จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2390

สรุปบท ตอนที่ 2390 มิติลับสวรรค์: จอมเทพโอสถ

ตอนที่ 2390 มิติลับสวรรค์ – ตอนที่ต้องอ่านของ จอมเทพโอสถ

ตอนนี้ของ จอมเทพโอสถ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายActionทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 2390 มิติลับสวรรค์ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เมื่อการสอนของเย่หยวนจบลงคนทั้งหลายก็แทบลืมหายใจ!

หนึ่งปีที่บรรยายมานี้มันเป็นเหมือนเทศกาลความรู้กับเหล่ายอดคนของโถงโอสถ

ทุกผู้คนนั้นต่างแน่วแน่ตั้งใจคิดตามจนไม่อาจจะหลุดจากภวังค์ได้

เมื่อเย่หยวนพูดจบแล้วพวกเขาทั้งหลายก็ยังรู้สึกว่ามันไม่พอใจอยู่ลึกๆ ในใจ

หวู่หยุนในตอนนี้มีสีหน้าไม่ต่างจากมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลในตอนก่อนนั้น

สีหน้าและดวงตาที่เขาใช้มองเย่หยวนนี้มันแตกต่างไปจากก่อนอย่างสิ้นเชิง

ก่อนนี้พวกเขาทั้งหลายยังคิดว่าเย่หยวนจะมาแย่งชิงอำนาจใดๆ

แต่เวลานี้มันไม่มีใครคิดเช่นนั้นอีกต่อไป

เพราะคนผู้นี้ไม่ต้องไปแย่งอำนาจชิงมันจากใคร

นี่มันคือระบบการบ่มเพาะที่สมบูรณ์แบบ มันคือยอดเต๋าสู่สวรรค์!

เมื่อฟังการบรรยายของเย่หยวนมาจนจบแล้วพวกเขาทั้งหลายก็ได้เข้าใจว่ารากฐานตื้นเขินนั้นมันคืออะไร

“ได้ฟังอาจารย์จี้สั่งสอนนี้หวู่หยุนรู้สึกเหมือนโลกหล้านี้มันอยู่แค่ตรงหน้า! อาจารย์จี้นั้นมีความรู้สูงส่ง โปรดรับการคำนับจากหวู่หยุนนี้ด้วยเถอะ!”

พูดไปหวู่หยุนนั้นก็ก้มหัวลงต่อหน้าเย่หยวนทันที

ทุกผู้คนนั้นต่างต้องตกตะลึงจนไม่อาจกล่าวพูดใดๆ ได้เป็นคำ

“นี่มัน… นี่มัน ท่านหวู่หยุนกลับยกย่องหัวหน้าผู้ฝึกสอนเป็นอาจารย์!”

“อาจารย์จี้นั้นรับมันไว้ได้! แค่การสอนบรรยายครั้งนี้ตำแหน่งอันดับหนึ่งการโอสถของท่านหวู่หยุนมันก็คงเปลี่ยนมือแน่แล้ว!”

“อาจารย์จี้นั้นไม่หวงวิชาใดๆ สั่งสอนยอดเต๋าออกมาให้เราได้รับรู้ ท่านย่อมจะมีคุณสมบัติพอรับเกียรตินี้! เราก็มาคารวะคำนับท่านด้วยเถอะ!”

หลังจากความตื่นตะลึงผ่านไปคนทั้งหลายก็เริ่มได้สติขึ้น

เหล่ายอดฝีมือต้นกำเนิดเต๋าโอสถระดับสามนั้นเป็นผู้ที่นำลงก้มคารวะ

จากนั้นคนทั้งหลายก็ก้มลงคารวะคำนับตาม

เย่หยวนนั้นรีบไปประคองร่างของหวู่หยุนขึ้น “ผู้อาวุโสหวู่หยุนทำข้าอายุสั้นแล้ว ผู้อาวุโสนั้นทุ่มแรงกายใจเพื่อหลากเผ่าพันธุ์ ข้าย่อมจะไม่อาจรับการคำนับนี้ไว้ได้หรอก”

หวู่หยุนตอบกลับมาด้วยเสียงหนักแน่น “แค่การสั่งสอนบรรยายเต๋าของอาจารย์จี้นี้ท่านก็พอรับมันไว้ได้แล้ว! อาจารย์จี้อย่าได้ปฏิเสธเลย วันหน้าเฒ่าคนนี้จะขอเรียกท่านว่าอาจารย์จี้ตลอดไป!”

