“พวกเจ้าทั้งหลายจงฟัง! ข้าเฟิงซวนยี่ขอใช้อำนาจเจ้านิกายสั่งการแต่งตั้งหลัวหยุนชิงและเย่หยวนทั้งสองคนนั้นขึ้นเป็นผู้อาวุโสแห่งนิกายสวรรค์ยุทธมั่นนับแต่วันนี้ไป! งานพิธีการจะจัดขึ้นต่อไปในวันหลัง!” เจ้านิกายนั้นกล่าวประกาศขึ้นมา
แน่นอนว่ามันย่อมจะทำให้เกิดความแตกตื่นขึ้นมาพร้อมๆ กัน!
คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้าง
“ผู้อาวุโส! จะให้นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขึ้นเป็นผู้อาวุโส!”
“ท่านเจ้านิกายนั้นช่างใจกล้านัก เพียงแค่ว่าตำแหน่งนี้มันจะไม่สูงไปหรือ?”
“นี่มันคงเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นที่ไหนมาก่อนในนิกายสวรรค์ของดินแดนสวรรค์ห้าแสงนี้แน่!”
…
นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหนึ่งนั้นก้าวขึ้นมาเป็นผู้พิทักษ์ปีกเขียวนี้มันก็น่าตกตะลึงพอแล้ว
แต่เย่หยวนนั้นกลับจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้อาวุโส มันเหมือนการขึ้นสวรรค์ด้วยก้าวเท้าเดียว!
เพราะจะอย่างไรเสียเหล่าผู้อาวุโสของนิกายสวรรค์ยุทธมั่นนั้นต่างก็ล้วนเป็นยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกสิ้น!
ระหว่างชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยและชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกนั้นมันต่างกันอยู่ถึงกว่าสองระดับ
เฟิงซวนยี่นั้นตัดสินใจเช่นนี้ออกมาทำให้คนทั้งหลายต้องตกตะลึง
“หยุนชิงขอบคุณท่านเจ้านิกาย!” หลัวหยุนชิงกล่าวขึ้นมา
“ขอบพระคุณท่านเจ้านิกาย! อ่า แล้วก็ขอบคุณผู้พิทักษ์ฉินด้วยที่มอบสูตรโอสถสวรรค์ให้ข้า!” เย่หยวนหันไปยิ้ม
ได้เห็นรอยยิ้มนั้นของเย่หยวนฉินชุนก็กัดฟันแน่นด้วยใบหน้าดำมืดทันที
ที่แท้แล้วเจ้าหมอนี่มันกลับวางแผนที่จะแย่งเอาสูตรโอสถของเขาไปตั้งแต่แรก!
นี่มันเท่ากับว่าเขาต้องเสียสองต่อ
เพียงแค่ว่ามันย่อมจะไม่มีใครคิดฝันว่าเจ้าเด็กคนนี้จะหลอมโอสถสวรรค์ระดับจักรพรรดิได้
เขาหรี่ตาลงกล่าวขึ้นอย่างหนักแน่น “ท่านเจ้านิกาย นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหนึ่งนั้นมันไม่เหมาะจะขึ้นมาครองตำแหน่งผู้อาวุโสหรอก เรื่องนี้มันย่อมจะไม่มีใครยอมรับได้! หากท่านเจ้านิกายคิดจะทำเช่นนั้นจริงๆ ฉินผู้นี้ก็จะขอถอนตัวจากนิกายสวรรค์ยุทธมั่นไป! นิกายสวรรค์ยุทธมั่นนี้มีได้แค่มันหรือข้า!”
คนทั้งหลายหน้าซีดขาวลงเพราะไม่มีใครคาดฝันว่าฉินชุนกลับจะกล้าหักหน้าเจ้านิกายเช่นนี้
แต่จะอย่างไรเสียวิธีการนี้มันก็ช่างชั่วช้าเหลือเกิน!
