จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นกลัว!
พลังที่สามารถควบคุมทั้งโลกหล้าไว้ได้นั้นมันน่ากลัวจนเกินรับ
เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่คิดจะไปเปิดดูความลับอันนี้เสียแต่แรก
เพราะหากเปิดขึ้นมาแล้วมันคงมีแต่ต้องเผชิญหน้า
มันเหมือนกับเหล่านักยุทธในโลกใบน้อยของเขานั้น ไม่ว่าพวกเขาจะบ่มเพาะกันไปสักเท่าใดมันก็ไม่มีทางเอาชนะตัวเขาได้
แล้วคนเราจะเอาพลังใดไปชนะเจ้าโลกของตน?
เย่หยวนส่ายหัวออกมา “ต้องขออภัยจริงๆ แต่ข้าต้องทำ เพราะหากข้าไม่ทำนั้นข้าก็จะไม่อาจปลดปล่อยลี่เอ๋อได้ แต่ท่านวางใจเถอะ ไม่ว่าอีกฝ่ายนั้นมันจะเป็นใครข้าก็จะเป็นคนรับมือมันเอง!”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้ยิ้มตอบกลับไปด้วยใบหน้าเหยเก “รับมือ? แล้วเจ้าจะเอาอะไรไปรับมือตัวตนนั้น?”
เย่หยวนจึงยิ้มตอบกลับไป “บางทีข้าอาจจะหลุดพ้นจากโซ่ตรวนได้จริง?”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้ที่ได้ยินนั้นต้องสั่นสะท้านไปทั้งกายก่อนจะร้องขึ้น “ม-มันเป็นเรื่องจริงหรือ?”
เย่หยวนพยักหน้ารับ “ข้านั้นรู้สึกได้ชัดเจนว่าอาณาจักรบ่มเพาะของข้ามันยังจะไม่จบลงเท่านี้! เพียงแค่ว่าในตอนนี้ข้ายังไม่อาจจะหาทางก้าวผ่านขึ้นไปได้”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นเบิกตากว้างขึ้นมา “มันเป็นไปได้อย่างไร? เจ้าฟ้าดินห้าทลายนั้นมันคือจุดจบของการบ่มเพาะแล้ว เจ้า… เจ้าทำได้อย่างไรกัน?”
เย่หยวนจึงตอบกลับไป “แท้จริงที่พวกหลินเฉาเถียนมันเดานั้นก็ถูกมาครึ่งทางแล้ว ข้านั้นแข็งแกร่งขึ้นมาได้เพราะเขาน้อยแห่งถงเทียนจริง เพียงแค่ว่าสิ่งที่ข้าพึ่งพามากที่สุดนั้นมันมิใช่เขาน้อยแห่งถงเทียนแต่เป็นวรยุทธบ่มเพาะที่ข้าสร้างขึ้นเองจากเขาน้อยแห่งถงเทียน มันเป็นเพราะวรยุทธบ่มเพาะนี้เองที่ทำให้ข้าเป็นข้าได้ในทุกวันนี้ แต่น่าเสียดายที่ท่านนั้นได้สร้างและพัฒนาโลกใบน้อยของตนเองขึ้นมาจนสำเร็จสมบูรณ์แล้วจึงไม่อาจจะเอาวรยุทธบ่มเพาะนี้ไปปรับใช้ใดๆ ได้อีก”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นเบิกตากว้างขึ้น “วรยุทธบ่มเพาะที่สามารถก้าวข้ามโซ่ตรวน! ล-แล้วพวกเราทั้งหลายบ่มเพาะผิดพลาดกันอย่างไร?”
