“ส่งผลึกลึกลับนั้นมาแล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า!”
“ไสหัวไป! แค่คนอย่างเจ้าก็จะมาสั่งข้า?”
“ตาย!”
“ตาย!”
…
บนถนนเส้นหลักนั้นมันมีเสียงการต่อสู้อย่างดุเดือดดังลอยมา
ระหว่างทางคดเคี้ยวนั้นมันก็เริ่มจะมีการรวมผสานของเส้นทางมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้นักยุทธมากมายเริ่มที่จะพบเจอและแย่งชิงสมบัติกัน
คนที่กล้าขึ้นมาบนเขาแห่งถงเทียนนั้นต่างไม่มีใครอ่อนแอ พวกเขานั้นต่อสู้กันอย่างดุเดือด
บนถนนเส้นหลักนี้มันมีเจ้าฟ้าดินกว่าสิบคนกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดเพื่อผลึกลึกลับบางอย่าง
แรงปะทะของคนทั้งหลายนี้มันทำให้ม่านหมอกถึงกับแตกกระเจิงไป
แต่วินาทีต่อมานั้นมันกลับมีคลื่นพลังแห่งกฎค่อยๆ ขยับเคลื่อนขึ้นมาจากด้านล่าง
สีหน้าของคนทั้งหลายเปลี่ยนสีไปทันที พวกเขาหยุดมือลงอย่างไม่ได้นัดหมายและหันไปมองยังเส้นทางนั้นด้วยความตื่นเต้น!
ใครกันเล่าที่จะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น?
ผลึกแห่งกฎ!
มันมีใครบางได้ครอบครองผลึกแห่งกฎมาแล้ว!
“ฮ่าๆๆ… ข้าไม่นึกเลยว่าผลึกแห่งกฎนั้นจะปรากฏขึ้นมาตั้งแต่ระยะนี้ได้!”
“พวกเจ้าห้ามเอาไปเด็ดขาด! ผลึกแห่งกฎนี้มันเป็นของข้า!”
“ไม่ว่าจะเป็นใคร ขึ้นมาก็ค่อยฆ่าแล้วมาแบ่งกัน!”
…
เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายนั้นปล่อยจิตสังหารออกมารุนแรงเตรียมพร้อมลงมือ
ในม่านหมอกนั้นมันมีเงาร่างหนึ่งค่อยๆ ปรากฏขึ้นมาชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
“ฆ่า!”
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนร้องสั่งแต่คำพูดนี้มันทำให้เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายพุ่งตัวออกไปตามๆ กัน
แม้ว่ามันจะเหาะเหินบนเขาไม่ได้ แต่แค่พลังฝีเท้าของเจ้าฟ้าดินห้าทลายนั้นมันก็มากพอจะเข้าถึงในพริบตา
พริบตาเดียวนั้นคนทั้งหลายก็พุ่งมาถึงด้านหน้าคนผู้นั้น
แต่เมื่อได้เห็นว่าเป็นใครอย่างชัดเจนคนทั้งหลายกลับต้องหยุดเท้าลงทันที
คนทั้งหลายที่ได้เห็นผู้มาถึงนั้นต่างยืนนิ่งเหมือนราวถูกสาบเป็นหิน
“ท-ท่านนักบุญฟ้าคราม!”
เมื่อเหล่ายอดฝีมือเห็นเย่หยวนนั้นดวงตาของพวกเขาก็ต้องเบิกกว้าง
ไม่มีใครคิดว่าการแย่งชิงตำแหน่งเต๋าบรรพกาลเพิ่งเริ่มขึ้นไม่นานตัวนักบุญฟ้าครามนั้นก็จะได้ถือครองตำแหน่งเต๋าบรรพกาลไว้ในมือแล้ว
ผลึกแห่งกฎในมือของเย่หยวนนั้นมันแตกต่างจากผลึกแห่งกฎในมือของคนอื่นสิ้นเชิง
คนที่พอจะทำอะไรเย่หยวนได้นั้นมันมีแต่เหล่าคนที่มีฝีมือระดับมหาบรรพกาลเท่านั้น
ที่สำคัญแค่มหาบรรพกาลทั่วๆ ไปก็ยังไม่อาจเทียบเคียงเย่หยวนได้
ใครกันเล่าจะเบื่อชีวิตเข้าไปแย่งชิงผลึกแห่งกฎจากมือของเขาคนนี้?
เย่หยวนหันไปมองดูรอบๆ จนทำให้คนทั้งหลายแทบไม่อาจหายใจราวกับว่าถูกเต๋าสวรรค์จ้องมองลงมา
มีหรือที่พวกเขาจะกล้าแสดงความโลภใดๆ ออกมาต่อหน้าเย่หยวน? พวกเขานั้นรีบเก็บความโลภที่พลุ่งพล่านนั้นลงไปลึกสุดใจทันที
ในหมู่คนทั้งหลายนี้ กว่าครึ่งมันเป็นคนที่เย่หยวนพามา
แต่ว่าเย่หยวนนั้นได้กล่าวบอกอย่างชัดเจนแล้วว่าเขาแค่จะพามาเท่านั้น เรื่องอื่นๆ จงหาทางเอาเอง
ส่วนใครที่จะได้เห็นเต๋าบรรพกาลนั้น มันย่อมขึ้นอยู่กับดวงและฝีมือของคนผู้นั้น!
ในความเป็นจริงนั้นต่อให้เย่หยวนจะอย่างยุ่ง ตัวเขาก็คงไม่อาจห้ามปรามใดๆ
โอกาสที่จะได้ขึ้นเป็นเต๋าบรรพกาลนั้น มีใครบ้างที่จะปล่อยมันไปง่ายๆ เพราะคำพูดไม่กี่คำ?
การเป็นเต๋าบรรพกาลนั้นมันเหมือนการได้ขึ้นสวรรค์อย่างแท้จริง!
“พวกเจ้าสู้กันต่อเถอะ” เย่หยวนกล่าวด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินผ่านหน้าคนทั้งหลายไป
“ข-ขอท่านนักบุญฟ้าครามเดินทางปลอดภัย!” คนทั้งหลายร้องขึ้นมาแทบพร้อมๆ กันก่อนจะส่งเย่หยวนไป
เมื่อเย่หยวนหายลับไปจากสายตาของพวกเขาแล้วคนทั้งหลายจึงได้ถอนหายใจยาวออกมาแทบพร้อมๆ กัน
พวกเขานั้นสัมผัสได้เลยว่าร่างกายนั้นมันเปียกไปด้วยเหงื่อเย็นเหยียบ!
นักบุญฟ้าครามในเวลานี้มันน่ากลัวจนเกินรับ!
ในหมู่คนนั้นมันมีนักยุทธผู้หนึ่งที่เบิกตากว้างร้องขึ้นมา “ห-หยาดชีวา! เรายังมีหวัง! ตราบเท่าที่เราหาหยาดชีวาได้ด้วยนิสัยของท่านนักบุญฟ้าครามแล้วท่านย่อมจะส่งผลึกแห่งกฎให้เราแน่!”
คนอีกผู้จึงกล่าวเสริมขึ้น “ใช่แล้ว! มันยังมีเรื่องของหยาดชีวา! ตราบเท่าที่เราหาหยาดชีวามาได้ มันมิใช่แค่ท่านนักบุญฟ้าครามจะมอบผลึกแห่งกฎให้เราแต่จะช่วยคุ้มครองเราขึ้นไปถึงยอดจนกลายเป็นเต๋าบรรพกาลด้วย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...