เย่หยวนนั้นไม่รู้ต้องตอบอย่างไรจึงได้แต่กล่าวรับ “เช่นนั้นก็ตามใจท่านเถอะ ข้าจะทิ้งความรู้ไว้ให้โถงโอสถนี้ สิ่งใดที่ท่านไม่เข้าใจก็ขอให้มาพูดถามข้าได้เสมอ แต่จะอย่างไรโถงโอสถนี้มันก็คงยังต้องลำบากให้ผู้อาวุโสหวู่หยุนดูแลอีกอย่างมาก”

หวู่หยุนรีบตอบกลับไป “เรื่องนั้นเดิมทีมันก็เป็นหน้าที่ของเฒ่าผู้นี้อยู่แล้ว จะลำบากอะไรไปได้กันเล่า?”

“กลับยังมีเรื่องเช่นนั้น? เด็กคนนี้มันกลับมีเต๋าโอสถที่สูงล้ำปานนั้น?”

ได้ยินคำที่หวู่หยุนเรียกเขานั้นว่าอาจารย์จี้แล้วตัวเจียนหรูเฟิงก็ได้แต่ต้องอ้าปากค้าง

ก่อนหน้านี้เย่หยวนไม่ได้บอกใดๆ กับเขา

ตอนที่เย่หยวนไปยังโถงโอสถนั้น เขายังรู้สึกว่ามันแปลกๆ

ความคิดของเขานั้นมันก็ไม่ได้ต่างจากคนทั้งหลายมากมาย คิดว่าเย่หยวนอาจจะไปเบ่งอำนาจกดหัวหวู่หยุน

การกระทำเช่นนั้นของเย่หยวน แม้เขาจะไม่ได้กล่าวห้ามใดๆ แต่เขาก็ย่อมไม่ค่อยชอบอยู่ในใจ

เพราะการกระทำเช่นนั้นมันราวกับเด็กทารก

เขานั้นถึงขั้นคิดสงสัยขึ้นมาว่าตัวเองนี้ตัดสินใจได้ถูกต้องหรือไม่ที่เลือกเขามา

แต่เมื่อได้ยินคำของหวู่หยุนนี้ ตัวเขาก็ยิ่งตื่นตะลึงอย่างสุดหัวใจ

เขาและหวู่หยุนนั้นเป็นสหายร่วมเป็นตายกันมา แน่นอนว่าเขาย่อมรู้ถึงวิชาการโอสถของอีกฝ่ายว่ามันเหนือล้ำจนไม่มีใครเทียบเคียงได้ปานไหน

แต่เขานั้นกลับยกย่องเย่หยวนเป็นอาจารย์!

เขานั้นเดิมทีที่เรียกเย่หยวนมาช่วยนี้ก็แค่หวังว่าเย่หยวนจะช่วยถ่ายทอดสมบัติสืบทอดเกี่ยวกับแนวคิดต่างๆ ให้

หลังจากนั้นยอดอัจฉริยะชุดต่อๆ ไปก็จะค่อยๆ ทยอยเข้ามาตาม

แน่นอนว่าเจียนหรูเฟิง หวู่หยุนและเหล่ายอดคนเบื้องบนทั้งหลายนั้นจะต้องเป็นคนจัดการระบบภายใน

เหล่ายอดอัจฉริยะทั้งหลายนี้จะต้องผ่านบททดสอบสุดโหดหิน

ในวันนี้ เด็กหนุ่มสาวหลายคนได้มานั่งรวมตัวกันพูดคุยเรื่องราวบางอย่าง

ชายหนุ่มคนหนึ่งผู้สวมผ้าโพกหัวกล่าวขึ้นมา “พวกเจ้าได้ยินกันมาหรือไม่? หัวหน้าผู้ฝึกสอนเราแท้จริงแล้วเป็นแค่จักรพรรดิเทพสวรรค์เจ็ดดาวเท่านั้น!”

