“ท่านคิดจะท้าให้ข้ารับดาบจากท่าน? ฮ่าๆๆ ท่านนักบุญฟ้าครามนั้นทำเอาหลินฮวนนี้ต้องยอมรับเลย! เอาเป็นว่า… ไม่ต้องดาบเดียว สักสิบดาบเป็นอย่างไรเล่า?”
หลังจากหลินฮวนได้ยินคำของเย่หยวนเขาย่อมจะต้องหัวเราะลั่นขึ้นมา
ศักดิ์ศรีของมดปลวกนี้มันช่างน่าขำ!
นักบุญฟ้าครามนั้นถูกคนนับพันๆ ยกย่องแต่แล้วมันทำไม?
สุดท้ายแล้วเย่หยวนนั้นก็เป็นแค่เด็กหนุ่มที่ยังไม่มีแรงกำลัง
ต่อหน้ายอดฝีมือที่แท้จริงอย่างเขานั้น ศักดิ์ศรีใดๆ มันย่อมจะไร้ค่า
ต่อให้เจ้าจะสร้างยุคสมัยแห่งความรุ่งเรืองแล้วมันจะทำไม?
เวลามันเปลี่ยนไปแล้ว!
แต่เย่หยวนนั้นกลับตอบกลับมา “ไม่ต้องหรอก ดาบเดียวก็พอแล้ว! หากเจ้าพ่ายก็ไสหัวไปจากหน้านักบุญผู้นี้ หมาดีๆ มันเชื่อฟังคำสั่งคน”
หลินฮวนหรี่ตาลงตอบด้วยรอยยิ้ม “หากข้าแพ้ข้าย่อมจะไปแน่!”
เย่หยวนพยักหน้ารับ “อืมๆ เป็นหมาที่ดี!”
“ฮึ…”
คนทั้งหลายแทบหลุดหัวเราะออกมาเมื่อได้ยิน
หลินฮวนยิ้มตอบกลับไป “อย่าเพิ่งแน่ใจไป! ค่อยมาพูดกล่าวหลังทำร้ายข้าได้ก่อนเถอะ!”
เย่หยวนตอบกลับไป “อืม เช่นนั้นเจ้าก็รับมันให้ดี อย่าได้มาอ้างว่าไม่ทันตั้งตัวแล้วกัน”
พูดไปเย่หยวนก็ชักเอาธนูสาบานสังหารเทพออกมา
พลังของเครื่องรางเต๋าถูกหยิบมาใช้อีกครั้ง!
แต่ว่าในครั้งนี้คลื่นพลังที่ธนูสาบานสังหารเทพปล่อยออกมามันกลับไม่อาจเทียบเคียงกับครั้งก่อนๆ ได้
คลื่นพลังของมันนี้ทำให้คนทั้งหลายขนลุกทั่วกาย
ในเวลานี้เย่หยวนเริ่มได้สร้างชีวิตขึ้นในโลกของตนเองและเข้าสู่อาณาจักรการกำเนิด กำลังของเขานั้นย่อมจะเหนือล้ำกว่าเจ้าฟ้าดินหนึ่งทลายทั่วไปนัก
มาถึงระดับของเย่หยวนนี้ ความเข้าใจต่อเต๋าสวรรค์มันย่อมจะมากล้ำจนไม่อาจบรรยาย
อาณาจักรบ่มเพาะของเขาและกำลังฝีมือของเขานั้นมันมากพอที่จะดึงพลังที่แท้ของเครื่องราวเต๋าออกมาแล้ว
เวลานี้มันมีแสงอ่อนๆ สาดส่องออกมาจากธนูสาบานสังหารเทพ
พลังของมันนั้นเหมือนราวกับสวรรค์ลงมาจุติตรงหน้า
ในโถงกำเนิดตรัสรู้นั้นเหล่าเต๋าบรรพกาลทั้งหลายต่างผงะไปตามๆ กัน
“นั่นมันคือธนูสาบานสังหารเทพของเทพธนู! ไม่นึกเลยว่าของเช่นนั้นมันกลับจะตกอยู่ในมือเย่หยวนได้!” เต๋าบรรพกาลน้ำกล่าวขึ้น
