“เจ้าเชื่อหรือยังเล่า?”
“ข้าเชื่อแล้ว!”
“เช่นนั้นก็กินมันเสีย ต่อให้ข้ากินไปมันก็ไม่ได้ประโยชน์มากมาย”
“ได้!”
จิงเฟยนั้นพยักหน้ารับรัวๆ ก่อนที่จะกลืนผลวิญญาณชาดลงไปในคำเดียว
ของอย่างผลวิญญาณชาดนั้นมันจะเป็นสุดยอดสมบัติหรือสุดยอดขยะนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ด้วย
เย่หยวนนั้นมีพลังสายเลือดที่แข็งแกร่งล้ำอยู่ในระดับของมังกรฟ้ามาแต่แรกแล้ว เขาย่อมจะไม่ต้องพึ่งของอย่างผลวิญญาณชาดนี้
หรือต่อให้เขากลืนมันลงไปมันก็คงแทบไม่ช่วยให้สายเลือดของเขาพัฒนาไปมากกว่านี้
แต่สำหรับตัวเด็กน้อยจิงเฟยนั้นหรือพวกหยูชิงทั้งหลายแล้ว มันย่อมจะแตกต่างกันไปคนละเรื่อง!
สิ่งที่พัฒนาสายเลือดมังกรได้อย่างไร้เงื่อนไขนั้นสำหรับเหล่ากึ่งมังกรทั้งหลายแล้วมันย่อมจะเป็นสมบัติล้ำค่า!
ได้เห็นเช่นนั้นคนทั้งหลายต่างก็ต้องกัดฟันแน่นขึ้นมาอย่างริษยา
เมื่อกลืนผลวิญญาณชาดลงท้องไปพลังสายเลือดของจิงเฟยก็ปะทุขึ้นมาในทันที
เดิมทีแล้วนางนั้นมีชีพมังกรห้าข้อสุด
เวลานี้มันคงพัฒนาไปถึงหกข้อสุดแล้ว!
แม้ว่าที่แห่งนี้มันจะไม่มีศิลาชีพมังกรอยู่แต่ว่าการเปลี่ยนแปลงของสายเลือดนั้นมันก็ปรากฏให้เห็นชัดแก่สายตาของทุกผู้คน!
หยูชิงและพวกนั้นอิจฉาจนหน้าดำหน้าแดง
หากถ้าเขานั้นได้เป็นคนกินผลวิญญาณชาดลงไปนั้นเขาย่อมจะก้าวขึ้นมาเทียบเคียงจิงเฟยได้แล้ว
แต่โลกใบนี้มันไม่มีคำว่าถ้า
เวลานี้นอกจากเขาจะไม่อาจเทียบเคียงจิงเฟยได้แล้ว นางยิ่งทิ้งห่างเขาออกไปอีกขั้น
“เลิกดูได้แล้ว ไปเล่นกันของพวกเจ้าเองเถอะ ตามพวกเราไปพวกเจ้าจะไม่ได้สมบัติใดๆ ทั้งสิ้นแน่นอน” เย่หยวนยิ้มขึ้นมาอย่างเย้ยหยัน
หยูชิงนั้นได้แต่กันฟันแน่นด้วยใบหน้าดำมืดราวกับว่าเขานั้นถูกบังคับให้ต้องกลืนแมลงลงคอ
เขานั้นไม่อาจจะเถียงกลับไปได้
“จำเอาไว้เถอะ! ศึกนี้ใครจะชนะมันยังไม่แน่หรอก! อย่าเพิ่งรีบนับศพทหารนัก!” หยูชิงนั้นกัดฟันแน่นตวาดตอบไป
“หึๆ ข้าไม่ต้องมาแข่งขันกับพวกกึ่งมังกรหรอก! เจ้าคิดมากไปแล้ว” เย่หยวนตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มกว้าง
หยูชิงนั้นกัดฟันแน่นสั่งขึ้น “ไปกัน!”
แดนมังกรหลับนั้นมันยิ่งใหญ่กว้างไกลแน่นอนว่าย่อมจะมีทางให้เลือกมากมายนับไม่ถ้วน
สิ่งใดที่จะได้กลับออกไปนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับโชคและกำลังของคนผู้นั้น
คำพูดของเย่หยวนนั้นมันถูกต้อง หากพวกเขาติดตามเย่หยวนต่อไปมันก็คงไม่เหลืออะไรตกมาถึงมือแน่นอน
เพราะเย่หยวนนั้นเหมือนดั่งเป็นผู้ไร้เทียมทานในที่แห่งนี้!
