โลกทั้งใบมันตกสู่ห้วงความเงียบงัน
มีเพียงเสียงเลือดที่ไหลลงจากปากของมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลเท่านั้นที่ยังคงดังอยู่
อาการบาดเจ็บของเขานั้นมันสุดแสนรุนแรงเหลือเพียงแค่ลมหายใจรวยริน
หลินเฉาเถียนนั้นยังคงปล่อยพลังกฎแห่งไฟลงไปปั่นป่วนในร่างกายของเขาอย่างไม่เปิดโอกาสให้รักษาได้
“นี่… นี่มันจะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”
“มันจบแล้ว เรื่องราวบนมหาพิภพถงเทียนในวันหน้ามันคงไม่เหมือนเดิมอีก!”
“ให้ตายสิ! ในวันหน้าเรามีแต่ต้องก้มหัวให้มันหรือ!”
“ท่านนักบุญฟ้าครามนั้นถือตัวจนเกินไปจริงๆ! เมื่อท่านไม่ยอมรับตำแหน่งเต๋าบรรพกาลเช่นนี้แล้วท่านจะยังเอาอะไรมาเทียบเคียงหลินเฉาเถียนมันอีก?”
…
ได้ยินคำบ่นของคนทั้งหลายนั้นหลินเฉาเถียนก็พึงพอใจอย่างมาก
เขานั้นเข้าใจถึงหลักการปกครองด้วยความเชิดชูและหวาดกลัว เวลานี้ในเมื่อไม่มีทางไหนจะปกครองด้วยความเชิดชูได้อีกแล้ว เขาจึงเลือกที่จะใช้ความหวาดกลัวเข้าปกครองแทน
กำลังนั้นคือทุกสิ่งอย่าง!
เวลานั้นมันค่อยๆ เคลื่อนผ่านไปเรื่อยจนเส้นทางที่สี่ก็ได้เปล่งแสงขึ้น
เยวี่ยเมิ่งลี่เดินก้าวออกมา!
เวลานี้บนร่างของนางมันได้มีพลังกฎแห่งลมอย่างรุนแรงล้ำ!
นางนั้นได้กลายเป็นเต๋าบรรพกาลวายุ!
การปรากฏกายของนางนี้มันยิ่งทำให้ฝั่งเผ่าเทวาได้เปรียบมากขึ้น
สองยอดฝีมือสิบลายนั้นได้กลายเป็นเต๋าบรรพกาลทั้งคู่ แค่นี้ทางฝั่งมนุษย์เองก็คงลำบากกันอย่างมากแล้ว
แน่นอนว่าจุดสำคัญมันมิได้อยู่ตรงนั้น
จุดสำคัญมันคือว่าฝั่งมนุษย์ทั้งหลายเองยังคงขัดแย้งกันภายในอย่างมาก!
เมื่อเยวี่ยเมิ่งลี่ได้เห็นมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนอนกองอยู่บนพื้นนางก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแน่น
หลังจากเดินมาถึงตัวเทียนชิงแล้วมันดูเหมือนเทียนชิงจะหันไปเล่าเรื่องราวให้นางฟังจนนางอดไม่ได้ที่จะหันไปมองหลินเฉาเถียนด้วยสายตาขยะแขยง
ไม่นานจากนั้นเต๋าบรรพกาลที่ห้าก็ได้ปรากฏตัวขึ้น
และเต๋าบรรพกาลคนที่ห้านี้เองก็ยังเป็นชาวเผ่าเทวา
ปั่วยี่แห่งตระกูลสายเลือดดินนั้นได้กลายเป็นเต๋าบรรพกาลมืด
เต๋าบรรพกาลคนที่หกเองก็ยังคงเป็นชาวเผ่าเทวา!
เขานั้นคือหยวนเซี่ยวแห่งตระกูลสายเลือดลึก ได้กลายเป็นเต๋าบรรพกาลปฐพี
ในเวลานี้มันจึงเป็นเผ่าเทวาแล้วถึงสี่คนที่ยึดครองตำแหน่งเต๋าบรรพกาลไป!
