ชางหยงหนิงนั้นเป็นศัตรูที่ควรค่าแก่จะยกย่องจริงๆ
นี่นับเป็นศึกที่ยากเย็นที่สุดของชางหยงหนิง แล้วมีหรือที่มันจะง่ายดายสำหรับเย่หยวน?
แม้ว่าเขาคนนี้จะมีท่าทีหยิ่งยโสแต่จะอย่างไรเขาก็เป็นยอดอัจฉริยะแห่งการโอสถอย่างไม่ต้องสงสัย!
ในวิชาการโอสถนั้น เย่หยวนไม่เคยคิดว่าตัวเองต่ำต้อยกว่าใคร เขารู้ดีว่าตัวเองนั้นคือยอดอัจฉริยะในด้านนี้
แต่ชางหยงหนิงนั้นเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเขาเลยแม้แต่น้อย
เจ้าหมอนี่มันเก่งกาจอย่างแท้จริง!
และยิ่งเป็นเช่นนั้นมันก็ยิ่งควรค่าแก่การยกย่อง
ศึกครั้งนี้มันให้ประโยชน์แก่เย่หยวนอย่างมากล้ำ!
สามเดือนที่ผ่านมานี้มันเหมือนได้ปลุกทุกความสามารถในร่างกายของเขาให้ตื่นขึ้นมา
หากเขายังไม่อาจจะบรรลุขึ้นไปได้อีกตัวเย่หยวนก็คงไม่ควรค่าจะเป็นยอดคนแล้ว
แท้จริงแล้วสิ่งที่ยากนั้นมันมิใช่การหลอมให้ได้ระดับแท้
สิ่งที่ยากเย็นอย่างแท้จริงนั้นมันคือการหลอมระดับแท้ขึ้นมาภายใต้พลังกดดันจากศัตรู!
เพราะมันต้องใช้พลังที่เหนือล้ำกว่าศัตรูอย่างสิ้นเชิงจึงจะเอาชนะอีกฝ่ายได้!
หลังจากศึกนี้ดำเนินมาได้ถึงสามเดือนการพัฒนาของเย่หยวนและชางหยงหนิงก็เหนือล้ำอย่างไม่อาจคาดคิด
เพียงแค่ว่าคนทั้งสองนั้นต่างฝ่ายต่างกดหัวกันไว้ทำให้ผลลัพธ์มันออกมาได้แค่ระดับเก้าขั้นสุดสมบูรณ์เท่านั้น
หากชางหยงหนิงนั้นหลอมโอสถด้วยตัวคนเดียวแล้ว เขาย่อมจะสามารถหลอมระดับแท้ได้ง่ายขึ้นมาก
แท้จริงแล้วตั้งแต่รอบที่ยี่สิบหกนั้นเย่หยวนก็เข้าใจถึงระดับแท้ไปแล้ว
แต่จนถึงตอนนี้ในรอบที่สี่สิบเจ็ดที่เย่หยวนเพิ่งจะสามารถสลัดการกดหัวของชางหยงหนิงและดึงพลังแห่งกฎเต๋าลงมาใช้งานได้จริงๆ!
แน่นอนว่าเรื่องพวกนี้มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายใน มีแต่เย่หยวนเท่านั้นที่จะเข้าใจมัน
แม้แต่ตัวชางหยงหนิงนั้นเองก็ยังไม่อาจจะสัมผัสถึงเรื่องนี้ได้
เพราะฉะนั้นเขาจึงเชื่อว่ากฎเต๋านี้ตัวเขาเป็นคนเรียกลงมา
วิธีการเช่นนี้มันเหมือนการต้มไก่ในน้ำอุ่น
กว่าที่ไก่จะรู้ตัวว่าตัวเองถูกต้ม มันก็ไม่อาจจะหลบหนีขัดขืนใดๆ ได้แล้ว
ความตกตะลึงและไม่อยากเชื่อปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชางหยงหนิง
“เจ้า… เจ้า… เป็นไปไม่ได้! นี่มันไม่มีทางเป็นไปได้!” เขานั้นไม่เคยจะพ่ายแพ้ในการโอสถมาก่อน
หลังจากผ่านการต่อสู้อันต่อเนื่องยาวนานมาถึงสามเดือนนั้น สุดท้ายเขากลับถูกเย่หยวนพัฒนานำล้ำไปในที่สุด!
