ด้านหลังราชาขาลเจิดนั้นมันมีเด็กน้อยหัวเสือคนหนึ่งยืนอยู่
ดูจากคลื่นพลังแล้วเขานั้นคงมีพลังบ่มเพาะชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่ขั้นปลาย
“ใช่แล้วทำไม?” ราชาขาลเจิดถามกลับมา
เย่หยวนจึงโยนโอสถสวรรค์หนึ่งไปให้ก่อนจะกล่าว “ให้เขาได้ลองกิน ถือว่าเป็นของขวัญทักทายจากข้าแล้วกัน”
ราชาขาลเจิดนั้นรับโอสถสวรรค์นั้นไว้ในมือด้วยสีหน้าแปลกใจ
เพราะนี่มันคือโอสถสวรรค์ระดับสองอย่างแน่นอนแต่โอสถสวรรค์นี้มันกลับไร้สีใดๆ ใสมองทะลุได้ เป็นสิ่งที่เกิดมาทั้งชีวิตเขายังไม่เคยได้เห็นมาก่อน
โอสถสวรรค์นี้มันย่อมจะเป็นโอสถสร้างเลิศใหญ่ระดับแท้แล้ว
แต่ราชาขาลเจิดนั้นก็ลังเลอยู่ในใจเพราะว่าเขาไม่รู้ได้ว่าเย่หยวนวางแผนอะไรไว้
เย่หยวนได้เห็นเช่นนั้นจึงยิ้มตอบกลับไป “หากท่านไม่กล้าให้ลูกได้กินท่านจะลองให้ลูกน้องมากินดูก็ได้ แต่ข้าขอบอกก่อนเลยว่าโอสถสร้างเลิศใหญ่นั้นข้ามีติดตัวแค่เม็ดเดียว หากพลาดไปแล้วมันคงพลาดเลย โอกาสนั้นมันไม่มีให้ท่านเลือกเป็นครั้งที่สองแน่ ถึงเวลานั้นหากมันให้ประโยชน์ลูกน้องท่านแทนแล้วท่านคงจะมาว่าข้าไม่ได้”
เย่หยวนนั้นไม่ได้โกหกเพราะว่าโอสถสร้างเลิศใหญ่นี้มันก็เป็นโอสถสวรรค์ที่ล้ำค่าไม่น้อย
ก่อนนั้นเขาได้ใช้สมุนไพรสวรรค์ชุดสุดท้ายของหอโอสถสวรรค์ใต้เพื่อหลอมโอสถนี้ขึ้นมาพกติดตัวไว้เผื่อเวลาที่อยากจะบรรลุ
แต่สุดท้ายเขานั้นกลับไปบรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำได้ที่หน้าแดนมังกรหลับอย่างไม่ต้องพึ่งพาโอสถใด
เสือน้อยนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยเสียงแหลมเล็ก “เสด็จพ่อ นี่มันก็แค่โอสถสวรรค์มิใช่หรือ? หากข้ากินแล้วตายไปจริงท่านก็ช่วยแก้แค้นให้ข้าด้วยแล้วกัน!”
ได้เห็นท่าทางของเสือน้อยตนนี้ตัวเย่หยวนก็อดหวนนึกย้อนกลับไปถึงอิ้งหมัวหู่ไม่ได้
เวลานี้ความคิดถึงน้องนั้นมันพุ่งพล่านขึ้นมาในใจเย่หยวน
หลังกลับไปถึงห้ายอดแดนสวรรค์แล้วเขาต้องหาเวลาเดินทางกลับลงไปยังมหาพิภพถงเทียนให้จงได้
ด้วยพลังความสามารถของเขาในตอนนี้แล้วการจะช่วยให้พวกลี่เอ๋อทั้งหลายได้บรรลุชั้นบรรยากาศสวรรค์ขึ้นมามันคงมิใช่เรื่องยากเย็น
“ได้! ข้าจะให้เจ้าได้ลองแล้วกัน!” ราชาขาลเจิดนั้นตัดสินใจมอบโอสถไป
เสือน้อยตนนั้นรีบกลืนโอสถสร้างเลิศใหญ่ลงคอไปทันทีก่อนที่เขาจะต้องเบิกตากว้างคลื่นพลังรุนแรงปะทุออกมาจากภายในร่างกาย
เมื่อเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวทั้งหลายได้เห็นเช่นนั้นแล้วพวกเขาต่างก็ต้องอ้าปากค้างขึ้นมาตามๆ กัน
โอสถสวรรค์นี้มันจะมีฤทธิ์ที่รุนแรงเกินไปหรือไม่?
