“ต้นกำเนิดระดับสาม! จะเกินไปแล้ว จักรพรรดิเทพสวรรค์คนหนึ่งก็สามารถบ่มเพาะต้นกำเนิดเต๋าโอสถระดับสามได้!”
“นี่หรือที่เขาว่ารู้อยู่บ้าง? เจ้าเด็กนี่มันปิดบังเก่งจริงๆ! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงได้กล้าไปท้าทายท่านหวู่หยุน!”
“แต่จะอย่างไรท่านหวู่หยุนก็บ่มเพาะไปถึงระดับสี่แล้ว เจ้าเด็กคนนี้มันคงไม่ชนะได้!”
…
เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังของต้นกำเนิดนั้นดวงตาของคนทั้งหลายก็ต้องเบิกกว้าง
เป็นเวลานี้เองที่พวกเขาได้เข้าใจว่าพอรู้อยู่บ้างของเย่หยวนมันหมายถึงอะไร
หากต้นกำเนิดระดับสามนั้นเรียกว่าพอรู้ เช่นนั้นแล้วพวกเขาก็คงไม่รู้การโอสถเลยมิใช่หรือ?
แต่พวกเขาทั้งหลายนั้นกลับไม่ได้คิดว่าเย่หยวนจะชนะใดๆ
การที่ถูกยกย่องให้เทียบเท่ากับจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้ได้ มันย่อมจะหมายความว่าหวู่หยุนมีฝีมือที่มากพอจะรับการยกย่องนั้น
แต่แม้ตัวหวู่หยุนเองก็ยังตื่นตะลึง
ก่อนนี้เขาก็ยังคิดจะสั่งสอนเย่หยวนอยู่เช่นกัน คิดอยากให้เขาพ่ายแพ้ไปอย่างหมดรูป
แต่ใครจะไปคิดว่าเย่หยวนนั้นกลับมีเต๋าโอสถที่สูงล้ำฟ้าดินปานนี้!
หวู่หยุนได้แต่คิดในใจ ‘เจ้าเด็กคนนี้มันมีวิชายุทธที่เหนือล้ำจนน่ากลัว แต่ทำไมมันกลับยังมีวิชาโอสถที่เหนือล้ำกว่าวิชายุทธได้ปานนี้? คนเช่นนี้มันก็เกิดขึ้นมาบนโลกได้หรือ? ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเฉียนจี้ถึงได้เลือกมา หากให้เวลาอีกสักหน่อยแล้ววันหน้าเขาคงได้สร้างชื่อกลายเป็นความยิ่งใหญ่มหาศาล! เพียงแค่ว่า การที่ให้เขามานั่งตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนนี้เขาจะมีฝีมือพอแน่หรือ?’
พริบตาเดียวนั้นเย่หยวนก็ยื่นตัวอ่อนโอสถกึ่งเต๋าออกมาให้
เมื่อหวู่หยุนได้เห็นเจ้าตัวอ่อนโอสถกึ่งเต๋านี้เขาก็ต้องอ้าปากค้างออกมา
เพราะว่าเจ้าตัวอ่อนโอสถกึ่งเต๋านี้มันคงเรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ!
หวู่หยุนนั้นเป็นยอดคนด้านการโอสถ มีหรือที่เขาจะไม่เข้าใจ?
เพราะแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่อาจจะหลอมให้ได้ดีกว่าเย่หยวนนี้!
หวู่หยุนได้แต่ต้องกดความตกตะลึงในใจลงก่อนจะเริ่มลงมือหลอมต่อ
เมื่อเขาเริ่มหลอม จิตใจของเขาก็สั่นสะท้านขึ้นมาอีกครั้ง!
เพราะเขานั้นได้สัมผัสว่าภายในโอสถของเย่หยวนนั้นมันกลับลึกลับซับซ้อนล้ำ
มันซับซ้อนจนเขาแทบจะไม่อาจแก้ไขมันได้
หากพลาดไปเพียงนิดแล้ว เจ้าตัวอ่อนโอสถกึ่งเต๋านี้ก็คงแตกสลายลงแน่
เช่นนั้นมันก็จะเท่ากับว่าเขาพ่ายแพ้!
