เหล่าศิษย์ทั้งหลายต่างได้แต่หันมามองหน้ากันอย่างตกตะลึงถึงขีดสุด บ้างถึงขั้นอ้าปากค้างขึ้นมาก็มี
ในที่นี่ไม่มีใครจะโง่จนไม่เข้าใจว่าคำพูดของกู่เม่านี้มันมีความหมายว่าอย่างไร!
หรือว่าผู้บรรลุสวรรค์คนนี้มันจะมองทะลุอาจารย์ของพวกเขาได้ในพริบตา?
นี่มัน… เป็นไปได้อย่างไรกัน?
นี่จะบอกว่ากู่เม่านั้นกำลังถูกพิษไฟทำร้ายจนหยั่งรากลึกลงไปถึงอวัยวะภายในจริงๆ หรือ?
แท้จริงแล้วพิษไฟนั้นมันก็ไม่ได้เป็นพิษที่ร้ายแรงถึงตาย
ชีวิตของนักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์นั้นมันถึกทนกว่าพิษนี้ไปมาก
แต่เมื่อพิษไฟมันสะสมไปจนถึงระดับหนึ่งแล้ว มันจะทำให้การควบคุมไฟของกู่เม่าแย่ลงอย่างมาก
นักหลอมโอสถสวรรค์ที่ไม่อาจควบคุมไฟได้ มันคงเป็นได้แค่ตัวตลก!
นามอันลือลั่นของกู่เม่านั้นมันจะสิ้นสลายลงในชั่วข้ามคืน!
ใครกันเล่ายังจะมาต้องการนักหลอมโอสถสวรรค์ที่หลอมโอสถไม่ได้?
กู่เม่าหรี่ตาลงก่อนจะกล่าวขึ้นอีกครั้ง “ยังไม่ไปกันอีก?”
เหล่าศิษย์ทั้งหลายนั้นต่างต้องก้มหัวเดินตามๆ กันออกจากโถงไป
ถังหยูนั้นหยุดร้องไห้ลงและอ้าปากค้างมองดูเย่หยวนแทน
กู่เม่าป่วยอยู่จริงๆ!
เย่หยวนนั้นกลับมองมันออกในพริบตา!
สิ่งที่คนทั้งตระกูลถังนั้นรวมไปถึงคนทั้งอาณาจักรตะวันออกไม่ทันรู้ แต่เย่หยวนนั้นกลับมองออกได้ในพริบตาเดียว!
นี่มันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว!
ไม่มีใครรู้เลยว่ากู่เม่านั้นมีพิษร้ายโจมตีร่างกายภายในจนตอนนี้เขาไม่อาจจะหลอมโอสถได้อีกต่อไปแล้ว
เขานั้นซ่อนมันไว้อย่างแนบเนียน!
กู่เม่านั้นตอบกลับมาด้วยใบหน้าดำมืด “เด็กน้อย เจ้าช่วยข้าขับไล่พิษไฟนี้ออกจากกายแล้วเฒ่าผู้นี้จะรับเจ้าเข้าเป็นศิษย์!”
เย่หยวนยิ้มเย้ยขึ้นมา “เจ้ามันป่วยจริงๆ!”
กู่เม่านั้นแทบต้องสำลักออกมาเมื่อได้ยิน หรือว่าเจ้าเด็กคนนี้มันจะสติไม่ดี รู้แต่คำพูดเดียวนี้?
‘ให้ตายเถอะ ข้าโดนหลอกแล้วหรือ?’ กู่เม่าคิด
กู่เม่ากล่าวขึ้นมา “เด็กน้อย เจ้าคิดก่อกวนข้าแล้ว?”
เย่หยวนได้แต่กลอกตามอง “ครั้งนี้ข้าพูดถึงสมองของเจ้านั้นต่างหากที่ป่วย! แค่ฝีมืออย่างเจ้านี้ก็คิดรับข้าเป็นศิษย์หรือ? แล้วทำไมข้าจะต้องไปช่วยเจ้ากำจัดพิษไฟออกจากร่างด้วย? เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหนกัน?!”