ไม่ว่าเย่หยวนนั้นจะมากพรสวรรค์แค่ไหนเขาก็ยังเป็นแค่นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับหนึ่งเพียงเท่านั้น
เขานั้นอาจจะหลอมโอสถสวรรค์ระดับจักรพรรดิได้แต่เขาย่อมจะไม่อาจหลอมโอสถสวรรค์ระดับสามได้!
แต่ฉินชุนนั้นเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสามตัวจริงเสียจริง!
เฟิงซวนยี่เองก็ได้แต่ทำหน้าเหยเก
การถูกฉินชุนตบหน้ากลางฝูงชนเช่นนี้มันย่อมจะทำให้เขาไปต่อไม่ถูก
เขาหรี่ตาลงด้วยใบหน้าไม่พอใจ “ผู้พิทักษ์ฉิน เจ้านั้นก็อยู่กับนิกายสวรรค์ยุทธมั่นเรามานานปีน่าจะรู้ดีว่ายอดนักหลอมโอสถสวรรค์เช่นนี้มันมีค่าแค่ไหนต่อนิกาย! ที่สำคัญไปกว่านั้นเย่หยวนยังแตกต่างจากคนทั้งหลายมากล้ำ! เรื่องราวในครั้งนี้มันทำให้เจ้าต้องอับอายไม่น้อยจริง แต่เจ้านิกายผู้นี้จะส่งของไปปลอบขวัญเจ้าให้ทีหลังไม่ดีหรือ?”
เหล่าผู้บรรลุสวรรค์ทั้งหลายต่างอ้าปากค้างขึ้น
เจ้านิกายผู้ยิ่งใหญ่นั้นกลับต้องก้มหัวให้ผู้พิทักษ์คนหนึ่ง?
หรือว่าในนิกายสวรรค์ยุทธมั่นนี้ใครจะมาทำอะไรก็ได้สิ้นหรือ?
แค่ตำแหน่งผู้พิทักษ์ต่อให้นิกายสวรรค์ยุทธมั่นจะขาดแคลนนักหลอมโอสถสวรรค์สักแค่ไหนมันก็คงไม่ถึงขั้นให้เจ้านิกายต้องทำเช่นนี้หรอกใช่หรือไม่?
เวลานี้แม้แต่เย่หยวนก็ยังขมวดคิ้วแน่นด้วยความมึนงง
แต่การพูดปลอบนี้ของเฟิงซวนยี่มันไม่ได้ทำให้ฉินชุนหยุด เขายิ่งได้ใจกล่าวขึ้นมา “ท่านเจ้านิกาย เรื่องนี้มันจะไม่มีการเจรจาใดๆ ทั้งสิ้น! นิกายต้องเลือกว่าจะประหารมันหรือว่าปล่อยให้ฉินชุนนี้ออกจากนิกายไป!”
เฟิงซวนยี่หรี่ตาลงด้วยสีหน้าไม่พอใจทันที
ฉินชุนนั้นไม่ได้แค่ขอให้ลดจากตำแหน่งผู้อาวุโสแต่เป็นการขอให้สังหารเย่หยวนแทน!
นี่มันเกินไป!
ไม่ว่าเย่หยวนจะมีพรสวรรค์หรือไม่แต่หากเขายอมรับคำขอนี้ไปแล้วมันจะยังมีใครมานับถือเจ้านิกายคนนี้อีก?
จะบอกว่าหน้าของฉินชุนนั้นมันใหญ่กว่าหน้าของเจ้านิกายอย่างเขาหรือ?
ที่สำคัญพรสวรรค์ของเย่หยวนนั้นมันยังปรากฏชัดให้เห็นแก่สายตาแล้วด้วย
โอสถสวรรค์ระดับจักรพรรดินั้นไหนจะยังเรื่องการเพิ่มค่าความเข้ากันได้ สองสิ่งนี้มันล้ำค่าเกินไป!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...