“พี่หยูชิง เราจะปล่อยเรื่องไปเช่นนี้จริงๆ หรือ? ข้ายอมรับมันไม่ได้หรอกนะ!” มู่เฉินนั้นกล่าวขึ้น
แต่หยูชิงนั้นกลับหัวเราะขึ้นมา “เจ้าคิดว่าไอ้เด็กคนนั้นมันไร้เทียมทานหรือ?”
มู่เฉินที่ได้ยินจึงต้องถามกลับมา “แล้วมันมิใช่หรือ?”
หยูชิงนั้นยิ้มตอบกลับไป “แน่นอนว่ามิใช่! เหมือนดั่งที่เขาว่ากันว่าบางครั้งความหายนะมันจะแฝงตัวมาในรูปแบบของโชคลาภ! การถูกแดนมังกรหลับนี้ยอมรับมันย่อมจะหมายความว่าแดนมังกรหลับต้องการอะไรตอบแทน! ไม่สิ เป็นไปได้สูงมากกว่ามันจะต้องแลกมาชีวิตด้วยซ้ำ! ในแดนมังกรหลับนี้ยิ่งเดินทางเข้าไปได้สะดวกเท่าไหร่มันก็ยิ่งเดินทางกลับออกมาได้ลำบากเท่านั้น! หึ ไอ้เด็กคนนี้คิดว่าตัวเองเก่งกาจแต่ไม่ได้รู้เลยว่าแท้จริงแล้วแดนมังกรหลับได้หมายตามันไว้แล้ว!”
เมื่อมู่เฉินและพวกได้ยินเช่นนั้นพวกเขาต่างก็ร้องอ่อขึ้นมาตามๆ กัน
“สุดยอด! ได้ยินเช่นนั้นแล้วข้าก็คิดว่ามันไม่ผิดแน่เช่นกัน! ยิ่งเดินทางสะดวกเท่าไหร่มันก็ยิ่งกลับออกมายากเท่านั้น! บางทีแล้วชีวิตของมันนั้นแดนมังกรหลับอาจจะรักษาไว้ให้ถึงด้านในเท่านั้น! ถึงเวลานั้นต่อให้มันอยากจะหนีมันก็คงไม่อาจทำได้อีก!” มู่เฉินนั้นตบเข่าฉาดร้องลั่นขึ้นมา
หยูชิงนั้นพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม “ใช่ เพราะเช่นนั้นแหละ! เวลานี้เรามานั่งรอหัวเราะเยาะมันก็พอแล้ว!”
เมื่อคนทั้งหลายได้ยินเช่นนั้นพวกเขาต่างก็พยักหน้ารับออกมา
หยูชิงที่ถูกยกย่องเป็นยอดอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งเจ็ดทะเลนั้นย่อมจะมิใช่คนโง่เง่านัก
ปัญหาที่กวนใจเย่หยวนอยู่ เขาเองก็ย่อมจะคิดถึงมันได้ไม่ยาก!
“เอาล่ะ ในเมื่อเข้ามาได้แล้วเราก็จะพลาดโอกาสไม่ได้เช่นกัน! เวลานี้ตัวใครตัวมันเถอะ! ใครที่จะได้หัวเราะเป็นคนสุดท้ายนั้นมันยังไม่แน่หรอก!” หยูชิงนั้นกล่าวขึ้นมา
เขานั้นพายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกเข้ามาด้วยถึงสามคนแน่นอนว่าต่อให้เจอภัยอันตรายเช่นไรเขาก็พอจะหาทางหนีได้ เพราะฉะนั้นเขาจึงมีความมั่นใจมากกว่าคนอื่นๆ
ระหว่างทางเข้าไปในแดนมังกรหลับนั้นเย่หยวนได้พาจิงเฟยเดินเล่นหยิบจับเอาสมบัติล้ำค่ามากมายตามใจชอบ
แน่นอนว่าคุณค่าของสมบัติทั้งหลายนั้นมันย่อมจะไม่ช่วยอะไรเย่หยวนมากมาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...