“เป็นไปได้อย่างไรกัน? หากท่านนักบุญฟ้าครามตายแล้วหลากเผ่าพันธุ์เราก็คงไม่เหลือสิ้นความหวังแล้ว?”
ว่านเจิ้นกล่าวขึ้นด้วยท่าทางเหม่อลอย
เย่หยวนนั้นเป็นความหวังเดียวของหลากเผ่าพันธุ์ หากเขาตายลงแล้วสงครามสิ้นโลกครั้งนี้มันคงไม่เหลือความหวังใดๆ
เขานั้นไม่เคยคิดฝันว่าเต๋าสวรรค์เก้าลายมันจะยังมีวิชาต้านสวรรค์อย่างวรยุทธแท้เต๋าสวรรค์นี้
แต่เวลานี้เมื่อต้องเผชิญการโจมตีของพวกหยวนเจิ้นทั้งสาม ตัวเขาเองก็ไม่อาจจะช่วยเหลือใดๆ
พลังทั้งสามนั้นมันพุ่งทะยานเข้าใส่ร่างของเย่หยวนที่บาดเจ็บสาหัส
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวหยวนเจิ้นที่มีคลื่นพลังรุนแรงหนักหน่วงเหมือนจะเจาะมหาพิภพถงเทียนให้เป็นรู
หากถูกหมัดนี้ต่อยลงตรงๆ แล้วมันย่อมจะไม่มีทางรอดไปได้
ปัง ปัง ปัง…
คนทั้งสามนั้นไม่คิดออมมือใดๆ ปล่อยพลังโจมตีสุดตัวออกมาใส่เย่หยวนไม่ยั้ง
แล้วพลังโจมตีสุดตัวของเต๋าสวรรค์เก้าลายนั้นมันจะรุนแรงปานใด?
ห้วงมิติที่เย่หยวนอยู่นั้นมันถูกทุบแตกสลายเป็นชิ้นๆ ไป
ทุกสิ่งอย่างมันถูกทำลายลงสิ้นไปถึงระดับมิติ!
คนเราย่อมจะไม่สามารถรอดจากสภาพการโจมตีเช่นนั้นได้
ทุกสิ่งอย่างมันจบลงแล้ว!
“ฮ่าๆๆ… การได้มาเจอมันนี้มันคงเป็นชะตาของเผ่าเทวาเรา! หลากเผ่าพันธุ์นั้นมันมีชะตาที่ต้องถูกทำลายและเผ่าเทวาเราจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง!” หยวนเจิ้นหัวเราะลั่น
สังหารเย่หยวนลงนี้มันย่อมทำให้ตัวเขาสะใจอย่างมาก
ยอดอัจฉริยะระดับนี้ตายลงไปมันย่อมจะหมายถึงความสิ้นหวังของเผ่าทั้งหลาย
ตราบเท่าที่มันไม่มียอดคนระดับมหาบรรพกาลมิติเวลาเกิดขึ้นมาอีกหลากเผ่าพันธุ์ก็ย่อมจะไม่อาจเอาชนะใดๆ ได้
“ท่านหยวนเจิ้นจงเจริญ!”
“ท่านหยวนเจิ้นจงเจริญ!”
“ท่านหยวนเจิ้นจงเจริญ!”
…
ด้วยความตายของเย่หยวนนี้จิตใจของเผ่าเทวามันจึงฮึกเหิมขึ้นอีกครั้ง ส่วนกำลังใจของฝ่ายมนุษย์มันกลับตกต่ำลง
เวลานี้สถานการณ์ของสองทัพมันจึงกลับตาลปัตร
ฝ่ายมนุษย์นั้นเริ่มมีคนบาดเจ็บล้มตายเพิ่มกันมากขึ้นเรื่อยๆ
หยวนเจิ้นหัวเราะขึ้น “หยวนเจี่ยว เจ้าจัดการขยะพวกนี้ต่อด้วย! กองทัพนี้มันน่าจะเป็นทัพหัวกะทิของพวกมนุษย์ แต่ละผู้คนนั้นมีแนวคิดที่เหนือล้ำกว่าใครๆ ที่เคยเจอ! อย่าให้มีมันหลบรอดกลับไปได้แม้สักตัวเดียว!”
หยวนเจี่ยวยิ้มรับอย่างโล่งใจ “ขอรับท่านหยวนเจิ้น!”
แม้ว่าพวกเขาทั้งสามจะรู้ว่านี่มิใช่กองทัพทั่วๆ ไปแต่คนระดับหยวนเจิ้นก็ยังไม่คิดสนใจที่จะลงมาจัดการเอง
หยวนเจิ้นยกมือขึ้นมาปัดเหมือนเสร็จกิจ “เอาล่ะ เมื่อจบเรื่องแล้วพวกข้าก็มีเรื่องอื่นต้องจัดการต่ออีก พวกข้าไปก่อนล่ะ เจ้าจัดการที่นี่ต่อด้วย!”
พูดไปพวกเขาทั้งสามก็กำลังจะหันหน้ากลับไป
“การต่อสู้ยังไม่จบแต่พวกเจ้าก็จะไปเสียแล้วหรือ?”
ในวินาทีนั้นเองมันกลับเกิดเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากห้วงมิติ
สีหน้าของคนทั้งหลายต้องเปลี่ยนสีไป
เสียงนี้มันย่อมจะมิใช่เสียงของใครที่ไหนนอกจากตัวเย่หยวน!
เขานั้นกลับยังไม่ตาย?
ทุกผู้คนหันไปมองที่ต้นเสียงก่อนจะพบว่ามีเงาร่างหนึ่งค่อยๆ ก้าวออกมาจากห้วงมิติ
เมื่อฝ่ายทัพมนุษย์ได้เห็นเย่หยวนพวกเขาก็ยิ้มกว้างโห่ร้องขึ้น
“ฮ่าๆๆ ไม่ตายโว้ย! ท่านนักบุญฟ้าครามยังไม่ตาย!”
“หากมีเขาอยู่ด้วยเราก็ย่อมจะรอดได้!”
…
แต่ละย่างก้าวที่เขาก้าวออกมานั้นมันมีคลื่นพลังที่หนักหน่วงขึ้นในทุกๆ ครั้ง!
พลังงานฟ้าดินวิญญาณต่างๆ พุ่งทะยานปกคลุมฟ้าดินกลืนกินทุกสิ่งอย่าง
คลื่นพลังของเย่หยวนนั้นยังคงพุ่งทะยานอย่างต่อเนื่อง แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
เวลาหลายปีมานี้เย่หยวนย่อมจะบ่มเพาะพัฒนาแนวคิดไปอย่างมากมาย
แต่เขาย่อมจะไม่ได้ทิ้งการบ่มเพาะพลังปราณ
เวลานี้เมื่อมันสั่งสมมาได้เต็มที่ ภายใต้การโจมตีรุนแรงของพวกหยวนเจิ้นทั้งสามตัวเย่หยวนจึงบรรลุขึ้น!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...