ฟุบ!
เวลานี้มีดอกไม้สว่างลอยเจิดจ้าบนท้องฟ้า
สีหน้าของพวกหลินถงทั้งหลายที่ได้เห็นการเคลื่อนไหวนั้น “นายท่าน คนผู้นั้นมันคงรายงานเรื่องขึ้นไปแล้ว เวลานี้ยอดฝีมือแปลงยอดเต๋าทั้งเขาศักดิ์สิทธิ์นั้นคงรู้สิ้นแล้วว่าเรามาที่นี่!”
เย่หยวนตอบกลับไป “หากมันรู้ก็ให้มันรู้ไป ไม่ต้องกังวล!”
สีหน้าของพวกหลินถงทั้งหลายนั้นเปลี่ยนสีไปร้องด่าขึ้นมาในใจสิ้น
เจ้านี่มันจะบ้าเกินไปแล้วหรือไม่?
ยอดฝีมือแปลงยอดเต๋านับร้อยๆ นั้นเขากลับไม่คิดกลัวหรือ?
หลังจากเดินขึ้นไปได้อีกหลายกิโลเมตรในที่สุดเย่หยวนก็หยุดเท้าลง
หลินถงและพวกนั้นต่างยิ้มกว้างขึ้นมาคิดว่าในที่สุดเย่หยวนก็เปลี่ยนใจแล้ว
แต่เย่หยวนนั้นกลับเดินมาวนรอบพวกเขาทั้งหลายไปรอบหนึ่งก่อนจะกล่าวขึ้นมา “พวกเจ้าทั้งหลายอย่าได้ออกจากวงที่ข้าขีดไว้นี้ ไม่เช่นนั้นเจ้าจะได้ตายแน่”
หลินถงและพวกนั้นต่างผงะไปทันทีและในเวลานั้นเองก็ปรากฏเงาร่างของผู้คนนับสิบพุ่งตัวออกมาล้อมเย่หยวนไว้
ชายวัยกลางคนที่มีแผลใหญ่บนหน้านั้นร้องขึ้นมา “ไอ้เด็กคนนี้ เจ้ากล้าลอบเข้ามาบนเขาศักดิ์สิทธิ์คงอยากตายมากแล้ว?”
เย่หยวนจึงตอบกลับไป “ข้าได้ยินมาว่าบนเขาคาบเมฆนี้มียอดฝีมือแปลงยอดเต๋าอยู่จึงคิดจะมาประลองแลกเปลี่ยนวิชา ไม่นึกฝันว่าไอ้คนที่เฝ้าประตูมันกลับไม่พูดภาษาคนข้าเลยสั่งสอนมันไปเสียหน่อย จะเรียกว่าลอบได้อย่างไรกัน?”
สีหน้าของคนทั้งหลายเปลี่ยนสีไปเมื่อได้ยิน “อะไรนะ? เจ้าเอาชนะเจียงเจิ้นอวี้ได้?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “มันแปลกมากหรือที่ข้าชนะ? หรือว่าคนอย่างมันก็เรียกว่าเป็นยอดฝีมือของเขาคาบเมฆได้จริง?”
ใบหน้าของคนทั้งหลายนั้นกระตุกขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้น!
คนอย่างมัน?
ยอดฝีมือแปลงยอดเต๋ากลายเป็นคนอย่างมันไปตั้งแต่เมื่อใดกัน?
“เด็กน้อย เจ้าอย่าได้โอหังมากไปนัก! เจ้าเป็นศิษย์ของนิกายคิดหรือว่าจะมาก่อกวนเขาศักดิ์สิทธิ์ได้? พวกเราโจมตีพร้อมกัน สังหารมัน!” ชายที่มีแผลใหญ่บนหน้านั้นร้องสั่งขึ้นมา
เย่หยวนทำลายค่ายกลและยังเอาชนะเจียงเจิ้นอวี้บุกเข้ามาในเขาศักดิ์สิทธิ์ได้ พวกเขาทั้งหลายย่อมจะไม่คิดประมาท
เพราะฉะนั้นเขาจึงได้สั่งให้เข้าโจมตีพร้อมกัน
ยอดฝีมือแปลงยอดเต๋าราวเจ็ดถึงแปดคนนั้นพุ่งเข้ามาพร้อมๆ กันมันย่อมจะทำให้เกิดคลื่นพลังรุนแรงล้ำ
บ้างก็ชักอาวุธขึ้นมา บ้างก็เรียกนกออกมา บ้างก็เรียกปรากฏการณ์สวรรค์ขึ้นมาโจมตี!
