บนเขามีหิมะขาวโพลนพร้อมด้วยเมฆหมอกที่ลอยผ่านหน้าราวกับเป็นแดนสวรรค์อย่างแท้จริง
คนทั้งหลายนั้นเดินทางมาถึงยังเขาคาบเมฆ หรือก็คือพวกเขามาถึงยังตีนเขาศักดิ์สิทธิ์แล้ว
“แดนเนรเทศมียอดคนซ่อนตัวอยู่มากมาย ข้าไม่นึกเลยจริงๆ ว่าจะยังมียอดฝีมือด้านเต๋าค่ายกลอยู่ที่นี่!”
เย่หยวนยิ้มขึ้นเมื่อได้เห็น
เบื้องหน้าของเขามีค่ายกลที่ยิ่งใหญ่เชื่อมต่อกันไปไม่มีสิ้นสุด
แต่เย่หยวนไม่ได้เพียงแค่มีเต๋าค่ายกลที่สมบูรณ์แบบ มันยังพัฒนาขึ้นมาเป็นต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ครอบไปแล้วด้วย แน่นอนว่าเขาย่อมจะสังเกตเห็นถึงค่ายกลที่ถูกวางไว้นี้ได้ไม่ยาก
ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ครอบนั้นมันมิใช่การแปลงของเต๋าดาบเท่านั้นแต่มันคือการแปลงของค่ายกลดาบเอกภพ!
และในค่ายกลดาบเอกภพนั้นมันมีทั้งเต๋าดาบ เต๋าค่ายและกฎแห่งห้วงมิติ สามพลังนี้!
กำลังของมันย่อมจะเหนือล้ำกว่าการแปลงใดๆ
ส่วนกฎแห่งกาลเวลานั้นตั้งแต่ที่เย่หยวนบรรลุสวรรค์ขึ้นมามันก็ไม่อาจจะเปิดเข้ากับพลังกฎของสามสิบสามสวรรค์ได้เลย
มันมิใช่เพราะว่าเขานั้นไร้ความสามารถแต่มันเหมือนราวกับว่ากฎแห่งกาลเวลาที่เขาบ่มเพาะฝึกฝนมาในมหาพิภพถงเทียนนั้นมันจะไม่อาจใช้งานได้แม้แต่น้อย!
ราวกับว่ากระแสเวลาของมหาพิภพถงเทียนและสามสิบสามสวรรค์นั้นมันเป็นสองสิ่งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
เย่หยวนคาดเดาว่ามันอาจจะเป็นเพราะฝีมือของเหยียนยูเจิน
“คนที่คิดบุกรุกเขาศักดิ์สิทธิ์มันต้องตาย! ไสหัวไป!”
ในเวลานั้นเองที่มันเกิดเสียงหนึ่งดังขึ้นมาลั่นฟ้าดินราวกับว่าเป็นเสียงของสายฟ้าที่ฟาดลงมาบนดินทำให้คนทั้งหลายอกสั่นขวัญหาย
มันราวกับว่าเสียงนี้เป็นเสียงของเทพจากสวรรค์!
ด้านหลังเย่หยวนนั้นหลินถงและพวกต่างหน้าซีดไปตามๆ กัน
“นายท่าน ท่านเองก็มาถึงเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วคงไม่ต้องให้พวกเรานำทางอีก ท่านเข้าไปเองจะดีหรือไม่? พวกเราทั้งหลายที่ยังไม่บรรลุแปลงยอดเต๋าก็ถอยกลับไปก่อน…” หลินถงถามขึ้นมาด้วยความกลัว
เพราะเสียงที่เหมือนเทพจากสวรรค์นี้มันทำให้เขารู้สึกได้ถึงแรงกดดันมหาศาล
คนอื่นๆ เองก็รู้สึกไม่ต่างกัน
แต่เย่หยวนนั้นกลับยิ้มตอบไป “มาถึงที่แล้วพวกเจ้าไม่อยากจะขึ้นไปดูหน่อยหรือ?”
