จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2578

“ห-หักแล้ว?”

“หัก!”

“หักจริง?”

“หักจริง!”

คนทั้งหลายนั้นต่างมาเพื่อจะดูฝีมือของลู่จ้านหยวนว่าเขานั้นเก่งกาจสักแค่ไหน

แต่ใครจะไปคิดคาดว่ายังเขายังไม่ทันได้ลงมืออะไรลู่จ้านหยวนก็ถูกหักขา

และโยนกลับออกมาแล้ว?

จนถึงตอนนี้คนทั้งหลายก็ยังไม่อาจจะกลับมาตั้งสติได้ดีนัก

หลี่โจวนั้นเองก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นมาเมื่อได้เห็น

เขานั้นคิดว่าลู่จ้านหยวนจะมาล้างแค้นให้แก่เขาได้ ไม่นึกว่าแม้แต่เจ้านายของเขาก็ยังไม่อาจจะทำอะไรได้

แม้ว่าเขานั้นจะขาหักลงแต่ลู่จ้านหยวนก็ยังคงชักกระตุกไม่มีทีท่าจะกลับมาเป็นปกติ

ศิษย์นิกายในที่มีความรู้หน่อยได้กล่าวขึ้นมาอย่างตกตะลึง “โค่นสายลม! นี่มันต้องเป็นโค่นสายลมแน่! ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้าของสวนเมฆน้อยนี้กลับจะมีวิชากลั่นพิษที่เก่งกาจปานนี้! ที่สำคัญไปกว่านั้นการใช้พิษของเขายังเหนือล้ำแยบยล! ศิษย์พี่ลู่นั้นเจอของแข็งเข้าเสียแล้วงานนี้!”

คนอีกผู้หนึ่งจึงกล่าวขึ้นถาม “ศิษย์พี่ฉู โค่นสายลมนี้มันรุนแรงมากหรือ?”

ศิษย์พี่ฉูคนนั้นจึงได้หัวเราะขึ้นตอบ “รุนแรง? ฮ่าๆ! ใต้ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำลงมานั้นมันไม่มีใครจะต้านทานได้ทั้งสิ้น! ต่อให้จะเป็นนักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำเองหากถูกมันเข้าพวกเขาก็จะเสียการควบคุมตัวเองไปไม่น้อย! พิษยาชาระดับนี้ใช้แค่คำว่ารุนแรงมาอธิบายได้หรือ? แต่ว่าอย่างไรเสียมันก็เป็นพิษยาชาที่กลั่นได้ยากยิ่ง แม้แต่นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสองทั่วๆ ไปก็ยังไม่อาจจะหลอมมันได้ มันเป็นสิ่งที่ยากล้ำ! ไม่นึกเลยว่าเจ้าของสวนเมฆน้อยนี้กลับจะมีมัน! เราไม่อาจจะไปลบหลู่คนผู้นี้ได้!”

พูดจบเขาก็หันหน้าเดินกลับไปทันที

ยอดพันปักษาน้อยๆ นั้นมันได้กลายเป็นเป้าสายตาของทุกผู้คนขึ้นทันที!

เรื่องราวนี้มันได้ทำให้ทั้งนิกายในและนิกายนอกต่างแตกตื่นกันสิ้น!

คนผู้หนึ่งที่ยังไม่ทันได้เข้านิกายสวรรค์นั้นกลับทำตัวลึกลับซับซ้อนและสามารถหักขาศิษย์อันดับสามแห่งนิกายในอย่างลู่จ้านหยวนลงได้!

