เมื่อเต๋าบรรพกาลน้ำได้เห็นเช่นนั้นเขาก็ย่อมจะหัวเราะลั่นขึ้นมาด้วยความสะใจ “ฮ่าๆๆ… เจ้าเห็นหรือไม่เย่หยวน? นี่แหละมันคือพลังของเต๋าบรรพกาล! ความตายนั้นมันจะรอเจ้าอยู่หากคิดท้าทายเต๋าบรรพกาล!”
“เย่หยวน เจ้ามันจะดูถูกบรรพบุรุษทั้งแปดเรามากเกินไปแล้ว! เจ้าลืมไปแล้วหรือว่ามหาบรรพกาลทั้งหลายนั้นมันก็ตายลงด้วยวรยุทธแท้เต๋าสวรรค์ของเรานี้?” อี้เฟิงยิ้มเย้ยขึ้น
เพราะในความเป็นจริงกำลังของคนทั้งห้านั้น ฝั่งบรรพบุรุษทั้งสองมันดูจะแข็งแกร่งกว่าเต๋าบรรพกาลทั้งสามไปเสียด้วยซ้ำ
วินาทีที่พวกเขาปล่อยกำลังออกมาจนสุดตัวนั้นมันย่อมจะเป็นอะไรที่สุดแสนรุนแรง
เป็นเวลานี้เองที่เต๋าบรรพกาลทั้งหลายได้รู้ว่าก่อนหน้านี้พวกอี้เฟิงทั้งสองนั้นไม่ได้ใช้พลังฝีมือออกมาอย่างเต็มที่เลย
โชคยังดีที่เย่หยวนนั้นสามารถบีบให้คนทั้งสองนี้ใช้พลังฝีมือที่เก็บซ่อนไว้ออกมาได้จนหมด
เมื่อเหล่าเจ้าฟ้าดินทั้งหลายที่ดูอยู่ห่างๆ ได้เห็นพวกเขาต่างก็ต้องถอนใจยาว
“เฮ้อ! ท่านนักบุญฟ้าครามมั่นใจเกินไปแล้ว!”
“คนพวกนั้นแต่ละคนต่างเป็นสัตว์ประหลาดเฒ่าที่อยู่มานับหมื่นๆ ล้านปี มีหรือที่จะไม่มีไม้ตายใดๆ เก็บไว้เลย?”
“ท่านนักบุญฟ้าครามนั้นเล่นใหญ่เกินไปแล้วครั้งนี้ เวลานี้มิใช่แค่ท่านจะพลาดโอกาสชิงผลึกแห่งกฎธาตุไฟไปแต่แม้ผลึกแห่งกฎธาตุน้ำนั้นมันก็คงไม่อาจปกป้องได้แล้ว!”
…
เรื่องราวสถานการณ์ในตอนนี้คนทั้งหลายก็อดไม่ได้ที่จะสงสารเขาขึ้น
เย่หยวนนั้นมีฝีมือแค่ไหนมันคงไม่ต้องสงสัยกัน
เพียงแค่ว่าการต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกหล้าถึงห้าคนนั้นมันก็คงอาจจะยังมากเกินไป
แต่ตัวเย่หยวนที่อยู่ภายในเอกภพนั้นกลับทำหน้านิ่งไม่กังวลใดๆ มากมาย
ได้ยินคำว่าของเต๋าบรรพกาลน้ำและอี้เฟิงเช่นนั้นตัวเย่หยวนจึงตอบกลับไป “ดูพวกเจ้าจะพอใจกันมากมายนัก! พวกเจ้าทำได้แค่นี้หรือ? แต่ข้านั้นยังไม่ได้ใช้พลังออกมาจนถึงที่สุดเลย!”
เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวออกมาสีหน้าของยอดฝีมือทั้งห้าก็ต้องเปลี่ยนสีไป
แต่ไม่นานเต๋าบรรพกาลน้ำก็ตั้งสติตอบกลับมา “หึๆ เจ้าคิดว่าจะขู่พวกเราได้ผลหรือ? วิชานี้ของเจ้ามันใช้เต๋าดาบได้จนถึงขั้นสุดแล้ว ทำลายได้แม้แต่การร่วมมือของเต๋าบรรพกาลชีวิตและเต๋าบรรพกาลไฟ! เจ้าคิดว่าบรรพกาลผู้นี้ไม่คิดเชื่อว่าเจ้ายังมีอะไรที่มันเหนือกว่านี้อยู่!”
