โถงหทัยธวัล ที่แห่งนี้มันคือที่อยู่อาศัยของนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหนึ่งกู่เม่า ผู้ที่เป็นแหล่งผลิตโอสถให้แก่ตระกูลถัง
กู่เม่านั้นเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหนึ่งผู้มีตำแหน่งสูงส่งแม้จะเอาเขาไปเทียบกับนักหลอมโอสถสวรรค์ทั้งอาณาจักรตะวันออกก็ตาม
ต่อให้เขานั้นจะมีฐานะเป็นคนงานของตระกูลถังแต่แท้จริงแล้วตัวเขามีตำแหน่งเทียบเคียงกับผู้นำตระกูลถังทีเดียว
ต่อให้เป็นถังจินหัวเองก็ยังไม่กล้าจะมาชี้หน้าสั่งกู่เม่าเช่นกัน
ในเมื่อเย่หยวนคิดอยากเปิดหูเปิดตาด้านวิชาการโอสถสวรรค์แล้ว ถังหยูจึงได้คิดพาเขามาหากู่เม่านี้
ในโถงใหญ่เวลานี้กู่เม่ากำลังสั่งสอนวิชาให้แก่เหล่าศิษย์ทั้งหลาย
บนฝ่ามือของเขานั้นมันมีไฟสีฟ้าครามลุกขึ้นแรงกล้า
พร้อมๆ กันนั้นสมุนไพรสวรรค์ชิ้นหนึ่งมันก็ถูกไฟนั้นเผาหลอมอยู่
“การจะหลอมหญ้ากระดูกมังกรนั้นมันต้องแบ่งเต๋าไฟออกไปให้ทั่ว พร้อมๆ กันนั้นเจ้าเองก็ยังต้องใช้พลังส่วนหนึ่งของกฎและเผาทำลายส่วนที่เป็นของเสียทิ้งไป…”
กู่เม่านั้นกล่าวสอนไปพร้อมหลอมไปด้วยท่าทางสุดแสนสบาย
ส่วนเหล่าศิษย์ทั้งหลายนั้นต่างจ้องมองดูอาจารย์อย่างชื่นชม
การที่จะสามารถหลอมสมุนไพรสวรรค์ได้ด้วยท่าทางสบายๆ เช่นนี้ มันช่างสมชื่อว่าเป็นอาจารย์กู่เม่าจริงๆ!
วินาทีต่อมากู่เม่าก็หุบฝ่ามือลงก่อนจะดับเต๋าไฟจนสิ้น
เวลานี้หญ้ากระดูกมังกรนั้นมันได้กลายเป็นก้อนเรียบร้อยแล้ว
เขานั้นหันมามองที่ถังหยูก่อนจะกล่าวขึ้นมา “นายน้อยถังมาถึงนี่มีธุระใดหรือ?”
ถังหยูก้มหัวลงคารวะกู่เม่าก่อนจะกล่าวขึ้นมา “อาจารย์กู่ สหายของข้าผู้นี้สนใจในโอสถสวรรค์อย่างมากข้าจึงได้คิดพาเขามาเรียนรู้กับท่าน อาจารย์กู่จะช่วยเหลือสั่งสอนเขาสักหน่อยจะได้หรือไม่?”
“ผู้บรรลุสวรรค์?” กู่เม่าขมวดคิ้วแน่นขึ้นมาอย่างไม่พอใจ
“น้องถัง เจ้ากลับพาเอาผู้บรรลุสวรรค์มาเรียนวิชาโอสถหรือ? นี่คิดจะมาเหยียบป้ายสำนักอาจารย์ข้าหรืออย่างไร?”
“หึๆ น้องถัง เจ้าคิดมาเล่นตลกแล้ว? ผู้บรรลุสวรรค์จะหลอมโอสถ?”
“แค่ดูก็รู้แล้วว่ามันเพิ่งจะบรรลุขึ้นมาได้ นี่มันคิดจะมาหลอมโอสถหรือว่าจะมาดูไฟกันเล่า?”
