“ซ่งเหวินห่าว โอสถสร้างเลิศใหญ่ระดับสองขั้นต่ำ!” เมื่อได้ยินคำประกาศของชุยถงนั้นคนทั้งหลายต่างก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นมาตามๆ กัน เทียบกับระดับแท้ของเย่หยวนแล้วมันย่อมจะเป็นดั่งแค่ขยะ แต่จะอย่างไรผลลัพธ์เช่นนี้มันก็เกินกว่าคนรุ่นเดียวกันไปมาก
“ซ่งเหวินห่าวเก่งกาจขึ้นมาอีกแล้ว!”
“สมชื่อว่าเป็นยอดอัจฉริยะอันดับสองแห่งแดนสวรรค์ใต้! อนาคตของเขานั้นมันคงไม่ด้อยกว่าเจียงหลี่ไปเลย!”
“ซ่งหมินเจ๋อนั้นมันคงทำโอสถเสียไปแล้วใช่หรือไม่? หึๆ เจ้าหอสามนั้นคงถูกตบหน้าเข้าแล้วแน่!”
…
หลังจากเหล่ายอดคนทั้งหลายนั้นกล่าวชมซ่งเหวินห่าวไปพวกเขาก็วกกลับมาเย้ยเย่หยวนต่อ
ได้เห็นเย่หยวนพ่ายแพ้นั้นคือสิ่งที่พวกเขาอยากจะเห็นที่สุด
แม้แต่ตัวซ่งหมินเจ๋อเองก็ยังต้องหน้าซีดขาวลงเมื่อได้ยินผล
เขานั้นรู้สึกได้เลยว่าตัวเองไม่อาจจะก้าวข้ามมันไปได้
เพราะอย่างไรเสียเขานั้นก็ไม่เคยจะหลอมโอสถสวรรค์จักรพรรดิมาก่อนเลยในชีวิต
การทนมาได้จนถึงตอนนี้มันก็ถือเป็นปาฏิหาริย์แล้ว
เมื่อซ่งเหวินห่าวได้ยินเช่นนั้นเขาก็ยิ้มกว้างขึ้นมา “ไอ้เจ้าโง่! แค่คนอย่างเจ้านี้ก็กล้าจะมาเทียบแสงของนายน้อยผู้นี้หรือ? หลังจากเจ้ากลับไปที่ตระกูลแล้วต้องโดนหนักแน่!”
เย่หยวนกล่าวขึ้นมาแทน “ซ่งหมินเจ๋อนั้นยังไม่ได้เปิดหม้อหลอมเลยมิใช่หรือ? จะรีบทำหน้าตาตื่นเต้นดีใจไปเพื่ออะไรกัน?”
ซ่งเทียนหยางนั้นหัวเราะขึ้นมาตอบ “มันยังต้องเปิดหม้อหลอมดูอีกหรือ? ดูหน้าหมินเจ๋อแล้วแค่มันทนมาได้ถึงตอนนี้ก็คงเป็นปาฏิหาริย์แล้ว! ข้าว่าเก้าในสิบนั้นโอสถในหม้อหลอมมันคงไหม้เป็นจุณไปหมดแล้ว!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “แต่มันยังเหลือโอกาสอีกหนึ่งในสิบมิใช่หรือ? ซ่งหมินเจ๋อ เปิดหม้อหลอม!”
ซ่งหมินเจ๋อนั้นเปิดหม้อหลอมออกมาตามที่ได้รับคำสั่ง
ฟู่!
วินาทีที่หม้อหลอมถูกเปิดออกมานั้นมันก็ปรากฏโอสถสวรรค์ขึ้นมาต่อสายตาของทุกผู้คน
นั่นทำให้สีหน้าของเหล่าผู้นำตระกูลทั้งหลายเปลี่ยนสีไป
สองตาของซ่งหมินเจ๋อนั้นเองก็ต้องเบิกกว้างขึ้นมาเช่นกัน “นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน? มัน… มันกลับหลอมเป็นเม็ดได้!”
ซ่งเทียนหยางนั้นเองก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นมาเช่นกัน “หมินเจ๋อนั้นดูอย่างไรก็ไม่มีความมั่นใจแม้แต่น้อยแต่เขากลับหลอมโอสถขึ้นมาได้ด้วยท่าทางเช่นนั้น?”
