“หึๆ รองเจ้าเมืองเถี่ยซินคงกล่าวล้อเล่นแล้ว! นั่นมันคือโอสถสวรรค์ระดับแท้ ข้าได้ยินมาว่าเจี่ยงหลี่นั้นกินโอสถสวรรค์ระดับสองลงไปแต่สุดท้ายกลับสามารถบรรลุขึ้นมาชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกได้! ข่าวนี้มันย่อมจะไม่มีทางปลอมไปได้แล้วใช่หรือไม่?” หมินหนานชานกล่าวขึ้นมา
เถี่ยซินนั้นพยักหน้ารับกลับไป “ก็จริง! เพียงแค่ว่าพวกเจ้านั้นจะได้ส่วนแบ่งอะไรจากโอสถสวรรค์ระดับแท้นี้ด้วยหรือไม่?”
เมื่อคำพูดเหล่านั้นถูกกล่าวขึ้นมาสีหน้าของผู้นำตระกูลทั้งสามก็เปลี่ยนสีไปทันที
ตระกูลทั้งสามนี้จะเรียกว่าเป็นตระกูลเสาหลักของเมืองสวรรค์ใต้ในเวลานี้ก็คงไม่ผิดนัก
จะอย่างไรเสียพวกเขาทั้งสามนั้นเองก็เป็นถึงนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสี่เช่นกัน ต่างแค่ว่าพวกเขานั้นยังมีฝีมือไม่ถึงระดับของเจ้าหอทั้งสองคน
แต่ตัวจ้าวซุนนั้นเองก็ต้องพึ่งพาสามตระกูลใหญ่ไม่น้อย
และสิ่งที่เถี่ยซินกล่าวขึ้นมานั้นมันย่อมจะเป็นสิ่งที่พวกเขากังวลมากที่สุด
“หลังจากที่เจ้าหอใหญ่และเจ้าหอรองกลับมาถึงนั้นพวกเขาก็เอาแต่เก็บตัวกันมาตลอด ด้วยกำลังฝีมือของพวกเขานั้นการบรรลุขึ้นสู่ระดับแท้มันย่อมจะมิใช่เรื่องยากเย็นแล้ว เมื่อเวลานั้นมันมาถึงด้วยพลังของโอสถสวรรค์ระดับแท้ตำแหน่งของเจ้าหอทั้งสองย่อมจะต้องพัฒนาสูงล้ำ ถึงเวลานั้นพวกเขาจะยังมาสนใจตระกูลใหญ่ทั้งสามหรือ?” เถี่ยซินนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยเสียงเยาะเย้ย
ระดับแท้นั้นมันเป็นระดับที่สูงกว่าพวกเขาจะรับมือไหว!
การที่เจียงหลี่บรรลุขึ้นมาได้นั้นทำให้ทุกผู้คนต่างตกตะลึง
ปัญหาคือสิ่งที่ทำให้เขาบรรลุขึ้นมากลับเป็นแค่โอสถสวรรค์ระดับสอง
มันเป็นอะไรที่เหลือจะเชื่อได้ง่ายๆ!
คำพูดของเถี่ยซินนั้นทำให้เหล่าผู้นำตระกูลใหญ่ทั้งสามต้องคิดหนัก
มันมิใช่ว่าพวกเขานั้นมองไม่เห็นถึงจุดนี้ เพียงแค่ว่าพวกเขาไม่ค่อยจะอยากเชื่อสักเท่าไหร่
เพราะอย่างไรเสียพวกเขาทั้งสามก็ยังมีอำนาจอยู่มากในหอโสถสวรรค์ใต้
แต่อย่างที่เถี่ยซินกล่าวขึ้นมา หากเจ้าหอทั้งสองนั้นสามารถบรรลุหลอมโอสถสวรรค์ระดับแท้ขึ้นมาได้แล้วการจะควบคุมเมืองสวรรค์ใต้มันคงมิใช่เรื่องยากเย็นอีก ถึงเวลานั้นพวกเขาทั้งหลายจะยังมีค่าใด?
หมินหนานชานนั้นสูดหายใจเข้าลึก “รองเจ้าเมืองเถี่ยซิน แล้วท่านจะเสนอว่าเราควรทำอย่างไรเล่า?”
