“ส-ไสหัวไป?”
ไม่ว่าจะเป็นเหล่ายอดคนระดับมหาบรรพกาลทั้งห้าหรือว่าจะเป็นเหล่ายอดฝีมือที่อยู่ไกลออกไปนั้นพวกเขาต่างต้องถามย้ำขึ้นมาเพราะไม่อยากเชื่อหูตัวเอง
เย่หยวนนั้นกลับคิดไล่ให้มหาบรรพกาลทั้งห้านี่ไสหัวไป?
ก็จริงที่ว่าเย่หยวนนั้นเก่งกาจ
แต่มันก็คงไม่มีทางที่จะจัดการห้ามหาบรรพกาลลงพร้อมๆ กันใช่หรือไม่?
“เย่หยวน! เจ้า… เจ้าจะโอหังเกินไปหรือไม่? เจ้าคิดว่าแค่เจ้าสังหารเต๋าบรรพกาลไฟมันลงได้แล้วเจ้าจะเมินเฉยเต๋าบรรพกาลทั้งหลายได้สิ้นหรือ?” เต๋าบรรพกาลน้ำกล่าวขึ้น
แต่มุมปากของอี้เฟิงกลับเผยอยิ้มขึ้น “น่าสนใจ! เจ้าคิดจะท้าทายพวกเราทั้งห้าหรือ?”
เย่หยวนตอบกลับไปอย่างไม่แยแส “ข้าแค่จะเอาผลึกแห่งกฎไป! แน่นอนว่าหากพวกเจ้าคิดว่ามันเป็นการท้าทายพวกเจ้า มันก็คงเป็นการท้าทายแล้ว!”
คำพูดของเย่หยวนนั้นมันหยิ่งยโสอย่างมาก!
“ฮ่าๆๆ…”
อี้เฟิงที่ได้ยินนั้นอดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมาช้าๆ “ข้าไม่นึกฝันเลยว่าวันหนึ่งบรรพบุรุษผู้นี้จะมาถูกผู้คนดูถูกเอาได้! ข้านั้นไม่นึกฝันเช่นกันว่าวันหนึ่งจะต้องมาร่วมมือกับมนุษย์! พวกเจ้าคิดอย่างไร?”
อี้เฟิงนั้นหัวเราะแต่ภายในของเขานั้นมันเดือดดาลจนถึงที่สุด
เขานั้นเป็นตัวตนระดับใด?
บรรพบุรุษผู้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดปกครองทุกชีวิต!
เวลานี้เขานั้นกลับมาถูกคนอื่นดูถูกจนถึงขั้นไล่ให้ไสหัวไป!
หากเขาทนเรื่องนี้ได้ จะยังมีเรื่องใดในโลกที่เขาทนไม่ได้!
แน่นอนว่าเขานั้นมิใช่คนเดียวที่รู้สึกเดือดดาล
อีกสี่คนเองก็กำลังกัดฟันแน่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเต๋าบรรพกาลทั้งสามนั้นที่ถึงขั้นยอมลดตัวลงมาก้มหัวให้เย่หยวนแต่พวกเขากลับถูกเย่หยวนเตะส่งไปอย่างไม่ใยดี
เต๋าบรรพกาลน้ำนั้นตอบกลับมาด้วยใบหน้าดำมืด “แม้ว่าบรรพกาลผู้นี้จะไม่อยากแต่ข้าก็คงไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว! เจ้าเด็กคนนี้มันโอหังจนเกินไป!”
เต๋าบรรพกาลสายฟ้านั้นจึงกล่าวขึ้นมาเสริม “หึ! คนเขาอุตส่าห์ไว้หน้ากลับไม่คิดรับ! เดิมทีข้านั้นแค่เกรงๆ เจ้าแต่เจ้ากลับบังคับให้เราทั้งห้าร่วมมือกัน! ที่แห่งนี้มันคือเขาแห่งถงเทียนที่เจ้าไม่อาจจะเหาะเหินหรือมุดห้วงมิติได้! บรรพกาลผู้นี้ก็อยากจะรู้นักว่าเจ้าจะยังรอดจากการโจมตีของเราทั้งห้าได้หรือไม่!”