สภาพของเสือน้อยในตอนนี้มันไม่ได้ต่างจากตอนที่พวกหวงห่าวหยานบรรลุขึ้นมา มันทะลวงผ่านชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่ขั้นสุดไปได้ในพริบตา
จากนั้นพลังบ่มเพาะของเขาก็ยิ่งพุ่งสูงจนเข้าใกล้ชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำไปทุกที
“นี่…ลูกเจ้าไม่คิดจะหยุดลงแม้แต่น้อย หรือว่าเขาจะบรรลุขึ้นชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำไปทั้งๆ อย่างนี้?” ราชาหมื่นคชสารกล่าว
เขานั้นไม่เคยพบเห็นมาก่อนว่าโอสถสวรรค์ใดมันจะทรงพลังได้ปานนี้
เพราะบนทวีปพิรุณใสนั้นคนที่รู้ถึงตัวตนของโอสถสวรรค์ระดับแท้มันก็มีแค่หยิบมือ!
หากมิใช่เพราะพันธมิตรโอสถแล้วเย่หยวนก็คงไม่อาจจะเข้าถึงสิ่งนี้ได้ง่ายๆ เช่นกัน
เพราะฉะนั้นความตกตื่นของห้าราชามันจึงมิใช่เรื่องเกินคาด
เมื่อเสือน้อยนั้นบรรลุขึ้นชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำมาได้ราชาทั้งห้าต่างก็ต้องอ้าปากค้างอย่างไม่รู้จะพูดอะไรอีก
“ช่างเป็นโอสถสวรรค์ที่ทรงพลังนัก กลับทำให้หลานนั้นบรรลุขึ้นชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำมาได้ทันที!” ราชาราชสีห์เถื่อนอ้าปากค้างขึ้น
คนทั้งห้านั้นหันมามองหน้าเย่หยวนพร้อมๆ กันอย่างไม่ได้นัดหมาย
ราชาขาลเจิดนั้นเป็นห่วงลูกจึงได้ถามขึ้น “ซั่วเหยียน เจ้ารู้สึกไม่สบายตัวตรงไหนหรือไม่?”
ร่างของเสือน้อยนั้นมันได้ขยายขึ้นมาอย่างมากมีท่าทางเหมือนเด็กหนุ่มไปแล้ว
เขาส่ายหัวตอบกลับไป “มันไม่มีอะไรไม่สบาย ข้ารู้สึกสบายสุดๆ ด้วยซ้ำ! ข้านั้นสัมผัสได้เลยว่าพลังของโอสถสวรรค์นี้มันยังไม่หมดไป เพียงแค่ว่ารากฐานการบ่มเพาะของข้านั้นไม่หนักแน่นพอที่จะบรรลุขึ้นไปอีก! พี่ท่านนี้ ขอบคุณท่านมาก!”
คนทั้งห้าหันมามองหน้ากันด้วยความตกตะลึงอย่างถึงที่สุด
ในเวลานี้พวกเขาได้เข้าใจแล้วว่าเย่หยวนนั้นไม่ได้มาพูดล้อเล่น
เจ้าหมอนี่มันมีวิชาที่เหนือล้ำจินตนาการพวกเขาไปจริง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...