…
วินาทีที่ถังหยูกล่าวขึ้นมานั้นมันก็ทำให้เกิดเสียงหัวเราะลั่นจากกลุ่มศิษย์
ผู้บรรลุสวรรค์นั้นกลับคิดมาหลอมโอสถ มันไม่ต่างอะไรจากการที่หมูอยากปีนต้นไม้ เป็นสิ่งที่จะไม่มีทางเกิดขึ้นได้
ผู้บรรลุสวรรค์มากมายนั้นไม่เชื่อคำบอกเล่าของผู้คนและคิดอยากกลายเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็เป็นได้แค่ตัวตลก
ดูท่าแล้วเจ้าผู้บรรลุสวรรค์คนนี้เองก็คงไม่เชื่อในคำที่ผู้คนกล่าว
ได้เห็นสีหน้าของกู่เม่านั้นถังหยูก็ได้แต่ต้องกัดฟันแน่นก่อนจะรีบแก้ตัวขึ้นมา “อาจารย์กู่ สหายของข้าผู้นี้แค่คิดอยากจะเปิดหูเปิดตาเท่านั้น เขาแค่จะนั่งฟังท่านสั่งสอนว่าตัวเองจะทำได้บ้างหรือไม่ก็เท่านั้น”
กู่เม่าหัวเราะตอบกลับไป “เจ้าขยะนี่มันจะมานั่งฟังให้เสียเวลาไปทำไม? ต่อให้มันจะนั่งฟังจนทะเลเหือดหินสลายมันก็คงไม่มีทางเข้าใจถึงเหตุผลต่างๆ ได้เช่นกัน! นายน้อยถัง ท่านเองก็มาจากตระกูลมีการศึกษา เรื่องแค่นี้ท่านจะไม่เข้าใจหรือ?”
ถังหยูนั้นได้แต่ทำหน้าเหยเกตอบกลับไป เขานั้นรู้ดีว่าผลลัพธ์มันจะเป็นอย่างไร แต่มีหรือที่เขาจะกล้าขัดคำขอของเย่หยวนได้?
เขานั้นได้แต่ต้องลอบมองดูหน้าเย่หยวนแต่พบว่าเย่หยวนนั้นไม่ได้โกรธเคืองใดๆ เขาจึงถอนใจยาวอย่างโล่งอก
แต่กู่เม่านั้นไม่คิดสนใจท่าทางแปลกๆ ของถังหยูใดๆ และหันไปกล่าวกับเย่หยวน “เด็กน้อย หากเจ้ามีเวลามากนักก็เอาไปบ่มเพาะเสียจะไม่ดีกว่าหรือ?! สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนี้มันมิใช่โลกเบื้องล่างของเจ้าอีกแล้ว! ต่อให้เจ้าจะเคยเป็นสุดยอดฝีมือวิชาการโอสถสักแค่ไหนในโลกเบื้องล่างแต่พอขึ้นมาแล้วเจ้ามันก็เป็นได้แค่แมลง! แมลงทั่วๆ ไปที่ไม่มีพิษภัยใดๆ ด้วยซ้ำ!”
กู่เม่านั้นกล่าวออกมาเช่นนี้มันก็ถือเป็นการไว้หน้าถังหยูมากแล้ว
เพราะจะอย่างไรตระกูลถังก็ดูแลเขามานานหลายปี
จะทำอะไรนั้นมันก็ต้องนึกถึงหน้าของกันและกันไว้บ้างเขาจึงไม่ได้เดือดดาลใดๆ ขึ้นมากนัก
หากเป็นผู้บรรลุสวรรค์ทั่วๆ ไปมาทำตัวเช่นนี้แล้ว เขาคงลงมือไล่ไปด้วยตัวเอง
“เจ้ามันป่วย!” แม้จะโดนว่าสักแค่ไหนแต่เย่หยวนก็เงียบปากมาตลอดแต่ในเวลานี้เขากลับกล่าวคำพูดที่ไม่มีใครคาดฝันนี้ขึ้นมา
สีหน้าของคนทั้งหลายเปลี่ยนสีไปทันที
ถังหยูนั้นรู้สึกสั่นสะท้านจนแทบจะสิ้นสติลงตรงนั้น
เขาได้แต่ต้องอ้าปากขึ้นมาแต่มันก็ไม่ทันที่จะห้ามปรามใดๆ แล้ว
‘ให้ตาย! ก็รู้อยู่แล้วว่ามันคงมิใช่เรื่องดี! พี่ข้าคนนี้ เจ้าคิดจะสังหารข้าลงหรืออย่างไรกัน?’ ถังหยูได้แต่ร่ำร้องขึ้นมาในใจ
“เจ้าว่าอย่างไรนะ?” กู่เม่าหรี่ตาลงอย่างดำมืด
“ข้าบอกว่าเจ้ามันป่วย!” เย่หยวนตอบไป
จบสิ้นแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...