“เจ้านิกายเฟิง ท่านจะว่าเช่นนั้นไม่ได้! ตราบเท่าที่ท่านยอมส่งมอบตัวเย่หยวนออกมาและยอมทำพันธะวิญญาณดั่งเดิมนิกายสวรรค์ยุทธมั่นของท่านย่อมจะยังเป็นนิกายสวรรค์ยุทธมั่นอยู่ได้แน่นอน ข้าจะยกพวกท่านให้เป็นคนดูแลนิกายอื่นๆ ของเหล่าผู้บรรลุสวรรค์เสียด้วยซ้ำ”
หวงฟู่หยุนซือนั้นยิ้มกล่าวขึ้นมาแต่เหล่าคนทั้งนิกายสวรรค์ยุทธมั่นตั้งแต่หัวจรดหางกลับสั่นสะท้านขนลุกชัน การทำพันธะวิญญาณดั่งเดิมนั้นมันก็เท่ากับว่าพวกเขาจะต้องกลายเป็นทาสของพันธมิตรโอสถไป!
สำหรับเหล่าผู้บรรลุสวรรค์แล้วการอยู่ในสภาพเช่นนั้นมันย่อมจะโหดร้ายยิ่งกว่าความตาย! เป็นตอนนี้เองที่พวกเขาทั้งหลายได้เข้าใจว่าสิ่งที่เฟิงซวนยี่กล่าวนั้นมันไม่มีผิดพลาด พันธมิตรโอสถนั้นไม่ได้มีเป้าหมายเพียงแค่เย่หยวนแล้ว
เฟิงซวนยี่หัวเราะตอบกลับไป “เจ้าคงคิดว่านิกายสวรรค์ยุทธมั่นเรามันรังแกได้ง่ายดายมากนัก? วันนี้ต่อให้เราจะต้องสู้จนไม่เหลือใครนิกายเราก็จะไม่ขอยอมก้มหัวให้แก่พวกเจ้า!”
พูดไปเขาก็ชักเอาหอกสีดำทมิฬที่มีสายฟ้าไหลวนรอบๆ ออกมาชี้หน้าอีกฝ่าย
วินาทีที่หอกยาวนี้มันปรากฏออกมาสีหน้าของคนทั้งหลายก็เปลี่ยนสีไป
หวงฟู่หยุนซือนั้นไม่ได้ตื่นตกใจใดๆ แต่กลับยิ้มตอบมา “สมบัติวิญญาณสวรรค์ หอกศึกสวรรค์สังหาร สมบัติประจำตัวของผู้ก่อตั้งนิกายสวรรค์ยุทธมั่นชูเทียนเกอ! ก่อนนั้นชูเทียนเกอติดตามโฉปู้ฉุนออกไปทำศึกและใช้หอกศึกสวรรค์สังหารนี้ไล่ฆ่าล้างจนยอดฝีมือจากทั้งสี่ดินแดนสวรรค์ขนลุกขนพอง! วันนี้มันจะได้เห็นแสงตะวันอีกครั้งแล้วหรือ?”
ในทวีปพิรุณใสนั้นมันมีการแบ่งขั้นของสมบัติออกเป็นสามระดับ ระดับวิญญาณสามัญ ระดับวิญญาณปฐพีและระดับวิญญาณสวรรค์!
สมบัติวิญญาณสวรรค์นั้นเป็นสิ่งที่ยากจะเห็นได้ในทั้งทวีปพิรุณใสนี้
เมื่อเย่หยวนได้เห็นหอกศึกสวรรค์สังหารนั้นตัวเขาเองก็ต้องผงะไปเช่นกัน
เพราะว่าคลื่นพลังที่เขาสัมผัสได้จากหอกศึกสวรรค์สังหารนี้มันกลับรุนแรงไม่แพ้เขาแห่งถงเทียนเลย
เย่หยวนนั้นสามารถกระโดดข้ามอาณาจักรต่อสู้ได้ด้วยพลังของเขาแห่งถงเทียน แค่นั้นมันก็เป็นเครื่องยืนยันถึงพลังของสมบัติวิญญาณสวรรค์แล้ว
เฟิงซวนยี่นั้นหัวเราะเย้ยขึ้น “เจ้ามันรู้ดีไปหมดเสียจริง!”