หลินถงได้แต่ยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “แน่นอนว่าข้าอยากจะขึ้นไปดู แต่ข้าน้อยนั้นอยากมีชีวิตมากกว่าอยากดู”
“ข้าจะให้เวลาพวกเจ้าไสหัวไปสามอึดใจ! ไม่เช่นนั้นก็จงรับผลที่ตามมาเอง! สาม!” จู่ๆ เสียงนั้นก็เริ่มนับถอยหลังขึ้นมา
สีหน้าของพวกหลินถงนั้นซีดขาวลงทันทีก่อนจะหันหน้ารีบพุ่งตัวไป
“ลูกไม้กระจอก! ไป!”
เย่หยวนหัวเราะเย้ยก่อนจะค่อยๆ แผ่ฝ่ามือออกและปรากฏต้นอ่อนนั้นค่อยๆ งอกขึ้นมา
ใบไม้นั้นของต้นอ่อนพุ่งออกไปกระแทกความว่างเปล่าด้านบน
“รนหาที่ตาย!” เสียงนั้นร่ำร้องขึ้นมาด้วยความตกใจ
แต่วินาทีเดียวกันนั้นมันก็เกิดเสียงปะทะพร้อมเผยให้เห็นร่างของชายวัยกลางคนชุดขาวร่วงตกลงมาจากความว่างเปล่าด้วยสภาพหวิดตาย
สายตาของเขานั้นมองดูเย่หยวนด้วยความตกตะลึงอย่างถึงที่สุด
เจ้าเด็กที่ไม่ได้มีคลื่นพลังรุนแรงคนนี้มันกลับมองถึงจุดอ่อนของค่ายกลเขาได้และโจมตีเขาจนต้องหนีออกมา
น่ากลัว!
ส่วนพวกหลินถงทั้งหลายนั้นต่างต้องหันหน้ากลับมามองอย่างตกตะลึง
ที่แท้เจ้าหมอนี่มันกลับไม่ได้โม้เปล่า!
เขานั้นบ้าจริง!
ใครมันเข้าเขาศักดิ์สิทธิ์ด้วยวิธีนี้กัน?
แต่ว่าพลังฝีมือของเย่หยวนนั้นมันยิ่งทำให้พวกเขาทั้งหลายตกตะลึงยิ่งกว่า
ยอดฝีมือที่ปกปักษ์รักษาค่ายกลบนเขานี้ต้องเก่งกาจแค่ไหน? แล้วเขานั้นยังซ่อนตัวอยู่ในค่ายกลด้วย
แต่เย่หยวนนั้นกลับมองเห็นในพริบตาและโจมตีเข้าไปอย่างแม่นยำด้วยดาบเดียว
หากเป็นนักยุทธแปลงยอดเต๋าคนอื่นๆ นั้นมันคงไม่มีใครทำได้
ชายวัยกลางคนผู้นั้นหันมามองหน้าเย่หยวนด้วยความดุร้าย “เด็กน้อย เจ้าคิดหรือว่าแค่บรรลุสำเร็จแปลงยอดเต๋าได้แล้วเจ้านั้นจะไร้เทียมทานเหนือฟ้าดิน?”
เย่หยวนหยุดคิดไปพักหนึ่งก่อนจะตอบกลับไป “ใช่”
ใบหน้าของชายคนนั้นกระตุกขึ้นอย่างดำมืดเมื่อได้ยิน
เจ้าเด็กคนนี้มันช่างรู้วิธีปั่นหัวคนเสียจริง!
ชายวัยกลางคนผู้นั้นยิ้มตอบกลับมา “เจ้าโง่ที่ไม่ได้รู้จักความยิ่งใหญ่ของฟ้าดิน! เจ้ารู้หรือไม่ว่ายอดฝีมือนับร้อยบนเขาศักดิ์สิทธิ์นั้นเก่งกาจแค่ไหน!”
เวลานี้แม้แต่พวกหลินถงทั้งสามเองก็ยังต้องผงะไปเมื่อได้ยินถึงจำนวนนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...