ทั้งหนึ่งในสองยอดเต๋าบรรพกาลของฝ่ายมนุษย์นั้น หนึ่งคนก็กำลังนอนนิ่งด้วยลมหายใจรวยรินอยู่!
ยอดฝีมือชาวมนุษย์ทั้งหลายแทบจะสิ้นความหวังลงตรงนั้น
แม้แต่หลินเฉาเถียนเองก็ยังมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก
ก็จริงที่ว่าเขานั้นแข็งแกร่งแต่หากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ต่อไปแล้วมันคงยากเกินกว่าที่เขาจะแก้ไขมันด้วยตัวคนเดียว!
เทียนชิงและเยวี่ยเมิ่งลี่นั้นเป็นตัวตนที่ไม่ได้ต่ำด้อยไปกว่าเขาเลย
ที่สำคัญเหล่าบรรพบุรุษของเผ่าเทวาทั้งหลายมันยังสุดแสนแข็งแกร่งเหนือเต๋าบรรพกาลชาวมนุษย์ไปไม่น้อย
การกลายเป็นเต๋าบรรพกาลนั้นมันย่อมจะทำให้พลังฝีมือของพวกเขายิ่งพุ่งสูงล้ำ มิใช่สิ่งที่คนทั่วๆ ไปจะมาเทียบเคียง
ไม่นานจากนั้นเต๋าบรรพกาลคนที่เจ็ดก็ได้ปรากฏตัว!
แต่ครั้งนี้มันเป็นฝ่ายมนุษย์บ้าง!
แต่ว่าเต๋าบรรพกาลคนที่เจ็ดนี้กลับเหนือคาดคนทั้งหลายไปมาก เพราะเขานั้นกลับมิใช่เต๋าบรรพกาลจากยุคก่อนแต่เป็นเต๋าบรรพกาลใหม่เอี่ยม!
คนผู้นี้เป็นคนรับใช้ของเต๋าบรรพกาลไฟนามหวังเจิ้ง
ไม่มีใครนึกฝันว่าเต๋าบรรพกาลไฟตายลงแต่ลูกน้องของเขานั้นกลับก้าวขึ้นมาเป๊นเต๋าบรรพกาลสายฟ้า!
การได้ก้าวขึ้นมาเป็นเต๋าบรรพกาลนี้ตัวหวังเจิ้งเองก็ย่อมจะเปี่ยมล้นไปด้วยความมั่นใจ
แต่ในวินาทีเดียวกันนั้นเองที่หลินเฉาเถียนก็ได้กล่าวขึ้น
“หวังเจิ้ง จากนี้ไปข้าจะปกครองเผ่าพันธุ์ทั้งหลายเอง! รีบๆ มาคารวะบรรพกาลผู้นี้เสียหรือไม่… ก็ตาย!” หลินเฉาเถียนกล่าวขึ้น
หวังเจิ้งนั้นผงะไปทันทีจนแทบจะด่าสวนกลับไป
เขานั้นก้าวขึ้นมาเป็นเต๋าบรรพกาลแล้วแต่ยังต้องไปเป็นหมารับใช้หลินเฉาเถียนนั้นอีกหรือ?
แต่ในวินาทีก่อนที่เขาจะเปิดปากนั้นเองที่ภาพของมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลมันก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าไม่ไกลจากตัวหลินเฉาเถียนจนทำให้หวังเจิ้งต้องเบิกตากว้าง
มีหรือที่เขาจะมองไม่ออกว่ามหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นบรรลุเต๋าและก้าวขึ้นมาเป็นเต๋าบรรพกาล?
แต่เขานั้นกลับยังถูกทำร้ายจนมีสภาพเช่นนั้น!
ที่สำคัญไปกว่านั้นมหานักบวชศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลนั้นยังเป็นมหาบรรพกาลมาก่อนจะได้รับพลังเต๋าบรรพกาล กำลังฝีมือย่อมจะเหนือตัวหวังเจิ้งไปไม่น้อยแน่
เมื่อลองนึกเชื่อมความสัมผัสของเย่หยวนกับหลินเฉาเถียน หวังเจิ้งก็ผงะด้วยความลังเลไปไม่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...