จิตใจของชายแก่นั้นสั่นสะท้านอย่างไม่อาจห้าม “หากไม่พูดถึงเรื่องพรสวรรค์ใดๆ แล้วเจ้าหนุ่มคนนี้มันก็นับว่ามีหัวใจที่ไม่ด้อยไปกว่าเฒ่าผู้นี้เลย!”
เหมือนอย่างที่มหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลเคยได้บอกไว้ว่าสิ่งสำคัญที่จะทำให้กลายเป็นยอดฝีมือนั้นมันคือนิสัย
การที่ชายแก่คนนี้ก้าวขึ้นมาถึงจุดที่เคยยืนอยู่ได้ กลายเป็นยอดฝีมือผู้บรรลุล้ำสองสุดยอดแนวคิดมันก็แน่นอนว่าตัวเขาย่อมเป็นคนที่มีนิสัยมุ่งมั่นไม่น้อย
แต่เขาไม่นึกไม่ฝันว่าเย่หยวนนั้นกลับจะมีความมุ่งมั่นที่ไม่น้อยไปกว่าตัวเขา!
เขานั้นเข้าใจดีว่าความน่ากลัวของการถูกฉีกเฉือนเป็นหมื่นชิ้นนั้นมันมิใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะรับได้เลย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่ายอดอัจฉริยะทั้งหลายนั้นที่ไม่เคยจะได้ลำบาก มีหรือที่คนเช่นนั้นจะมาทนรับการทรมานเกินมนุษย์เช่นนี้ได้?
ที่สำคัญไปกว่านั้นมันยังไม่ได้จบลงในครั้งเดียว!
มันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก!
เย่หยวนนั้นหวาดกลัวจนถึงขีดสุด ความกลัวของเขานั้นมันทำให้เขาแทบไม่อาจเดินออกได้
แต่ตัวเขานั้นกลับยังมุ่งหน้าเข้าไปหากระแสวนเรื่อยๆ!
ภายในสถานที่แห่งนี้ มันไม่มีคำว่าตาย
แต่ความเจ็บปวดทรมานนี้มันน่ากลัวพันเท่าหมื่นเท่าเหนือกว่าความตาย!
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในที่แห่งนี้มันมิใช่ความตาย แต่เป็นการรับรู้ถึงความตายซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่มีโอกาสจะหนีจากมัน
เย่หยวนนั้นหนีไปจากมันได้หรือไม่?
แน่นอนว่าเขาย่อมทำได้!
แต่เขานั้นกลับเลือกที่จะเผชิญหน้ากับมัน!
ความตายนั้นชินชาได้หรือ?
ไม่มีทาง!
แต่ละครั้งที่เขาตายลงในกระแสวนมิติเวลานี้ ร่างที่ฉีกขาดของเขามันก็จะกระตุ้นความทรงจำที่เจ็บปวดจากความตายครั้งก่อนให้กลับขึ้นมาอีกครั้ง!
มันไม่มีทางใดจะชินชาได้
มันมิใช่แค่ไม่มีทางชินชา แต่ตรงกันข้าม ความกลัวตายนั้นมันจะยิ่งเพิ่งพูนเมื่อเวลาได้ผ่านไปมากขึ้นเรื่อยๆ
เวลานี้ร่างกายของเย่หยวนนั้นมันเปลี่ยนจากสั่นกลายเป็นสะท้านจนแทบจะเหมือนการเต้นรำ
เขานั้นไม่อยากจะสั่นกลัว แต่ร่างกายของเขามันทำออกมาเอง
แต่ละครั้งที่เขาก้าวเข้าไป เขาก็จะต้องใช้กำลังฝีมือที่มีทั้งหมดออกมา
แต่เมื่อเขาก้าวเข้าไปแล้ว เขาก็จะตายลง
จากนั้นก็ได้เกิดใหม่อีกครั้ง
“เด็กน้อย เหตุใดเจ้าจึงต้องฝืนทนทำเรื่องราวจนถึงขั้นนี้ด้วย?” สามวันต่อมาชายแก่นั้นก็อดไม่ได้ต้องถามขึ้น
เย่หยวนยืนอยู่ที่ริมขอบของกระแสพลังก่อนจะหันมาตอบด้วยรอยยิ้ม “ข้านั้นมีเหตุผลที่ต้องแข็งแกร่งขึ้น! มันยังมีคนที่รอคอยให้ข้าไปช่วยเหลือ! แน่นอนว่าข้าย่อมไม่คิดจะปล่อยให้เผ่ามนุษย์ดับสิ้นไปต่อหน้าต่อตาเช่นกัน!”
ชายแก่นั้นตอบกลับมาด้วยใบหน้าเข้าใจ “คนทั้งหลายนั้นคงสำคัญกับเจ้ามากแล้ว”
เย่หยวนพยักหน้า “สำคัญกว่าชีวิตของข้า!”
ชายแก่ถอนหายใจยาว “รักนั้นมันคืออะไรทำให้ผู้คนอยู่ด้วยกันจนตายจาก! เด็กน้อย เจ้านั้นมุ่งมั่นมาก เพียงแค่ว่าเวลาพันปีมันสั้นเกินไป! ด้วยพรสวรรค์ของเจ้านี้เจ้าคงไม่อาจจะบ่มเพาะแนวคิดแห่งมิติเวลาจนบรรลุได้!”
มันมิใช่ว่าเวลาสั้นใดๆ แต่แนวคิดแห่งมิติเวลามันยากจนเกินไป
สมบัติสืบทอดระดับนี้ มีหรือที่มันจะเรียนรู้ได้หมดในเวลาแค่พันปี?
อย่าว่าแต่การบรรลุ แค่ยืนอยู่ในกระแสวนมิติเวลานี้ให้ถึงชั่วโมงมันก็คงยากยิ่งกว่าการขึ้นสวรรค์แล้ว
เย่หยวนนั้นไม่สนใจคำพูดเตือนใดๆ ของชายแก่ก่อนจะหันหน้าเดินเข้าไปอีกครั้ง
แน่นอนว่าผลลัพธ์มันย่อมไม่ได้แตกต่าง
ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าใด เวลาที่เย่หยวนใช้ยืนอยู่นอกกระแสวนมิติเวลามันก็จะยิ่งนานขึ้น
สำหรับเขาแล้วการจะก้าวไปแต่ละก้าวนั้นมันต้องใช้ความกล้ามหาศาล
พริบตาเดียวผ่านไปนั้น เวลาก็ได้ผ่านไปกว่าสามสิบปี!
ระหว่างสามสิบปีมานี้เย่หยวนไม่อาจจะจดจำได้แล้วว่าตนเองตายไปกี่ครา
แต่เขานั้นก็ยังไม่อาจจะอยู่ในกระแสวนมิติเวลาได้นานนัก
หรือก็คือมันไม่มีการพัฒนาใดๆ เกิดขึ้นเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...