อี้เฟิงกล่าวเสริมขึ้น “เจ้าเองก็จะดูถูกพวกเราเกินไปแล้ว! หึๆ หากเจ้ายังมีไม้ตายใดก็ลองใช้มันออกมาให้เห็นสิ!”
มันมิใช่ว่าพวกเขาไม่คิดเชื่อแต่ว่าวิชาเอกภพของเย่หยวนมันแข็งแกร่งจนเกินไป!
พวกเขานั้นไม่อาจจะนึกภาพว่ามันจะยังมีอะไรที่สร้างจากเต๋าดาบและเหนือล้ำกว่านี้ไปได้อีก
เย่หยวนพยักหน้ารับ “วางใจเถอะ พวกเจ้าจะได้เห็นแน่!”
จากนั้นเอกภพของเย่หยวนมันก็ค่อยๆ หมุนวนขึ้นมา
เวลานี้เอกภพที่เดิมทีมีสภาพเหมือนเกราะคุ้มตัวเย่หยวนไว้มันค่อยๆ เผยให้เห็นช่องว่างใหญ่หลังมันเริ่มหมุนได้ไม่นาน
เมื่อยอดฝีมือทั้งห้าเห็นรูนั้นร่างกายของเขาก็ต้องสั่นสะท้านขึ้นมา!
รนหาที่ตาย!
พวกเขานั้นพุ่งเขาไปอย่างไม่คิดชีวิต
เมื่อได้เห็นช่องว่างในเกราะเหล็กแล้วมีหรือที่พวกเขาจะปล่อยมันไปง่ายๆ?
วินาทีเดียวนั้นมันได้มีพลังโจมตีรุนแรงพุ่งผ่านช่องว่างนั้นเข้าไป
แต่ในขณะเดียวกันทางด้านเย่หยวนเองก็ได้เปล่งประกายแสงสีทองออกมาจากร่าง!
คลื่นพลังสายเลือดมังกรหนาแน่นปะทุขึ้นมา!
เกราะมายามังกรฟ้า!
ร่างกายของเย่หยวนนั้นมันกลับค่อยๆ ปรากฏเกร็ดมังกรหนาขึ้นมาคลุมกาย
เกร็ดมังกรทั้งหลายนี้มันเกิดขึ้นมาด้วยพลังเลือดของเย่หยวน
ตูม!
การโจมตีของยอดฝีมือทั้งห้านั้นพุ่งเข้ามาปะทะเกราะมายามังกรฟ้าอย่างรุนแรง
เย่หยวนนั้นรู้สึกได้ถึงรสหวานๆ ในลำคอดูท่าอวัยวะภายในของเขามันคงได้รับบาดเจ็บไม่น้อย
แต่เขานั้นกลับกดอาการนั้นไว้
ปราณเทวะในร่างของเขานั้นมันพลุ่งพล่านทะยานเข้าใส่เอกภพอย่างรุนแรง!
ระหว่างที่เย่หยวนทนรับการโจมตีไปเอกภพนั้นมันก็ค่อยๆ เปลี่ยนรูปกลายเป็นเหมือนดาบยักษ์ยาวสองเล่ม
และดาบทั้งสองนั้นมันก็ค่อยๆ หมุนไปในทิศตรงข้ามกันเป็นวงกลม
ความคมของมันนั้นตัดแม้แต่หมอกหนาจนจางหายสิ้น
กลิ่นอายแห่งความตายมันลอยฉุนขึ้นในอากาศ
เดิมทียอดฝีมือทั้งห้านั้นยังยิ้มร่าเป็นช่องว่างโจมตีเย่หยวนอย่างไม่ยั้งมือ
แต่ไม่นานสีหน้าของพวกเขามันก็ต้องซีดขาว!
นี่มันคือกลิ่นอายเห็นความตาย!
เย่หยวนนั้นยังมีไม้ตายอยู่จริง!
เวลานี้เอกภพที่เดิมทีเคยสุดแสนมั่นคงหนักแน่นมันได้กลายเป็นดาบที่เฉียบคมพร้อมจิตสังหารที่ลอยแน่นในอากาศ!
คลื่นพลังดาบอันรุนแรงนั้นมันพัดหมุนมาอย่างไม่ทันให้ใครตั้งรับทัน!
เมื่อก้าวขึ้นมาถึงระดับของเย่หยวนแล้วมันย่อมเป็นระดับที่ดาบนั้นอยู่ในอก ไม่จำเป็นต้องใช้วัตถุใดๆ มาแทนดาบเลย
เพียงแค่ปราณเทวะของเขามันก็เฉียบคมราวกับดาบแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...