิเทพสวรรค์แปดดาวด้วยพลังบ่มเพาะของจักรพรรดิเทพสวรรค์ห้าดาว
แต่มันกลับไม่มีใครคิดว่าเรื่องนี้ไม่สมเหตุสมผล
เพราะเย่หยวนนั้นมีไม้ตายที่มากล้นเกินนับ!
จากนั้นมันก็เกิดคลื่นพลังของแนวคิดทั้งห้าปรากฏขึ้นมาหมุนวนรอบตัวว่านเจิ้นอย่างสมดุล
เย่หยวนที่ได้เห็นต้องเบิกตากว้างขึ้นมา “ผสานแนวคิดห้าธาตุ! พี่ว่านช่างเก็บงำฝีมือไว้จริงๆ!”
ว่านเจิ้นที่ได้ยินก็หัวเราะขึ้นมา “มันมิใช่ว่าข้าจงใจปิดบัง เพียงแค่ว่าข้าไม่มีโอกาสจะได้ใช้มันออกมาก็เท่านั้น!”
แนวคิดห้าธาตุนั้นมันไม่ได้เรียนรู้บรรลุยากใดๆ
เพราะมันคือหนึ่งในแนวคิดพื้นฐาน นักยุทธส่วนใหญ่นั้นต่างล้วนสามารถจะบรรลุมันได้หนึ่งหรือสองแนวคิดในแนวคิดทั้งห้านั้น
คนที่เก่งๆ หน่อยก็อาจจะบรรลุได้ถึงสามแนวคิด
และแท้จริงแล้วตัวหลู่ซือยีที่เย่หยวนเคยพบเจอนั้นเองก็มากพรสวรรค์พอที่จะบรรลุแนวคิดแห่งธาตุทั้งห้าได้สิ้น
แต่บรรลุได้นั้นมันมิใช่ปัญหา การผสานต่างหากที่ยากเย็น!
เพราะคิดอยากผสานห้าแนวคิดเข้าเป็นหนึ่งนั้นมันเป็นสิ่งที่ยากเสียยิ่งกว่าการขึ้นสวรรค์
ความยากของมันนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าความยากของการที่เย่หยวนบรรลุสองสุดยอดแนวคิด!
การผสานธาตุทั้งห้าเป็นหนึ่งนั้นมันย่อมจะมีพลังไม่ได้ด้อยไปกว่าสุดยอดแนวคิดเลย!
ธาตุทั้งห้านั้นมันต่างล้วนส่งเสริมกันและขัดขวางกันในเวลาเดียวกัน
หากสามารถผสานมันให้เป็นหนึ่งได้จริงแล้วมันก็จะสร้างวงไร้สิ้นสุดขึ้นมา กลายเป็นโลกย่อมๆ หนึ่งใบที่มีพลังเหนือล้ำจินตนาการ
ที่สำคัญไปกว่านั้นเย่หยวนยังสัมผัสได้ว่าแนวคิดแห่งธาตุทั้งห้าของว่านเจิ้นนั้นมันสมดุลอย่างมาก
ในธาตุทั้งห้านั้นมันมีพลังของกันและกันอยู่เสมอๆ ไม่มีพลังใดแปลกแยก
คงเรียกการผสานห้าธาตุนี้ได้ว่าสมบูรณ์แบบ!
แต่จู่ๆ เย่หยวนก็ต้องขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา “ห้าธาตุของพี่ว่านมันน่าจะทำได้มากกว่านี้มิใช่หรือ?”
ว่านเจิ้นที่ได้ยินก็ยิ้มตอบกลับมา “ใช่! แนวคิดแห่งน้ำ แนวคิดแห่งไฟ แนวคิดแห่งไม้ของข้านั้นมันก้าวขึ้นไปจนถึงระดับพลังต้นกำเนิดแล้ว! เพียงแค่ว่าหากสมดุลของห้าธาตุมันพังลงพลังของมันกลับจะด้อยลงแทน เพราะฉะนั้นพลังที่เหนือล้ำของธาตุทั้งสามนั้นมันจึงไร้ค่าสิ้นเชิงต่อข้า”
เย่หยวนที่ได้ยินต้องสูดหายใจเข้าลึก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...