เย่หยวนพยักหน้ารับก่อนจะตอบกลับมา “โลกใบน้อยของข้านั้นมันไม่ได้เปิดขึ้นมาด้วยตนเอง แต่มันเป็นการค่อยๆ พัฒนาขึ้นมาจากความว่างเปล่า ตอนที่พวกท่านทั้งหลายบ่มเพาะไปถึงอาณาจักรเจ้าฟ้าดินนั้นมันเป็นจุดจบการพัฒนาของโลกใบน้อย แต่โลกใบน้อยของข้านั้นกลับยังพัฒนาไม่ถึงที่สุด เพราะฉะนั้นตัวข้าจึงไม่ต้องพบเจอกับทุกข์ทลายใดๆ”
เวลานี้หัวใจของจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นมันเต้นแรงจนแทบหลุดออกจากปาก
คำพูดของเย่หยวนนี้มันทำให้โลกตรงหน้าของเขาแทบแตกสลายลง
โลกใบน้อยของเย่หยวนนั้นกลับยังพัฒนาไม่สุด!
กลายเป็นว่าวรยุทธบ่มเพาะของคนทั้งหลายบนมหาพิภพถงเทียนนั้นผิดพลาด!
แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือเย่หยวนได้เริ่มก้าวเดินและเบิกเส้นทางนี้มาด้วยตัวเอง!
พรสวรรค์ของเขานี้มันไม่อาจจะสรรหาคำใดมาอธิบาย
คนอื่นๆ นั้นใช้คำนับหมื่นนับล้านมาอธิบายพรสวรรค์
แต่เย่หยวนนั้นกลับเป็นเพียงแค่คนเดียวบนมหาพิภพถงเทียนที่ทำได้!
ในหมู่ชีวิตนับล้านๆ นั้น มีเพียงแค่เขาคนเดียว!
หลังจากผ่านไปได้พักใหญ่ๆ จักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้ก็กล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มแห้งๆ “ไม่แปลกใจเลย! ไม่แปลกใจเลยจริงๆ ตอนที่จักรพรรดิผู้นี้ทำนายมันถึงไม่อาจจะเห็นดวงชะตาใดๆ เจ้าได้ เพราะดวงชะตาของเจ้านั้นมันไม่ได้ถูกบันทึกอยู่ในเต๋าสวรรค์ มีหรือที่ผู้อยู่ใต้เต๋าสวรรค์อย่างข้าจะไปหาเจอได้? เด็กชะตาไร้คาดเดาใด รัศมีชะตาใดๆ ไร้สาระสิ้นดี มันไม่มีสิ่งเหล่านั้นอยู่บนตัวเจ้าเลย!”
ระหว่างที่คนทั้งสองพูดคุยกันไปเจียนหยุนซินก็ก้าวเข้ามา
“ท่านนักบุญฟ้าคราม ท่านพ่อ เวลานี้มันมีเจ้าฟ้าดินสี่ทลายผู้หนึ่งนามจางเจิ้นบอกว่ามีเรื่องด่วนจะขอเข้าพบท่านนักบุญฟ้าคราม” เจียนหยุนซินกล่าว
เย่หยวนจึงถามกลับไป “เขาว่าอย่างไรบ้าง?”
เจียนหยุนซินส่ายหัวตอบ “เขาไม่บอกใดๆ แค่บอกว่ามีเรื่องด่วนมากและต้องการพบท่านเป็นการด่วน”
เย่หยวนพยักหน้ารับ “ให้เขาเข้ามาเถอะ”
ไม่นานชายวัยกลางคนผู้หนึ่งในชุดสุดฟ้าน้ำเงินก็เดินตามเจียนหยุนซินเข้ามา
วินาทีที่เขาได้เห็นเย่หยวนนั้นเขาก็รีบคุกเข่าลงทันที “ข้าน้อยจางเจิ้นขอคารวะท่านนักบุญฟ้าคราม ท่านเฉียนจี้!”
เย่หยวนพยักหน้า “ลุกเถอะ เจ้ามีเรื่องใดถึงมาหาข้าหรือ?”
จางเจิ้นนั้นรีบหยิบเอาหินหน้าตาประหลาดก้อนหนึ่งออกมา แต่วินาทีที่หินนี้ปรากฏคลื่นพลังยอดเต๋ามันก็ซัดเข้าจนล้นโถงใหญ่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...