ซ่งเหวินห่าวนั้นหัวเราะขึ้น “ต่อให้มันหลอมเป็นเม็ดได้มันก็ไร้ค่า! แค่เจ้าขยะนี้อย่างมากสุดมันก็คงเป็นแค่ระดับหนึ่งขั้นต่ำเท่านั้น!”
เย่หยวนยิ้มขึ้นเมื่อได้ยิน “ชุยถง ทดสอบคุณภาพโอสถ!”
ชุยถงนั้นไม่รอช้าเอาโอสถสร้างเลิศใหญ่ของซ่งหมินเจ๋อวางลงบนศิลามารดาก่อเมฆาก่อนจะประกาศขึ้น “ซ่งหมินเจ๋อ โอสถสร้างเลิศใหญ่ระดับสามขั้นกลาง!”
คำพูดนี้มันเหมือนดั่งสายฟ้าที่ผ่าลงกลางหัวทุกผู้คน
เหล่าผู้นำตระกูลทั้งหลายนั้นต่างตัวแข็งทื่อไปตามๆ กัน!
มันมิใช่แค่ซ่งหมินเจ๋อหลอมโอสถสวรรค์จักรพรรดิขึ้นมาได้เท่านั้นแต่มันยังมีคุณภาพระดับสามขั้นกลาง!
เวลาแค่สามเดือนนี้มันจะเกิดปาฏิหาริย์เช่นนี้ขึ้นได้อย่างไรกัน?
หรือว่าเจ้าหอสามนั้นจะเป็นผู้ใช้เวทมนตร์วิเศษ?
“นี่มัน… มันเป็นไปไม่ได้! ขยะอย่างมันจะหลอมถึงระดับสามขั้นกลางได้อย่างไรกัน? ข้าไม่เชื่อ! ข้าไม่ขอเชื่อ!” ซ่งเหวินห่าวนั้นร้องขึ้นมาเหมือนเด็กสามขวบที่คนรอบข้างทำไม่ได้ดั่งใจ
มีหรือที่เรื่องเช่นนี้มันจะเกิดขึ้นมาได้?
สามเดือนก่อนนั้นซ่งหมินเจ๋อยังเป็นแค่ขยะที่เขาดูถูก
แต่สามเดือนต่อมานั้นเย่หยวนกลับเปลี่ยนหินให้เป็นทอง ทำให้ยอดอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งแดนสวรรค์ใต้อย่างเขานี้พ่ายแพ้ลงแก่ขยะ?
เขานั้นอดไม่ได้ที่จะหันไปมองซ่งหมินเจ๋อและพบว่าอีกฝ่ายนั้นเองก็ได้แต่ทำหน้ามึนงงไม่ต่างกัน
ดูท่าแล้วเจ้าตัวเองก็คงไม่อยากจะเชื่อ!
ซ่งเทียนหยางนั้นหันมามองเย่หยวนด้วยใบหน้าเหยเก “จะ…เจ้าหอสาม นี่… มันกลายเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร?”
เย่หยวนนั้นตอบกลับไปเหมือนราวกับว่าเรื่องตรงหน้ามันแสนปกติ “ไม่ต้องรีบร้อนหรอก ต่อกันก่อนเถอะ ใครจะลงสนามต่อ?”
“ข้าเอง!”
หยุนหยวนนั้นก้าวขึ้นมาท้าทายบ้าง
เขานั้นหันไปมองเหล่าศิษย์ทั้งหลายที่ได้รับเลือกก่อนจะชี้ไปยังชายหนุ่มชุดคลุมเหลืองคนหนึ่ง
“ข้าเลือกเขา!” หยุนหยวนนั้นชี้หน้าชายหนุ่มเสื้อเหลืองคนนั้นพร้อมกล่าวขึ้น
“นี่มัน… หยุนหยวนนั้นกลับเลือกคนที่อ่อนแอที่สุดของตระกูลหลิน หลินจ้าวหยวน! เขาจะลดตัวต่ำจนเกินไปแล้ว!”
“เจ้าหอสามบอกว่าเลือกได้ทั้งหมดเอง! ในเมื่อมันไม่ได้ผิดกฎอะไรแล้วใครจะว่าเขาได้กันเล่า?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...