“กฎเต๋า!” หยางเจี๋ยร้องขึ้นมาพร้อมหรี่ตาลงอย่างตกตะลึง
“นี่มันกฎเต๋าโอสถ! ใครกันที่เอามันลงมาเช่นนี้?” ฮัวซือยูขมวดคิ้วแน่นกล่าวขึ้น
ในเวลานี้คนทั้งมหารัฐเมฆรุ้งต่างเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง!
ท้องฟ้าไม่ผิดแปลกอะไรจากปกติแต่ว่าแรงกดอากาศเหนือมหารัฐเมฆรุ้งนั้นมันกลับหนักหน่วงอย่างมาก
คนทั้งหลายรู้สึกราวกับว่าท้องฟ้ามันกำลังตกลงมา
คนทั้งหลายได้เข้าใจทันทีว่าผู้ชนะของศึกอันยืดเยื้อนี้ได้ถูกกำหนดขึ้นแล้ว!
เพียงแค่ว่าใครกันเล่าที่จะดึงพลังพลังกฎแห่งเต๋าโอสถลงมาได้?
หรือบางมันอาจจะเป็นทั้งสองคนพร้อมกัน
บนหอคอยสูงในเมืองมีชายสองคนกำลังมองดูการประลองนี้อยู่ไม่ไกลนัก
เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังของกฎเต๋าชายวัยกลางคนในชุดขาวก็ได้ยิ้มกล่าวขึ้นมา
“ดูท่าจะตัดสินกันแล้ว ที่เตรียมการไว้ใดๆ มันคงเสียเปล่าแล้ว! เฟยไป่ ดูท่าวันที่นามของเจ้าจะลือลั่นโลกานั้นมันจะยังมาไม่ถึง” ชายชุดขาวกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก
ตัวตนของคนทั้งสองนี้มันยิ่งใหญ่จนไม่มีใครคาดคิด
ชายชุดขาวคนนั้นคือรองผู้นำของพันธมิตรโอสถ หวงฟู่หยุนซือ
และชายอีกคนที่มีใบหน้าเย็นเยือกนั้นมันคือเจ้าโถงยุทธแห่งพันธมิตรโอสถ ยอดนักดาบอันดับหนึ่ง เสี่ยวเฟยไป่!
แน่นอนว่าศึกที่ส่งผลกระทบไปทั้งทวีปพิรุณใสนี้มันจะหลุดรอดสายตาความสนใจของพันธมิตรโอสถ
แท้จริงแล้วทางพันธมิตรโอสถนั้นเองก็ได้เตรียมการรับมือเรื่องนี้ไว้อย่างที่เจ้านิกายสวรรค์ทั้งห้านั้นไม่อาจคาดถึงได้!
เพราะเวลานี้ทั้งรองผู้นำพันธมิตรโอสถและนักดาบอันดับหนึ่งแห่งพันธมิตรโอสถได้มาดูอยู่ไม่ไกล!
เพียงแค่ว่าคนทั้งสองนั้นหลบซ่อนตัวอย่างลึกลับกอปรกับไม่มีใครเห็นพวกเขามาก่อนทำให้ไม่มีใครรับรู้ถึงเรื่องนี้ได้
แต่ฟังจากคำพูดของหวงฟู่หยุนซือแล้วทางพันธมิตรโอสถเองก็ดูท่าจะเตรียมการรับมือผลที่ตามมาของศึกประลองโอสถในครั้งนี้อย่างมากล้น!
เสี่ยวเฟยไป่ยืนมองดูภาพเบื้องล่างด้วยใบหน้าเย็นเยือก “สำหรับเสี่ยวผู้นี้แล้วการมีชื่อเสียงหรือไม่นั้นมันไม่สำคัญ! สิ่งที่ข้าสนใจเพียงอย่างเดียวนั้นคือที่สุดของเต๋าดาบ! ข้าได้ยินมาว่าเจ้านิกายสวรรค์ทั้งห้าของดินแดนสวรรค์ห้าแสงนั้นมีกำลังฝีมือไม่น้อย เสี่ยวผู้นี้แค่คิดอยากจะลองสู้ดูเท่านั้น! แต่น่าเสียดายที่ครั้งนี้โอกาสมันคงมาไม่ถึง”
หากคนอื่นได้ยินคำพูดนี้เข้าแล้วพวกเขาคงต้องล้มพับไปแน่
เพราะคำพูดของเขานั้นมันหมายถึงว่าเขาคิดที่จะท้าทายเจ้านิกายสวรรค์ทั้งห้าพร้อมๆ กัน!