เถี่ยซินนั้นยิ้มกว้างขึ้นมาทันที
…
ในวันนี้หอโอสถสวรรค์ใต้นั้นมันมีงานใหญ่โตเกิดขึ้นมา
เหล่าหัวเมืองรอบๆ นั้นต่างส่งยอดคนมายังเมืองสวรรค์ใต้เพื่อเข้ามาร่วมเป็นสักขีพยานในงานนี้ด้วย
ในแดนสวรรค์ใต้นี้ตำแหน่งของหอโอสถสวรรค์ใต้นั้นมันยิ่งใหญ่จนเหนือหัวทุกผู้คนไป
เพราะว่าพลังของนักหลอมโอสถสวรรค์นั้นมันยิ่งใหญ่ล้ำ
แน่นอนว่ามันย่อมจะมีหลายต่อหลายคนที่มาเพื่อดูชมโอสถสวรรค์ระดับแท้
“ฮ่าๆ ยินดีกับอาจารย์เย่ด้วยที่ได้กลายเป็นเจ้าหอสามของหอโอสถสวรรค์ใต้! เมืองน้ำพองของข้าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง!” เมื่อซุนหยุนจิงได้เห็นเย่หยวนเขาก็รีบพุ่งตัวเข้ามากล่าวทักทายทันที
ข้างๆ กันนั้นซูยี่ก็ได้กล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าไม่ค่อยพอใจ “การที่อาจารย์เย่ได้ขึ้นเป็นเจ้าหอสามนั้นมันเกี่ยวอะไรกับเมืองน้ำพองเจ้ากัน? อาจารย์ท่านนั้นเมืองสงบทักษิณเราเป็นคนชักชวนมา หากจะพูดถึงว่าใครควรรู้สึกเป็นเกียรติมันก็ต้องเป็นเมืองสงบทักษิณเรา!”
ซุนหยุนจิงนั้นไม่คิดสนใจตอบโต้ใดๆ เขาแค่หัวเราะกลับ “ฮ่าๆ เจ้าเมืองผู้นี้ได้เคารพนับถืออาจารย์เย่หลังจากจบศึก!”
ซูยี่นั้นได้แต่ต้องกัดฟันแน่นขึ้นมาแต่ก่อนที่จะทันได้เถียงอะไรออกมาอีกครั้งเขาก็ต้องถูกเย่หยวนขัดไว้ก่อน “เอาล่ะ เจ้าเมืองทั้งสอง เย่ผู้นี้รับทราบถึงน้ำใจของพวกท่านแล้ว”
เย่หยวนนั้นกล่าวรับไปแล้ว ถึงเวลานี้ซูยี่ก็ไม่อาจจะเถียงใดๆ ได้อีก
ไม่ไกลไปนั้นหวงห่าวหยานและซูเป่ยหยุนเองก็เข้ามากล่าวทักทายเช่นกัน
เวลานี้คนที่คิดเข้ามาทักทายเย่หยวนนั้นมันมีมากมายมหาศาลอย่างที่เย่หยวนไม่มีเวลาจะพูดคุยกับคนทั้งหลายได้จึงต้องบอกให้พวกเขาไปนั่งพักรอก่อน
“ผู้นำตระกูลหมิน หมินหนานชานมาถึงแล้ว!”
“ผู้นำตระกูลซ่ง ซ่งเทียนหยางมาถึงแล้ว!”
“ผู้นำตระกูลหยุน หยุนปั่วหยู่มาถึงแล้ว!”
หลังจากได้ยินเสียงประกาศนั้นคนทั้งหลายก็ต้องหันหน้าไปมองเป็นตาเดียว
แม้แต่จ้าวซุนและอู้จี้อันเองก็ยังต้องหันมาสนใจ
เพราะมันมีอะไรไม่ชอบมาพากล
“ปกติแล้วผู้นำทั้งสามตระกูลนั้นไม่ลงรอยขัดแย้งกันอยู่เสมอๆ ทำไมวันนี้พวกเขาทั้งสามจึงมาถึงพร้อมกันเล่า?”
“ผู้นำตระกูลหมินนั้นเดิมทีพยายามอย่างหนักเพื่อจะขึ้นมาเป็นเจ้าหอสามแต่สุดท้ายแล้วความหวังของเขากลับพังทลาย!”
“ผู้มาถึงนี้คงไม่ได้มีเจตนาดีแน่! มันมีเรื่องสนุกๆ ให้ดูแล้ว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...