“ต-ตาย? เขา… สังหารทูตเทวะ!”
“เจ้ากล้าสังหารทูตเทวะ! เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงคิดสังหารทูตเทวะ!”
“จบแล้ว! เจ้าทำเราฉิบหายแล้ว! นิกายม่วงน้อยเรานั้นจบสิ้นแล้ว!”
…
ด้วยการที่เย่หยวนสังหารทูตเทวะลงไปการตอบสนองแรกของคนทั้งหลายนั้นคือไม่ว่าเขานี้จะเก่งกาจสามารถกระโดดข้ามอาณาจักรต่อสู้เผ่าเทวาอย่างไร แต่สุดท้ายมันก็ยังเป็นเย่หยวนที่นำพาความฉิบหายมาให้พวกเขา
ได้ยินเช่นนั้นตัวเย่หยวนก็ได้แต่ต้องส่ายหัวพร้อมถอนหายใจยาว
ความน่าเกรงขามของเผ่าเทวานั้นมันฝังรากลึกจนถึงกระดูกของผู้คน คนทั้งหลายนี้ย่อมจะไม่คิดขัดขืนใดๆ
เย่หยวนที่มองดูเรื่องราวนั้นรู้สึกกังวลใจอย่างมากจนต้องลุกขึ้นมาลงมือช่วยเหลือ
เขานั้นยังคิดว่าทีแรกนิกายม่วงน้อยจะขัดขืนบ้าง แต่สุดท้ายตัวโมชิงซานกลับไม่ได้ลงมือใดๆ
แต่จะอย่างไรมันก็พอเข้าใจได้ว่าภายใต้การกดดันมหาศาลนี้ เผ่ามนุษย์และเผ่าต่างๆ จึงได้แต่ต้องกล้ำกลืนอย่างเงียบงัน
เพราะหากขัดขืนแล้วจะต้องพบเจอความตาย
มีหรือที่นิกายม่วงน้อยนี้จะมาคิดหยุดทัพเผ่าเทวาใดๆ?
ไม่ว่าจะเป็นชีวิตใดก็ล้วนกลัวความตายกันสิ้น
“อ่า เช่นนั้นทำไมพวกเจ้าไม่จับข้าไปส่งให้พวกเผ่าเทวาเล่า?” เย่หยวนตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม
โมชิงซานที่ได้ยินนั้นต้องผงะก่อนจะตอบมาด้วยหน้าเหยเก “เรื่อง… เรื่องนั้นจะทำได้อย่างไร? น้องชายอย่าได้ล้อกันเล่นเลย! เพียงแค่ว่า… การสังหารทูตเทวะนั้นมันเป็นความผิดใหญ่หลวง!”
เขารู้ว่าเย่หยวนกำลังเย้ยหยันเขา
เย่หยวนยักไหล่กลับไป “ข้าเอาจริง พวกเจ้าจะไม่คิดจับข้าส่งไปจริง?”
โมชิงซานนั้นได้แต่ต้องส่ายหัวออกมา “น้องชายทำเพื่อช่วยเหลือเรา ต่อให้ข้าโมชิงซานจะต่ำยิ่งกว่าเดียรัจฉานข้าก็ไม่กล้าทำเรื่องราวเช่นนั้นลง! น้องชายเจ้ารีบไปเถอะ! หลังจากคนของวังสวรรค์เฝ้ามาถึงแล้วเจ้าจะไม่อาจหนีได้อีก! เหล่าเจ้าหน้าที่เทวานั้นล้วนแต่เป็นยอดฝีมืออาณาจักรเต๋าสวรรค์แปดลายขั้นปลาย เจ้าสู้พวกเขาไม่ได้หรอก!”
ในนิกายม่วงน้อยนี้มันมีเจ้านิกายโมชิงซานแข็งแกร่งที่สุด
แต่ถึงจะว่าอย่างนั้นเขาก็ยังเป็นแค่จักรพรรดิเทพสวรรค์หกดาว ห่างไกลจากพลังของอาณาจักรเต๋าสวรรค์แปดลายขั้นปลายอย่างมาก
ยอดฝีมืออาณาจักรเต๋าสวรรค์แปดลายขั้นปลายนั้นมันสามารถเอาชนะจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้หมดสิ้น!
เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นก่อนจะกล่าวขึ้นมา “เจ้าคิดว่าข้าล้อเล่น? หากเจ้าไม่จับข้าส่งไปแล้วข้าจะทำลายนิกายม่วงน้อยของเจ้านี้ทิ้งเสีย!”
โมชิงซานหน้าถอดสีลงทันทีที่ได้ยินเพราะความกดดันตรงหน้านั้น!
ด้วยกำลังของเย่หยวนในเวลานี้หากคิดอยากทำลายนิกายม่วงน้อยใดๆ ลงนั้นมันย่อมแสนง่ายดาย
แต่ระหว่างที่ทุกผู้คนต่างไม่มีใครรู้ว่าต้องรับมืออย่างไรมันก็มีชายหนุ่มผู้หนึ่งก้าวเดินขึ้นมา
ชายหนุ่มกล่าว “ผ-ผู้อาวุโสท่านคงไม่ได้… คิดจะไปทำลายวังสวรรค์เฝ้าหรอกใช่ไหม?”
เย่หยวนหันไปมองที่ชายหนุ่มนั้นก่อนจะจับได้ว่านี่คือหนึ่งในคนที่ถูกจับรอประหารของนิกายม่วงน้อย
ก่อนหน้านี้เขายังถูกจับมัดมือรอความตาย แต่ตอนนี้เขาได้รับการช่วยเหลือปล่อยออกมาแล้ว
เย่หยวนยิ้มถามกลับไป “น่าสนใจ เจ้ามีนามว่า?”
เขานั้นก็ไม่นึกไม่ฝันว่าในหมู่ผู้ถูกกดขี่นี้มันจะยังมีคนที่มองความตั้งใจของเขาออก
จะอย่างไรเสียเรื่องที่เขาคิดทำมันก็ไม่ได้เดายาก เพียงแค่ว่าในหมู่คนทั้งหลายนี้มันไม่มีใครจะกล้าคิดถึง
เพราะว่าพวกเขาไม่เคยคิดจะต่อต้านก่อกบฏใดๆ
ชายหนุ่มนั้นตอบกลับมา “ผู้น้อยมีนามว่าฉินเชา!”
เย่หยวนตอบกลับไป “อืม เจ้าเดาได้ถูก ข้านั้นจะไปเพื่อทำลายวังสวรรค์เฝ้านั้น!”
ฉินเชาตอบกลับมาด้วยใบหน้าหนักแน่น “ข้ารู้ทางไปวังสวรรค์เฝ้า ผู้น้อยจะขอนำทางให้ท่านเอง!”
เย่หยวนนั้นผงะไปเล็กน้อยก่อนจะยิ้มตอบกลับไป “เจ้าไม่กลัวตาย?”
ฉินเชานั้นตอบกลับมาด้วยการพยักหน้า “แน่นอนว่าข้ากลัว! แต่ผู้น้อยนี้ไม่อาจทนรับวันเวลาเช่นนี้ได้อีกแล้ว! หากมนุษย์เราไม่ขัดขืนเราก็จะถูกทำเหมือนเป็นหมูเป็นหมาเช่นนี้ต่อไป หากพวกมันไม่พอใจพวกมันก็จะฆ่าสังหารเราเอาเล่นๆ! ที่สำคัญไปกว่านั้นคือผู้อาวุโสได้ช่วยชีวิตนางที่รักของข้าน้อยไว้ ข้าย่อมจะต้องขอตอบแทนด้วยชีวิต!”
เย่หยวนหรี่ตาลงมองทางโมเสียวเฉาก่อนจะพบว่าตัวนางนั้นก็เบิกตากว้างขึ้นมาเช่นกัน
ดูท่าแล้วนางคงเป็นรักข้างเดียวของฉินเชาไม่ผิดแน่
ในนิกายม่วงน้อยนี้มันมีคนมากมายที่ชอบในตัวโมเสียวเฉา
ฉินเชาเองก็แค่เป็นหนึ่งในนั้น
แต่คำพูดของคนทั้งสองนี้มันทำให้คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้างออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...