จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2408

สรุปบท ตอนที่ 2408 ดาบแห่งมิติเวลา!: จอมเทพโอสถ

สรุปตอน ตอนที่ 2408 ดาบแห่งมิติเวลา! – จากเรื่อง จอมเทพโอสถ โดย Internet

ตอน ตอนที่ 2408 ดาบแห่งมิติเวลา! ของนิยายActionเรื่องดัง จอมเทพโอสถ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

“เป็นไปได้อย่างไรกัน? หากท่านนักบุญฟ้าครามตายแล้วหลากเผ่าพันธุ์เราก็คงไม่เหลือสิ้นความหวังแล้ว?”

ว่านเจิ้นกล่าวขึ้นด้วยท่าทางเหม่อลอย

เย่หยวนนั้นเป็นความหวังเดียวของหลากเผ่าพันธุ์ หากเขาตายลงแล้วสงครามสิ้นโลกครั้งนี้มันคงไม่เหลือความหวังใดๆ

เขานั้นไม่เคยคิดฝันว่าเต๋าสวรรค์เก้าลายมันจะยังมีวิชาต้านสวรรค์อย่างวรยุทธแท้เต๋าสวรรค์นี้

แต่เวลานี้เมื่อต้องเผชิญการโจมตีของพวกหยวนเจิ้นทั้งสาม ตัวเขาเองก็ไม่อาจจะช่วยเหลือใดๆ

พลังทั้งสามนั้นมันพุ่งทะยานเข้าใส่ร่างของเย่หยวนที่บาดเจ็บสาหัส

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวหยวนเจิ้นที่มีคลื่นพลังรุนแรงหนักหน่วงเหมือนจะเจาะมหาพิภพถงเทียนให้เป็นรู

หากถูกหมัดนี้ต่อยลงตรงๆ แล้วมันย่อมจะไม่มีทางรอดไปได้

ปัง ปัง ปัง…

คนทั้งสามนั้นไม่คิดออมมือใดๆ ปล่อยพลังโจมตีสุดตัวออกมาใส่เย่หยวนไม่ยั้ง

แล้วพลังโจมตีสุดตัวของเต๋าสวรรค์เก้าลายนั้นมันจะรุนแรงปานใด?

ห้วงมิติที่เย่หยวนอยู่นั้นมันถูกทุบแตกสลายเป็นชิ้นๆ ไป

ทุกสิ่งอย่างมันถูกทำลายลงสิ้นไปถึงระดับมิติ!

คนเราย่อมจะไม่สามารถรอดจากสภาพการโจมตีเช่นนั้นได้

ทุกสิ่งอย่างมันจบลงแล้ว!

“ฮ่าๆๆ… การได้มาเจอมันนี้มันคงเป็นชะตาของเผ่าเทวาเรา! หลากเผ่าพันธุ์นั้นมันมีชะตาที่ต้องถูกทำลายและเผ่าเทวาเราจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง!” หยวนเจิ้นหัวเราะลั่น

สังหารเย่หยวนลงนี้มันย่อมทำให้ตัวเขาสะใจอย่างมาก

ยอดอัจฉริยะระดับนี้ตายลงไปมันย่อมจะหมายถึงความสิ้นหวังของเผ่าทั้งหลาย

ตราบเท่าที่มันไม่มียอดคนระดับมหาบรรพกาลมิติเวลาเกิดขึ้นมาอีกหลากเผ่าพันธุ์ก็ย่อมจะไม่อาจเอาชนะใดๆ ได้

“ท่านหยวนเจิ้นจงเจริญ!”

“ท่านหยวนเจิ้นจงเจริญ!”

“ท่านหยวนเจิ้นจงเจริญ!”

ด้วยความตายของเย่หยวนนี้จิตใจของเผ่าเทวามันจึงฮึกเหิมขึ้นอีกครั้ง ส่วนกำลังใจของฝ่ายมนุษย์มันกลับตกต่ำลง

เวลานี้สถานการณ์ของสองทัพมันจึงกลับตาลปัตร

ฝ่ายมนุษย์นั้นเริ่มมีคนบาดเจ็บล้มตายเพิ่มกันมากขึ้นเรื่อยๆ

หยวนเจิ้นหัวเราะขึ้น “หยวนเจี่ยว เจ้าจัดการขยะพวกนี้ต่อด้วย! กองทัพนี้มันน่าจะเป็นทัพหัวกะทิของพวกมนุษย์ แต่ละผู้คนนั้นมีแนวคิดที่เหนือล้ำกว่าใครๆ ที่เคยเจอ! อย่าให้มีมันหลบรอดกลับไปได้แม้สักตัวเดียว!”

หยวนเจี่ยวยิ้มรับอย่างโล่งใจ “ขอรับท่านหยวนเจิ้น!”

แม้ว่าพวกเขาทั้งสามจะรู้ว่านี่มิใช่กองทัพทั่วๆ ไปแต่คนระดับหยวนเจิ้นก็ยังไม่คิดสนใจที่จะลงมาจัดการเอง

หยวนเจิ้นยกมือขึ้นมาปัดเหมือนเสร็จกิจ “เอาล่ะ เมื่อจบเรื่องแล้วพวกข้าก็มีเรื่องอื่นต้องจัดการต่ออีก พวกข้าไปก่อนล่ะ เจ้าจัดการที่นี่ต่อด้วย!”

พูดไปพวกเขาทั้งสามก็กำลังจะหันหน้ากลับไป

“การต่อสู้ยังไม่จบแต่พวกเจ้าก็จะไปเสียแล้วหรือ?”