แน่นอนว่าลู่จ้านหยวนนั้นก็ได้กลายเป็นตัวตลกของคนทั้งนิกายใน

ศิษย์จากนิกายในหลายต่อหลายคนนั้นได้เดินทางออกมาดูถึงสวนเมฆน้อยนี้แต่ก็ไม่กล้าจะเข้าไปใกล้

โค่นสายลมนั้นมันเป็นสิ่งที่รุนแรงล้ำ พวกเขายังไม่อยากจะลงไปนอนชักบนพื้น

แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้มันก็ยิ่งทำให้สวนเมฆน้อยกลายเป็นสถานที่สุดลึกลับขึ้นมา

เจ้าของสวนเมฆน้อยนั้นไม่เคยจะออกไปพบหน้าผู้คนใดๆ

หากมันมีเรื่องอะไรแล้วเขาก็จะใช้ศิษย์ออกมาทำแทน

เมื่อเหยาชิงได้ยินเรื่องนี้เข้าเขาก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นมาทันที

ลู่จ้านหยวนนั้นเก่งกาจแค่ไหน เขารู้ดีแก่ใจ

ด้วยกำลังฝีมือของเขานั้น หากต้องสู้กับลู่จ้านหยวนแล้วมันคงไม่รอดสามกระบวนท่าไปได้

แต่ลู่จ้านหยวนนั้นกลับพ่ายลงต่อหน้าเย่หยวน!

คนทั้งหลายนั้นต่างคาดเดากันไปต่างๆ นานา ว่าเจ้าของสวนเมฆน้อยนั้นอาจจะเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสองหรืออาจจะถึงขั้นเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสาม!

แต่มีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่รู้ว่าเย่หยวนมีพลังเพียงแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อย!

หลังจากเรื่องราวในวันนั้นมันก็ไม่มีใครกล้าไปหาเรื่องกับสวนเมฆน้อยอีกและคนที่มาจากเมืองกระทิงเขียวต่างก็ได้รับความเคารพจากคนอื่นๆ ไม่น้อยด้วย

ในเวลากว่าปีมานี้มันมีผู้บรรลุสวรรค์ชุดอื่นๆ ได้เดินทางมายังยอดพันปักษาอีกมากมาย

แน่นอนว่าบนยอดพันปักษาในเวลานี้มันจึงคึกคักเปี่ยมไปด้วยผู้คน

หลังจากครบกำหนดหนึ่งปีแล้วมันก็ถึงเวลาของการทดสอบเข้านิกายสวรรค์

ในวันนี้มันมีคนมากมายต่างมามุงดูอยู่ไม่ห่างจากสวนเมฆน้อย

เพราะคนทั้งหลายนั้นอยากจะรู้ว่าเจ้าของสวนเมฆน้อยคนนี้มันเป็นใครกันแน่

แน่นอนว่าหนึ่งในคนที่มานั้นมันย่อมจะมีลู่จ้านหยวนด้วย!

ลู่จ้านหยวนนั้นต้องนอนติดเตียงอยู่ถึงสามเดือนกว่าที่จะฟื้นกลับมาเป็นปกติได้

ในดินแดนสวรรค์ห้าแสงนี้โอสถสวรรค์มันเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งล้ำค่าอย่างมาก

หากแค่แขนขาหักลงแล้ว พวกเขาทั้งหลายย่อมจะพึ่งการรักษาตามธรรมชาติมากกว่าใช้ยา

เพราะต่อให้ลู่จ้านหยวนจะเป็นศิษย์นิกายในแต่เขาก็ยังไม่ได้ร่ำรวยจนถึงขั้นจะเอาโอสถสวรรค์มากินได้ทุกเมื่อ

“ออกมาแล้ว! ออกมาแล้วจริงๆ!”

จู่ๆ มันก็เกิดเสียงคนร้องขึ้นมาที่ด้านหน้า

ประตูของสวนเมฆน้อยมันได้เปิดออกมาเป็นครั้งแรก!

คนทั้งหลายนั้นต่างกลั้นหายใจคิดอยากจะเห็นว่าคนผู้นี้มันคือใครกันแน่!

จากนั้นมันก็มีร่างของชายหนุ่มในชุดขาวเดินออกมาจากสวนเมฆน้อย

ตามหลังมาด้วยหลินหลาน

“ช-ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อย?”

“เจ้าของสวนเมฆน้อยนั้นกลับเป็นแค่นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อย? ที่สำคัญไปกว่านั้นยังเป็นแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นปลายด้วย?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