ยอดคนที่ถูกเรียกขานว่าเป็นอันดับหนึ่งแห่งการโอสถกลับแพ้ให้เด็กน้อยจักรพรรดิเทพสวรรค์คนหนึ่ง? วันหน้ามีหรือที่เขาจะยังอยู่ในโถงโอสถนี้ได้?
เดิมทีเขานั้นก็ไม่ได้คิดจะเอาจริงเอาจังใดๆ กับเย่หยวน
แต่เวลานี้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องดึงความสามารถของตัวเองออกมาให้เกินร้อย
“เจ้าเด็กคนนี้มันมีเต๋าโอสถระดับนี้ได้อย่างไรกัน? ข้าเผชิญกับต้นกำเนิดระดับสามของเขาด้วยต้นกำเนิดระดับสี่แต่ทำไมข้ากลับรู้สึกว่าตัวเองกำลังเสียเปรียบ! มันขาดอะไรไปกันแน่?”
หวู่หยุนนั้นรู้สึกเหมือนมันมีอะไรขาดไปอยู่บางอย่าง
ในเผ่าทั้งหลายนั้น ตัวหวู่หยุนนี้ชื่นชมแค่คนผู้เดียว คนผู้นั้นคือจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้
เพราะว่าคนอื่นๆ มันไม่มีค่าพอจะให้เขาชื่นชม
แต่หลังได้เห็นเต๋าโอสถของเย่หยวนวันนี้แล้ว ความชื่นชมนับถือที่เขามีต่อเย่หยวนมันกลับพุ่งทะยานล้ำจนเกือบเท่าจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้
เพราะว่าเขานั้นกลับอ่อนแอกว่าเย่หยวนในด้านการโอสถ!
หากเย่หยวนนั้นมีการบ่มเพาะระดับเดียวกับเขาแล้ว เขาย่อมจะไม่มีทางเอาชนะเย่หยวนได้!
คนทั้งสองผลัดกันหลอมไปเรื่องๆ จนทำให้คนที่ได้เห็นต้องอ้าปากค้าง
เพราะการต่อสู้ระดับนี้ มันเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้พบได้เห็น!
ในโถงโอสถนั้นมันไม่มีใครจะไปถกเต๋ากับหวู่หยุนได้เลย
เพราะเขานั้นคือตัวตนที่อยู่สูงล้ำหัวผู้คน เป็นตัวตนระดับเทพเจ้า
สถานะของเขานั้นสูงล้ำฟ้าดิน
แต่วันนี้มันกลับมีคู่ปรับระดับเดียวกับเขาปรากฏขึ้นมา เป็นเวลานี้เองที่คนทั้งหลายได้เห็นถึงพลังที่แท้จริงของหวู่หยุน
หากเช่นนั้นแล้ว เย่หยวนที่กำลังประลองกับหวู่หยุนได้อย่างสูสีนี้เล่าจะเก่งกาจเท่าใด?
ทุกผู้คนได้แต่ต้องอ้าปากค้างมองดูภาพตรงหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายที่เคยพูดท้าทายเอาไว้ ตอนนี้พวกเขานั้นมีใบหน้าแดงก่ำด้วยความอับอายอย่างถึงที่สุด
พวกเขาทั้งหลายนั้นไม่ได้อ่อนแอ แต่เพียงแค่หากอยู่หน้าเย่หยวนแล้วมันย่อมจะไม่มีปัญหาสู้กลับใด!
ผู้อาวุโสคนหนึ่งกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าเหยเก “หรือว่านี่ข้าจะเข้าใจผิดไป? ทำไมข้าถึงเห็นเหมือนท่านหวู่หยุนกำลังเสียเปรียบกัน?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...