คำพูดนี้มันช่างเป็นความโอหังที่เหนือล้ำ!
เจ้านิกายสวรรค์ทั้งห้านั้นเป็นตัวตนระดับใด?
แม้ว่าจะเป็นนิกายสวรรค์เหมือนกันแต่เจ้านิกายสวรรค์หยกแท้ในตอนนี้มันคงไม่มีทางเทียบเคียงพลังฝีมือของเจ้ายอดนิกายสวรรค์ทั้งห้าได้!
เพราะพวกเขานั้นคือผู้บรรลุสวรรค์!
หวงฟู่หยุนซือยิ้มตอบกลับมา “ใจเย็นๆ น่า มันยังมีโอกาสอีกมาก! เพียงแค่ว่าน่าเสียดายเรื่องของเจ้าเย่หยวนคนนี้! หากมันเข้าร่วมพันธมิตรโอสถของเราแล้วมันคงจะเหมือนได้ปีกมาติดหลังเสือ!”
แม้แต่คนอย่างเสี่ยวเฟยไป่เองก็ยังต้องพยักหน้ารับออกมา “นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสองที่เป็นผู้บรรลุสวรรค์นั้นกลับทำให้ชางหยงหนิงจนมุมได้ถึงขนาดนี้… เก่งจริง!”
เขานั้นไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ ออกมาแต่คำพูดของเขานั้นได้ยอมรับความเก่งกาจของเย่หยวนอย่างเต็มที่
ชางหยงหนิงนั้นเก่งกาจแค่ไหนเสี่ยวเฟยไป่และหวงฟู่หยุนซือย่อมจะรู้ดีแก่ใจ
ที่สำคัญไปกว่านั้นตัวชางหยงหนิงนั้นยังเป็นคนฉลาดและไม่เกียจคร้าน
ไม่เช่นนั้นแล้วต่อให้เขาจะก้าวขึ้นมาเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ได้เขาก็คงไม่มีทางจะยืนหยัดมาได้จนถึงตอนนี้
การถูกเย่หยวนกดดันอย่างหนักหน่วงแต่ก็ทนสู้และหลอมโอสถได้อย่างสมบูรณ์แบบมาตลอดสามเดือนนี้ มันมิใช่ทุกคนที่จะทำได้!
แต่มันก็เพราะเช่นนั้นเองที่ทำให้พวกเขายิ่งเข้าใจถึงความเก่งกาจของเย่หยวน!
อย่างที่ชางหยงหนิงกล่าวออกมานั้น เย่หยวนเป็นเพียงแค่ผู้บรรลุสวรรค์และยังเป็นแค่นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสอง!
หวงฟู่หยุนซือยิ้มกล่าวขึ้น “น่าเสียดายที่ว่าจะอย่างไรมันก็ต้องตายลง!”
คนจากพันธมิตรโอสถนั้นไม่ได้มาแค่พวกเขาสองคนเท่านั้น
เวลานี้มันมีมือสังหารนับสิบปะปนอยู่ในฝูงชนที่มุงดูเรื่องราวหน้าห้างเมฆเฉื่อยนี้!
หากเย่หยวนชนะหวงฟู่หยุนซือย่อมจะออกคำสั่งลอบสังหารทันที!
เพราะว่าเรื่องราวในครั้งนี้มันยิ่งใหญ่จนเกินรับ
พันธมิตรโอสถจะไม่มีทางแบกรับมันไว้ได้
หากพวกเขาปล่อยให้ศาลาโอสถผงาดขึ้นมาง่ายๆ มันคงกลายเป็นความเสียหายใหญ่หลวงของพันธมิตรโอสถไป
แน่นอนว่าพันธมิตรโอสถย่อมจะยอมทำทุกวิถีทางเพื่อกดหัวศาลาโอสถนี้ลง!
…
กฎเต๋านั้นมันเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า คนทั้งหลายย่อมจะไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นคนเรียกมันลงมา
แต่ความคิดของคนส่วนใหญ่นั้นมันย่อมจะเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์แล้วที่ดึงพลังมันลงมา!
แม้ว่าการประลองโอสถนี้มันจะเหนือล้ำสักแค่ไหนแต่การจะบรรลุขึ้นไปถึงระดับแท้ด้วยการประลองเพียงแค่สามเดือนนี้มันคงจะยากเกินทำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...