“ก่อนนั้นเทพธนูเคยใช้ศรยิงทะลุฟ้าทำเทียนเหอบาดเจ็บสาหัสก่อนจะผนึกมันลง ดูท่าพลังของเย่หยวนในตอนนี้เขาคงสามารถดึงพลังที่แท้ของธนูสาบานสังหารเทพออกมาใช้ได้แล้ว! พวกเจ้าสัมผัสได้หรือไม่? แม้ว่าอาณาจักรบ่มเพาะของเย่หยวนนั้นจะเพิ่งบรรลุเจ้าฟ้าดินมาแต่ความหนาแน่นของปราณนั้นมันกลับไม่ด้อยกว่าเจ้าฟ้าดินสองทลาย! ข้าไม่รู้เลยจริงๆ ว่ามันเป็นวรยุทธบ่มเพาะเช่นใดจึงทำให้เกิดพลังระดับนี้ขึ้นมาได้!” เต๋าบรรพกาลชีวิตกล่าว
เหล่าเต๋าบรรพกาลทั้งหลายจึงได้หันไปมองตามและพบว่ามันเป็นอย่างที่เต๋าบรรพกาลชีวิตว่า ปราณของเย่หยวนนั้นมันหนาแน่นและหนักหน่วงกว่าปกติไปมาก
ต่อให้จะเป็นหลินฮวนนั้นเองก็ยังไม่อาจเทียบเคียงเย่หยวนได้
แม้ว่าคลื่นพลังของเขาจะรุนแรงแต่ในเรื่องความหนาแน่นของปราณเทวะแล้วเขาย่อมจะไม่อาจจะเทียบใดๆ กับเย่หยวนได้
มันเหมือนกองทรายกับกำแพงปราสาท!
มันมีความแตกต่างอย่างมากมายในปราณเทวะของคนทั้งสอง!
ปราณเทวะเช่นนี้กอปรกับพลังแนวคิดแห่งมิติเวลามันย่อมจะมากพอให้เย่หยวนเอาชนะเจ้าฟ้าดินสามทลายอย่างหลินหลางได้
“ดาบจงมา!”
เย่หยวนกล่าวเรียกขึ้นภายใต้พลังของมิตินั้นมันจึงได้ปรากฏดาบแสงขึ้นในมือของเย่หยวน
อากาศเย็นเยือกแผ่ไปทั่ว!
ตั้งแต่บรรลุขึ้นอาณาจักรการกำเนิดพลังของดาบแห่งมิติเวลามันก็ไม่อาจจะเอาไปเทียบกับตอนอาณาจักรมหาพิภพได้
เครื่องรางเต๋าที่ใช้พลังเต็มทีผสานเข้ากับดาบแห่งมิติเวลามันย่อมจะเป็นไม้ตายที่รุนแรงที่สุดของเย่หยวนแล้ว!
คนทั้งหลายนั้นต่างสั่นสะท้านไปในทันทีที่ได้เห็นคลื่นพลังของเย่หยวนนี้
ไม่มีใครคิดคาดว่าเย่หยวนที่เพิ่งบรรลุอาณาจักรเจ้าฟ้าดินกลับจะแข็งแกร่งปานนี้
รอยยิ้มบนใบหน้าของหลินฮวนนั้นมันค่อยๆ จางหายไป
สิ่งที่เข้ามาแทนที่ความจริงจัง
แน่นอนว่าดาบนี้ของเย่หยวนย่อมจะไม่อาจสังหารเขาลงได้
แต่หากพลาดไปเพียงนิดแล้ว ตัวเขาก็คงต้องบาดเจ็บเป็นแน่!
ในเวลานี้หลินฮวนได้แต่รู้สึกพลาดที่ตัวเองตัดสินใจอย่างไม่รอบคอบ
เพียงแค่ว่าใครจะไปคาดคิดว่าเด็กหนุ่มที่เพิ่งบรรลุอาณาจักรเจ้าฟ้าดินกลับจะมีพลังที่เหนือล้ำฟ้าดินปานนี้?
เย่หยวนดึงง้างธนูขึ้นก่อนจะติดดาบลงไป “เจ้าดูกลัวๆ นะ? ตบหน้าตัวเองสองคราและยอมรับผิดเสีย ข้าจะถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นให้ก็ได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...