ในวินาทีนั้นเองมันกลับเกิดเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากห้วงมิติ

สีหน้าของคนทั้งหลายต้องเปลี่ยนสีไป

เสียงนี้มันย่อมจะมิใช่เสียงของใครที่ไหนนอกจากตัวเย่หยวน!

เขานั้นกลับยังไม่ตาย?

ทุกผู้คนหันไปมองที่ต้นเสียงก่อนจะพบว่ามีเงาร่างหนึ่งค่อยๆ ก้าวออกมาจากห้วงมิติ

เมื่อฝ่ายทัพมนุษย์ได้เห็นเย่หยวนพวกเขาก็ยิ้มกว้างโห่ร้องขึ้น

“ฮ่าๆๆ ไม่ตายโว้ย! ท่านนักบุญฟ้าครามยังไม่ตาย!”

“หากมีเขาอยู่ด้วยเราก็ย่อมจะรอดได้!”

แต่ละย่างก้าวที่เขาก้าวออกมานั้นมันมีคลื่นพลังที่หนักหน่วงขึ้นในทุกๆ ครั้ง!

พลังงานฟ้าดินวิญญาณต่างๆ พุ่งทะยานปกคลุมฟ้าดินกลืนกินทุกสิ่งอย่าง

คลื่นพลังของเย่หยวนนั้นยังคงพุ่งทะยานอย่างต่อเนื่อง แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

เวลาหลายปีมานี้เย่หยวนย่อมจะบ่มเพาะพัฒนาแนวคิดไปอย่างมากมาย

แต่เขาย่อมจะไม่ได้ทิ้งการบ่มเพาะพลังปราณ

เวลานี้เมื่อมันสั่งสมมาได้เต็มที่ ภายใต้การโจมตีรุนแรงของพวกหยวนเจิ้นทั้งสามตัวเย่หยวนจึงบรรลุขึ้น!

ดาบนี้มันคมขนาดนั้นได้อย่างไร?

ดาบทั่วๆ ไปนั้นเขาย่อมจะไม่คิดสนใจ

ต่อให้จะเป็นดาบจากพลังต้นกำเนิดมันก็คงถูกมือเปล่าของเขาทำลายลงได้

แต่ดาบที่ผ่านตัวเขาไปนี้มันกลับเหนือล้ำยิ่งกว่าพลังต้นกำเนิด

เขานั้นไม่สงสัยเลยว่าหากเอามือไปโดนตัวดาบนั้นเข้า มือของเขาคงได้ขาดออกจากตัวไปแน่!

แต่มันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร?

เขานั้นต่อสู้กับค่ายกลดาบนิพพานแท้ของเย่หยวนมาก่อนแล้วและย่อมจะเข้าใจถึงพลังดาบของเย่หยวนได้

แต่เจ้าดาบที่ผ่านหน้าเขาไปนั้นมันกลับคมกริบจนเกินบรรยาย!

“นี่มัน… เป็นไปได้อย่างไร? เจ้าดาบนี้มันคืออะไรกันแน่?” หยวนเจิ้นถามขึ้นอย่างไม่อาจห้าม

เย่หยวนตอบกลับมา “เจ้าบอกว่าวรยุทธแท้เต๋าสวรรค์นั้นเหนือล้ำจนไม่ต้องสนใจแนวคิดใด? เพราะเข้านั้นข้าจึงได้ผสานพลังของมิติ เวลาและดาบเข้าด้วยกันจนบรรลุวิชานี้ มันคือดาบแห่งมิติเวลา! เจ้าลองดูสิว่าตัวเจ้านั้นสามารถจะเมินเฉยพลังของมันได้จริงหรือไม่!”

“เจ้าว่าอย่างไรนะ? เจ้า… ผสานเวลา มิติและดาบ สามยอดแนวคิดนั้นเข้าด้วยกัน?” หยวนเจิ้นแทบจะไม่อยากเชื่อหูตัวเอง

เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวคนทั้งหลายก็ย่อมอกสั่นขวัญหายไปตามๆ กัน

ผสานมิติ เวลาและดาบ สามยอดแนวคิดเข้าด้วยกันนั้นมันเป็นสิ่งที่คนเราทำได้?

เดิมทีการผสานแนวคิดนั้นมันเป็นสิ่งที่ยากเย็น

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือยิ่งแนวคิดมีระดับสูงเท่าใดการผสานมันก็จะยิ่งยากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว

การผสานแนวคิดแห่งมิติและเวลาสองสุดยอดแนวคิดนั้นมันคงเรียกได้ว่าเป็นคู่ผสานที่ยากที่สุดในโลก!

แต่การจะผสานมิติ เวลาและดาบเข้าด้วยกันนั้นมันย่อมจะยากจนเกินกว่าจะใช้คำใดมาอธิบาย

หากต้องการจะใช้คำใดมาจำกัดความมันจริงๆ แล้ว… มันก็คงไม่พ้นคำว่าเป็นไปไม่ได้!

แต่เย่หยวนกลับทำได้!

ค่ายกลดาบนิพพานแท้นั้นมันเป็นสิ่งที่เย่หยวนสร้างขึ้นมาโดยการใช้พลังแนวคิดร่วมกัน มิใช่การผสาน

คู่แนวคิดเดียวที่เย่หยวนเคยผสานมาในอดีตคือคู่ของเต๋าดาบและแนวคิดแห่งห้วงมิติ

แต่เวลานี้เย่หยวนกลับผสานสามยอดแนวคิดเข้าด้วยกัน!

……………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