เต๋าบรรพกาลทำลายล้างกล่าวขึ้นมาตาม “เย่หยวน หลังจากเจ้าก้าวขึ้นมาถึงระดับมหาบรรพกาลได้นั้นดูเจ้าจะยิ่งหยิ่งผยองไปกันใหญ่! ในเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วบรรพกาลผู้นี้ก็จะส่งเจ้าลงนรกไปเอง!”
บ้า!
บ้ามาก!
ท่านนักบุญฟ้าครามนั้นกลับคิดจะรับมือเต๋าบรรพกาลทั้งหลายด้วยตัวคนเดียว!
เย่หยวนนั้นเคยหลบหนีจากเงื้อมมือของเต๋าบรรพกาลทั้งเก้ามาก่อนก็จริง
เพียงแค่ว่านั่นมันคือการหนี มิใช่การปะทะใดๆ!
เหล่าเจ้าฟ้าดินทั้งหลายที่ได้เห็นนั้นต่างต้องอ้าปากค้างขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมเย่หยวนจึงได้เลือกทำเช่นนี้
เย่หยวนยิ้มขึ้นมาด้วยสีหน้าเย้ยหยัน “ไว้หน้ากลับไม่คิดรับ? หึๆ มันเป็นพวกเจ้าเองมิใช่หรือ? เย่ผู้นี้ไม่คิดจะรับหมูหมาที่ไหนมาเป็นคนรับใช้ง่ายๆ เสียหน่อย!”
เย่หยวนนั้นไม่ได้คิดอวดเก่งใดๆ แต่เขานั้นเกลียดชังคนทั้งหลายนี้จนถึงกระดูก
สำหรับเต๋าบรรพกาลทั้งหลายนั้นมันย่อมไม่มีสหายแท้หรือศัตรูถาวรใด
แต่กับเย่หยวนนั้น บุญคุณก็คือบุญคุณ ความแค้นก็คือความแค้น!
คนทั้งหลายนี้ได้สร้างความแค้นกับเขาไว้อย่างถึงที่สุด เวลานี้กลับคิดจะหันหน้ากลับมาร่วมมือกับเขา
ฝันไปเถอะ!
ที่สำคัญไปกว่านั้นตั้งแต่ที่เขาได้เห็นผลึกแห่งกฎธาตุไฟนี้เย่หยวนก็ไม่คิดจะปล่อยมันไปตั้งแต่แรกแล้ว
การที่เขาถือผลึกแห่งกฎไว้นั้นมันย่อมจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
มันยังมีคนรอบตัวเขาอีกมากมายที่เหมาะสมจะเป็นเต๋าบรรพกาลกว่าคนทั้งห้านี้!
สีหน้าของเหล่าเต๋าบรรพกาลทั้งสามนั้นมันดำมืดลงทันทีที่ได้ยิน
เย่หยวนกลับไม่คิดแม้แต่จะเอาพวกเขาไปเป็นคนรับใช้!
เพื่อที่จะได้ผลึกแห่งกฎนี้มาพวกเขานั้นได้ทิ้งศักดิ์ศรีความเป็นเต๋าบรรพกาลสิ้น
แต่เย่หยวนนั้นกลับไม่คิดสนใจ!
“หึ! รอดจากมือพวกเราแล้วค่อยมาพูดเถอะ! คลื่นห้อมล้อมทิศ!”
เต๋าบรรพกาลน้ำนั้นไม่คิดกล่าวใดๆ อีกและลงมือทันที!
พริบตาต่อมานั้นเย่หยวนก็ถูกห้อมล้อมไว้ด้วยคลื่นน้ำ
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือพลังของน้ำนี้มันสุดแสนประหลาด ทำให้คนไม่อาจดิ้นหลุดพ้น
“สายฟ้าแท้อมตะตำหนิ!”
“ฝ่ามือทลายสวรรค์!”
“กายาพรหม!”
…
ยอดฝีมือระดับมหาบรรพกาลทั้งห้านั้นต่างแสดงฝีมือออกมาไม่ว่าจะเป็นท่าไม้ตายสุดรุนแรงหรือวรยุทธแท้เต๋าสวรรค์
พลังของคนทั้งห้านั้นมันพุ่งทะยานจนถึงระดับที่น่ากลัว
แต่เย่หยวนนั้นกลับยืนนิ่งโยนหมูสมบัติทิ้งไปก่อนจะเข้ารับมือวิชาของคนทั้งหลาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...