หวงฟู่หยุนซือยิ้มตอบกลับมา “น่าเสียดายแค่ว่าชูเทียนเกอนั้นเป็นถึงยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียน หอกนี้เมื่ออยู่ในมือเขามันสามารถเปล่งพลังออกมาได้เกินร้อยแต่ตัวท่านนั้นคงใช้พลังของมันได้ไม่ถึงเจ็ดในสิบ!”
เหนือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขึ้นไปนั้นคือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียน!
เพียงแค่ว่าในตอนนี้เหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนนั้นมันหายไปจากทวีปพิรุณใสจนหมดสิ้น
ก้าวนี้มันยากเกินกว่าที่คนธรรมดาจะผ่านได้!
“มันก็พอจะจัดการเจ้าได้!”
เฟิงซวนยี่นั้นร้องลั่นขึ้นมาก่อนจะพุ่งร่างของตนออกไปด้วยพลังแห่งสายฟ้าพุ่งเข้าใส่หวงฟู่หยุนซือ
หากคิดจะจัดการกองโจรแล้วมันก็ต้องจับหัวหน้าให้ได้ก่อน!
นี่คือทางออกเดียวที่เฟิงซวนยี่มองเห็น!
แต่ว่าในเวลานั้นเองตัวเสี่ยวเฟยไป่นั้นก็ขยับออกมาเช่นกัน
เขานั้นเปลี่ยนทั้งร่างกายให้กลายเป็นดาบพุ่งเข้ามารับหอกของเฟิงซวนยี่ไว้อย่างรุนแรงดุดัน
ปัง! ปัง! ปัง!
คนทั้งสองนั้นปะทะกันไปนับสิบๆ กระบวนท่าในพริบตา
เสมอ!
แต่สิ่งที่คนทั้งหลายนั้นตกตะลึงมากกว่านั้นก็คือดาบในมือของเสี่ยวเฟยไป่นั้นมันกลับมีคลื่นพลังที่รุนแรงไม่แพ้หอกศึกสวรรค์สังหารเลยแม้แต่น้อย
ผู้อาวุโสคนหนึ่งจึงร้องขึ้นมา “สมบัติวิญญาณสวรรค์! ดาบนั้นเองมันก็เป็นสมบัติวิญญาณสวรรค์เช่นกัน!”
กำลังของพันธมิตรโอสถนี้มันแข็งแกร่งจนทำให้คนทั้งหลายสิ้นหวังขึ้นมา
พวกเขานั้นถึงขั้นมีสมบัติวิญญาณสวรรค์ติดตัวมาด้วย
“ศัตรูของเจ้านั้นมิใช่ข้า!”
หวงฟู่หยุนซือกล่าวขึ้นมาก่อนจะหันไปหาเย่หยวน “เย่หยวน เจ้าสังหารบุตรศักดิ์สิทธิ์ลง เจ้าจะยอมเข้าพันธมิตรโอสถข้ามาเพื่อเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ทดแทนตัวเขาหรือไม่?”
“หะ?! พันธมิตรโอสถนั้นกลับคิดจะเอาตัวเย่หยวนไปเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์หรือ!”
“ที่แท้แล้วเขาไม่ได้มาเพื่อทวงแค้นใดๆ แต่กลับมาเพราะชื่นชมในฝีมือของเย่หยวน!”
“ทำให้พันธมิตรโอสถสนใจได้เช่นนี้มันย่อมหมายความว่าวิชาการโอสถของเย่หยวนนั้นมันไม่ได้ด้อยกว่าคนของพันธมิตรโอสถเลยเป็นแน่!”
…
คำของหวงฟู่หยุนซือนั้นมันทำให้คนทั้งนิกายสวรรค์ยุทธมั่นต้องอ้าปากค้างขึ้นมาตามๆ กัน
พวกเขานั้นคิดว่าที่พันธมิตรโอสถมาในวันนี้มันเพื่อจะทวงถามความแค้น
ใครจะไปคิดฝันว่าคำแรกที่หวงฟู่หยุนซือหันมาพูดกับเย่หยวนมันจะกลายเป็นคำชักชวน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...