ยอดอัจฉริยะอีกคนจึงสวนขึ้นมาด้วยเสียงหัวเราะ “ซ่างเหิง เจ้าพูดจาไร้สาระใด? มีหรือที่จักรพรรดิเทพสวรรค์เจ็ดดาวคนหนึ่งจะมาเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนเราได้? เช่นนั้นฝีมือของเขาคงไม่เก่งกาจเท่าเราเสียด้วยซ้ำ!”

ชายหนุ่มผ้าโพกหัวนี้คือมหาบรรพกาลมิติเวลาที่สร้างชื่อเลื่องลือโลกในอนาคต ซ่างเหิง!

ซ่างเหิงส่ายหัวออกมา “ข้านั้นไม่ได้พูดจาไร้สาระ! พวกเจ้ารู้จักฉินเชาหรือไม่?”

อีกคนหนึ่งจึงตอบกลับมาด้วยสีหน้าเย้ยหยัน “รู้สิ! ว่ากันว่ามันนั้นมีเส้นใหญ่เป็นศิษย์โดยตรงของหัวหน้าผู้ฝึกสอนนั้นจึงได้รับการวางตัวไว้ให้เป็นผู้รับสมบัติสืบทอดหลัก!”

ซ่างเหิงที่ได้ยินก็พยักหน้ารับ “เรื่องนี้มาจากมันคนนั้นเอง ย่อมจะไม่ผิดแน่แล้ว!”

“ไม่มีทางหรอกใช่หรือไม่? จักรพรรดิเทพสวรรค์เจ็ดดาวนั้นมันจะน่าขันเกินไปแล้ว! เรานั้นเข้ามิติลับสวรรค์มาเพื่ออนาคตของเผ่าพันธุ์ทั้งหลาย! แต่ท่านทั้งหลายที่เบื้องบนกลับจะให้จักรพรรดิเทพสวรรค์เจ็ดดาวมาจัดการพวกเราหรือ?! มันจะมากเกินไปแล้ว!” เมื่ออัจฉริยะอีกคนได้ยินเขาก็ลุกขึ้นตะโกนลั่นทันที

“ใช่แล้ว! เวลาก็ผ่านไปตั้งสองปีแล้วแต่เจ้าหมอนั่นกลับยังไม่โผล่หน้าออกมาเลย มันบ้าบอเสียจริง!”

“พวกท่านทั้งหลายเบื้องบนนั้นคิดอะไรกันอยู่? พวกเขาไม่เห็นหรืออย่างไรว่ามันเกิดอะไรขึ้น?”

ซ่างเหิงยิ้มขึ้น “ตั้งแต่ที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนนั้นเข้ามาถึงมิติลับสวรรค์นี้เขาก็เอาแต่เก็บตัวในวังถามสวรรค์ ไม่รู้จริงๆ ว่าเขานั้นคิดจะทำอะไรกันแน่ มันเหมือนเขานั้นไม่คิดสนใจเราเลยแม้แต่น้อย พวกเจ้าทั้งหลายมีใครกล้าจะบุกเข้าไปในวังถามสวรรค์กับข้าบ้างหรือไม่?”

เมื่อคนทั้งหลายได้ยิน สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนแปลงไปทันที

การบุกวังถามสวรรค์นั้นมันเป็นความผิดใหญ่หลวง!

คนทั้งหลายนั้นอดไม่ได้ที่จะขอถอนตัวขึ้นตามๆ กัน

ซ่างเหิงที่เห็นก็หัวเราะเย้ย “อะไรเล่า? แค่นี้ก็กลัวแล้วหรือ? วันหน้าไปเจอเผ่าเทวามันจะน่ากลัวกว่านี้พันเท่าหมื่นเท่า! หากความกล้าแค่นี้พวกเจ้ายังไม่มีแล้วเจ้าจะยังมาโม้เรื่องคิดฆ่าสังหารเผ่าเทวาใดๆ อีก?”

…………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