เรื่องราวเช่นนี้มันย่อมจะอยู่เหนือล้ำความเข้าใจของเขาไป!
เย่หยวนนั้นยิ้มตอบกลับไปพร้อมปล่อยปราณเทวะลงไปในหม้อหลอม
ฟู่!
วินาทีที่หม้อถูกเปิดออกมานั้นมันก็มีกระแสยอดเต๋าพุ่งทะยานออกมา
พร้อมๆ กันนั้นมันก็มีเม็ดโอสถสีใสสนิทลอยมาวางบนมือเย่หยวน
มันมิใช่โอสถที่ส่องแสงสว่างจ้าเหมือนโอสถทองระดับเก้าและไม่มีกลิ่นหอมหวนใดๆ ของโอสถด้วยซ้ำ
การทำเช่นนี้มันย่อมจะตกอยู่ในแนวคิดสูงสุดคืนสู่สามัญ!
นี่มันเป็นเหมือนดั่งลูกแก้วธรรมดาๆ ทั่วไปแต่คนที่ได้เห็นกลับไม่อาจละสายตาจากมันไปได้
บนหอคอยนั้นหวงฟู่หยุนซือหรี่ตาลงอย่างหนักใจ “ผสานยอดเต๋ากลับสู่ความเป็นหนึ่ง สูงสุดคืนสู่สามัญ! มันเป็นระดับแท้จริงๆ! หากเราไม่จัดการเจ้าเด็กคนนี้เสียมันจะต้องกลายเป็นภัยร้ายแก่พันธมิตรโอสถเราแน่!”
เสี่ยวเฟยไป่พยักหน้ารับก่อนจะพุ่งตัวออกไปในทันที
โอสถสวรรค์ปรับฐานระดับสองระดับแท้นั้นมันยังคงวางอยู่บนมือของเย่หยวนอย่างนั้น
หลังจากชางหยงหนิงเห็นมัน สีหน้าของเขาก็ซีดขาวลงด้วยความหวาดกลัว!
ระดับแท้!
มันเป็นระดับแท้จริงๆ!
เขาพ่าย!
“มันเป็นครั้งแรกที่ข้าหลอมมันได้ ในเมื่อเจ้าเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งพันธมิตรโอสถเจ้าก็น่าจะบอกข้าได้ใช่หรือไม่ว่ามันเป็นระดับแท้จริงๆ หรือไม่?” เย่หยวนยิ้มขึ้นถาม
เขานั้นไม่คิดกลัวว่าชางหยงหนิงจะโกหกใดๆ เพราะต่อให้ชางหยงหนิงจะโกหกแต่เต๋าสวรรค์ย่อมไม่โกหก
คนทั้งสองนั้นทำพันธะคำสาปวิญญาณดั่งเดิมกันไว้แล้ว ไม่ว่าชางหยงหนิงจะยอมรับหรือไม่เต๋าสวรรค์มันก็จะเป็นผู้ตัดสินในที่สุด
ใบหน้าของชางหยงหนิงนั้นซีดขาวลงจนไร้สีเลือดใดๆ ก่อนที่ปากจะเปลี่ยนเป็นสีม่วงไป
จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นฟ้าก่อนจะหงายหลังล้มลงไปตรงนั้นอย่างเจ็บปวด
คำสาปวิญญาณดั่งเดิมมันปะทุขึ้นแล้ว!
การลงทัณฑ์ของเต๋าสวรรค์นั้นมันสุดแสนจะเจ็บปวด
แต่ภาพนี้มันย่อมจะกลายเป็นสิ่งที่ยืนยันว่าโอสถที่อยู่ในมือของเย่หยวนนั้นมันคือโอสถสวรรค์ระดับแท้จริง!
โอสถสวรรค์ระดับแท้นั้นมันกลับปรากฏออกมาให้คนทั้งโลกหล้าได้เห็นเป็นครั้งแรก!
“นี่หรือมันคือโอสถสวรรค์ระดับแท้? ช่างผุดผ่องนัก!”
“สุดยอดเกินไปแล้ว! จะบ้าคลั่งเกินไปแล้ว! ยุคสมัยแห่งผู้บรรลุสวรรค์เรามันมาถึงแล้ว!”
“อาจารย์เย่ช่างเก่งกาจนัก! อาจารย์เย่ช่างเก่งกาจล้ำ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...