คลื่นพลังแปลงยอดเต๋าของคนทั้งหลายนั้นมันทำให้พวกหลินถงต้องหน้าซีดลงไปทันที
ยอดฝีมือแปลงยอดเต๋าลงมือพร้อมๆ กันถึงเกือบสิบคนเช่นนี้ พวกเขาย่อมจะไม่เคยเห็นมันมาก่อน!
เพียงแค่ว่าเหล่าคนทั้งหลายนั้นแปลงยอดเต๋าได้ด้วยพลังของกฎเดียว มันอ่อนแอเกินกว่าที่จะต้านทานตัวเย่หยวนได้และดูจะอ่อนแอกว่าเจียงเจิ้นอวี้ไปเสียด้วยซ้ำ
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมตอนที่พวกเขาได้ยินว่าเย่หยวนเอาชนะเจียงเจิ้นอวี้ลงได้พวกเขาถึงได้ทำสีหน้าเช่นนั้นออกมา
เย่หยวนนั้นมึนงงไม่น้อยเมื่อได้เห็น ในเมื่อคนทั้งหลายนั้นบรรลุสำเร็จแปลงยอดเต๋าขึ้นมาได้แล้วทำไมพวกเขาถึงพัฒนามันได้ช้าเชื่องปานนี้?
หลังจากที่เขาบรรลุสวรรค์ขึ้นมานั้นตัวเย่หยวนเอาแต่มุ่งหน้าศึกษาวิชาการโอสถอย่างเต็มที่และไม่ได้สนใจเลยว่าเหล่ายอดฝีมือแปลงยอดเต๋านั้นมันจะเก่งกาจแค่ไหน
ที่สำคัญในอาณาจักรตะวันออกนั้นมันย่อมจะไม่มียอดฝีมือระดับนั้นอยู่
ในนิกายสวรรค์ยุทธมั่นนั้นมันอาจจะมียอดฝีมือระดับนั้นอยู่ แต่อย่างน้อยๆ มันก็ต้องเป็นคนที่เหนือล้ำระดับของลู่จ้านหยวนขึ้นไป
หลัวหยุนชิงอาจจะเป็นยอดฝีมือระดับนั้นก็ได้ เพียงแค่ว่าเย่หยวนไม่เคยได้เห็นเขาใช้มันออกมาเท่านั้น
เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงไม่ได้เข้าใจว่าระดับไหนกันแน่ที่เป็นมาตรฐานทั่วไป
เขาคิดว่าเมื่อสามารถบรรลุสำเร็จแปลงยอดเต๋าขึ้นมาได้ คนผู้นั้นมันย่อมจะมีพรสวรรค์ไม่น้อยเป็นแน่
ต่อให้จะไม่เท่าตัวเขามันก็คงสามารถจะทำให้มันสมบูรณ์ได้ภายในเวลาราวสิบปี
แต่สุดท้ายแล้วเจียงเจิ้นอวี้คนนั้นกลับใช้เวลาถึงห้าสิบปีแต่ก็ยังไม่อาจทำให้มันสมบูรณ์ได้
เพราะฉะนั้นในสายตาของเขาแล้วคนทั้งหลายนี้จึงไม่ต่างอะไรจากขยะ
เขานั้นคิดว่าคนทั้งหลายนั้นคงบังเอิญที่บรรลุสำเร็จแปลงยอดเต๋าขึ้นมาได้
ภายใต้สภาพของแดนเนรเทศนี้มันย่อมจะมิใช่คนมากพรสวรรค์ที่บรรลุขึ้นมาได้
การต่อสู้เสี่ยงเป็นตายในทุกวี่วันนั้นมันย่อมทำให้พวกเขาพอจะมีโอกาสบรรลุได้แม้ว่าจะด้อยพรสวรรค์แค่ไหนก็ตามที
คนพวกนี้คงเป็นประเภทหลัง
เพราะต่อให้จะต้องรับมือคนนับสิบนี้พร้อมๆ กันเย่หยวนก็ยังไม่ได้รู้สึกถึงแรงกดดันใดๆ มากมาย
เขานั้นไม่ต้องใช้ดาบที่สองเสียด้วยซ้ำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...