กู่เม่านั้นใช้ชีวิตอยู่บนคำชื่นชมจนเข้าใจว่าตัวเองนั้นสูงเหนือล้ำฟ้าดิน
เพราะฉะนั้นเวลาพูดกับเย่หยวนเองเขาก็ยังวางท่าเหนือหัวคนไว้เช่นกัน
ที่สำคัญไปกว่านั้นด้วยฐานะผู้บรรลุสวรรค์ของเย่หยวนมันจึงยิ่งทำให้กู่เม่าดูถูกเขาไปกว่าเก่า
แต่ศักดิ์ศรีของเย่หยวนนั้นมันสูงล้ำกว่าที่เขาคาดคิด!
หากกู่เม่านั้นเป็นสุดยอดฝีมือวิชาการโอสถจริงๆ ก็ยังพอว่าแต่วิชาที่เขาแสดงออกมานั้นมันอาจจะดูเหนือล้ำต่อหน้าเหล่าศิษย์ทั้งหลายของเขามากมาย
แต่ต่อหน้าเย่หยวนแล้วมันกลับไร้ค่าใดๆ ให้พูดถึง!
เย่หยวนนั้นไม่เข้าใจโอสถสวรรค์ใดๆ แต่เขานั้นย่อมจะรู้จักวิชาการโอสถดี
พื้นฐานของเขานั้นมันหนักแน่นนอกจากเรื่องที่ว่าเขายังไม่เข้าใจระบบการหลอมโอสถสวรรค์แล้วความรู้เรื่องอื่นๆ ของตัวเขามันได้เหนือกว่ามาตรฐานการโอสถของภพเบื้องล่างไปแสนนาน
นักหลอมโอสถสวรรค์นั้นสำหรับเย่หยวนแล้วมันก็มิได้สูงล้ำมากมายใดๆ!
หรืออย่างน้อยๆ ตัวกู่เม่านี้มันก็ยังไม่เก่งพอจะได้รับคำชื่นชมจากเย่หยวน
หากคิดวางตัวโอหังมันก็ต้องมีความสามารถหนุนหลังอยู่ด้วย!
ถังหยูนั้นยังถอนหายใจไม่ทันสุดเย่หยวนก็กล่าวคำพูดนี้ออกมา
เวลานี้เขาคิดอยากจะตายลงให้ได้เสียอีกครั้ง
แน่นอนว่าเมื่อกู่เม่าได้ยินเช่นนั้นเขาก็ต้องร้องลั่นขึ้นมาอย่างไม่พอใจ “เจ้าคนโอหัง! ถังหยู อย่าได้มาโทษข้าว่าข้าไม่ไว้หน้าตระกูลถังแล้ว! เจ้าเด็กคนนี้มันโอหังจนเกินทน!”
ถังหยูนั้นสั่นสะท้านไปทั้งกายก่อนจะรีบใช้แขนข้างเดียวนั้นยกขึ้นมาขวางหน้ากู่เม่าไว้ “อ-อาจารย์กู่ อย่าเพิ่งรีบร้อนลงมือไป! ท่าน… ท่านเทียบเขาไม่ได้!”
“หะ? เจ้าจะบอกว่าเฒ่าคนนี้ไม่อาจเทียบเคียงฝีมือของผู้บรรลุสวรรค์ได้หรือ?” เมื่อกู่เม่าได้ยินเขาก็ต้องหันมาถามด้วยน้ำเสียงตะคอก
ถังหยูตอบกลับไป “ใช่แล้ว! เมื่อวานท่านพี่นั้นเป็นคนจัดการตระกูลกุ้ยลงด้วยตัวเอง! แม้แต่กุ้ยไห่เฉิงเองก็ตายลงเช่นกัน!”
คำพูดนั้นมันเหมือนดั่งน้ำเย็นที่ราดลงบนหัวของกู่เม่าทำให้ความเร่าร้อนของเขาจางลงทันที
เขาได้แต่ต้องหันไปมองเย่หยวนอย่างไม่อยากเชื่อสายตา “มันจะเป็นไปได้อย่างไร? เฒ่าคนนี้ไม่ขอเชื่อ!”
แต่ถังหยูก็ยังย้ำกลับมา “มันเป็นความจริง! อาจารย์กู่ มีหรือที่หลานจะยังมาโกหกอาจารย์?”
กู่เม่านั้นไม่คิดอยากเชื่ออย่างสุดหัวใจแต่เขานั้นก็รู้ดีว่าถังหยูย่อมจะไม่พูดล้อเล่นในสถานการณ์เช่นนี้แล้ว
เพราะอย่างไรเสียเรื่องใหญ่โตเช่นนั้นหากเขาออกไปสืบหาดู คงใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็รู้ความจริงได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...