“ทางรอด? คนอย่างเจ้านี้มันจะทำอะไรได้?” ซูเป่ยหยุนนั้นกล่าวขึ้นอย่างไม่คิดเป็นจริงเป็นจัง
แต่ก่อนที่นางจะทันได้พูดจบประโยคเย่หยวนก็ประโดดลงน้ำไปก่อนแล้ว
เวลานี้ทัพของเหล่าชาวเงือกนั้นมันอยู่ห่างจากเรือไปแค่ไม่กี่กิโลเมตร
เมื่อเย่หยวนกระโดดลงไปเช่นนี้แล้ว เขาก็ย่อมจะต้องเผชิญกับเหล่าชาวเงือกแทบจะในทันที
ภาพนี้มันทำให้หวงห่าวหยาน ซูเป่ยหยุนและพวกต่างต้องผงะไปตามๆ กัน
“จะ…เจ้าหมอนี่มันคิดจะทำอะไรกันแน่?” ซูเป่ยหยุนนั้นกล่าวขึ้นอย่างมึนงง
“ใครจะไปสนใจเล่า! หากมันคิดอยากรนหาที่ตายเองแล้วมันก็คงมาโทษเราไม่ได้! รีบไปกันต่อเถอะ!” หวงห่าวหยานกล่าวขึ้นมา
คนที่ผงะนั้นมันไม่ได้มีแค่พวกเขาทั้งหลายแต่มันยังรวมไปถึงเหล่าทัพชาวเงือกด้วย
พวกเขานั้นเองก็ไม่นึกฝันว่าอีกฝ่ายนั้นกลับจะกระโดดลงน้ำมาเช่นนี้!
นี่มันคือการรนหาที่ตายดีๆ นี่เองมิใช่หรือ?
หรือว่าเจ้าเด็กคนนี้มันคิดจะฆ่าตัวตายจริง?
เย่หยวนหันไปมองผู้นำทัพชาวเงือกก่อนจะกล่าวขึ้นมา “ถือว่าไว้หน้าข้า ปล่อยพวกเขาทั้งหลายไปเสีย ว่าอย่างไร?”
ผู้นำทัพชาวเงือกนั้นตวาดลั่นกลับมา “เจ้าเด็กนี่มันมาจากที่ใดกันถึงกล้ามาพูดจาไร้สาระต่อหน้าแม่ทัพผู้นี้! จัดการมันเสีย ฉีกร่างมันออกเป็นชิ้นๆ ”
เมื่อได้รับคำสั่งเช่นนั้นแล้วเหล่าทหารเงือกทั้งหลายต่างก็ถือหอกถือสามง่ามพุ่งตัวเข้ามาปิดล้อมเย่หยวนไว้ทันที
พลังของยอดฝีมือนับพันๆ นั้นมันทำให้สีหน้าของคนทั้งหลายบนเรือนั้นซีดขาวลง
พวกเขานั้นรู้ดีว่าในทะเลนั้นมันมักจะมีการปะทะกันของเผ่าต่างๆ มากมายและเป็นการต่อสู้ที่หนักหน่วงกว่าบนแผ่นดินมากนัก
นั่นทำให้เผ่าระดับต่ำทั้งหลายต้องรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนอย่างหนักแน่น
กองทัพมนุษย์สามพันคนนั้นมันไม่อาจจะเทียบกับกองทัพเงือกสามพันตนได้เลย
ไหนจะยังเรือที่เย่หยวนกำลังเข้าไปเผชิญหน้ากับพวกมันทั้งหลายเพียงลำพังอีก
บนเรือนั้นสหายอีกคนหนึ่งก็กล่าวขึ้นมา “ข้าเข้าใจแล้ว! วิธีที่มันพูดถึงนั้นคือการท้าทายทัพชาวเงือกทั้งหลายด้วยตัวคนเดียว! เจ้าหมอนี่มันบ้าไปแล้วหรือ?”
ซูเป่ยหยุนนั้นได้แต่ต้องผงะไปเมื่อได้ยินเช่นนั้น
เพียงแค่ว่าในสายตาของพวกเขาทั้งหลาย การทำเช่นนี้มันย่อมไม่ต่างอะไรจากการรนหาที่ตาย
ซูเป่ยหยุนนั้นได้แต่ต้องกลอกตากล่าวขึ้น “เจ้าโง่ที่ไม่รู้จักประเมินตัวเอง! แค่ได้เห็นมันมาว่ายน้ำเล่นในทะเลหนามใต้นี้เราก็น่าจะรู้แล้วว่าสมองมันไม่ดี!”
กองทัพเงือกนั้นเข้าใกล้เย่หยวนมาเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็ปะทะเข้ากับเย่หยวน!
ตูม!
คลื่นน้ำสั่นสะท้านไปอย่างรุนแรง!
เงาร่างผอมบางของเย่หยวนนั้นมันกลับถูกกองทัพและคลื่นน้ำกลืนกินลงไปสิ้น
หวงห่าวหยานนั้นส่ายหัวกล่าวขึ้นมา “คนไม่รู้มันไม่กลัว! น่าเสียดายแค่ว่ามันนั้นกลับไม่อาจจะถ่วงเวลาได้แม้แต่วินาที!”
การรนหาที่ตายของเย่หยวนนี้หวงห่าวหยานและพวกย่อมจะไม่คิดสนใจมากมาย
แต่สิ่งที่น่าเสียดายก็คือการรนหาที่ตายของเย่หยวนนี้มันกลับไม่อาจจะช่วยซื้อเวลาให้พวกเขาได้แม้แต่น้อย
เวลานี้กองทัพเงือกส่วนมากยังคงตามหลังพวกเขามาไม่หยุด
แต่ไม่นานพวกเขาก็ต้องเห็นถึงความผิดปกติขึ้นมา
เพราะว่าคลื่นใหญ่ที่ซัดออกมาจากจุดปะทะนั้นมันกลับดูแปลกประหลาดอย่างไม่อาจคาดคิด
ความเร็วการเคลื่อนที่ของกองทัพเงือกเองมันก็ช้าลงไปอย่างมากเช่นกัน
วินาทีจากนั้นมันก็ปรากฏเงาร่างหนึ่งพุ่งขึ้นมาจากน้ำพร้อมศพของเงือกที่ระเบิดขึ้นกลางอากาศ
ดวงตาของทุกผู้คนที่ได้เห็นนั้นต้องเบิกกว้างขึ้นมา!
แต่ว่าเขานั้นยังไม่หยุดลงพุ่งตัวกลับลงไปหากองทัพเงือกอีกครั้งหนึ่ง
“นะ…นี่ตาข้าฝาดไปหรือ? เมื่อกี้…มันคือเจ้าเด็กคนนั้น?” หวงห่าวหยานกล่าวขึ้นมาแทบไม่เป็นภาษาคน
ซูเป่ยหยุนนั้นเองก็ผงะไปเช่นกัน “เขา…เขากลับยังไม่ตาย? นั่นมันกองทัพเงือกเชียวนะ!”
ภายใต้การรุมโจมตีของเงือกนับพันๆ นั้นนอกจากว่าเย่หยวนจะรอดออกมาได้แล้วเขายังสามารถต่อต้านสังหารกลับไปได้!
มีหรือที่พวกเขาจะไม่ตกตะลึง?
ที่สำคัญไปกว่านั้นเจ้าหมอนี่มันยังมีพลังแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่ขั้นกลาง!
ไม่นานจากนั้นความเปลี่ยนแปลงมันก็เริ่มปรากฏขึ้นชัดในทัพเงือก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...