“หึ่ม! ยังจะมีหน้ามาว่าข้าอีกหรือ! ใครใช้ให้เจ้าไปเสือกเรื่องของเขากันเล่า? เจ้าคิดว่าแค่มีดาบมังกรวสันต์นั้นเจ้าจะไร้เทียมทานในฟ้าดินนี้หรือ? จักรพรรดิหยกนั้นมันจะอย่างไรก็คือจักรพรรดิหยก!”
แต่เมื่อได้ยินคำด่าว่าของเย่หยวนนั้นทางหมี่เทียนก็ตอกแสกหน้าเย่หยวนกลับมาทันที
ชีวิตของซั่วเหยียนนั้นมันเกี่ยวอะไรกับตัวเขา?
เอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงเพราะเรื่องคนอื่นที่ไม่ได้มีประโยชน์หรือเกี่ยวข้องอะไรกับตัวเองมันคือความโง่เง่าอย่างถึงที่สุดในสายตาหมี่เทียน
แต่เย่หยวนนั้นก็ตอบกลับไปอย่างหนักแน่น “ท่านและข้าเองก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกัน ทำไมท่านต้องเอาตัวเองมาฝากไว้ที่ข้าด้วยเล่า? ท่านไม่กลัวหรือว่าข้านั้นจะกลืนหัวใจมังกรของท่านไปในวันหน้า? ไม่ต้องมาใช้ข้ออ้างว่าพลังบ่มเพาะของข้ายังต่ำหรอกนะ เพราะด้วยความสามารถของข้า ข้าย่อมรู้ตัวดีว่าวันหน้าข้าเองก็จะพัฒนาไปได้ถึงแค่ไหน! ท่านไม่กลัวหรือว่าข้าจะตอบแทนท่านด้วยการเนรคุณ?”
เมื่อถูกเย่หยวนถามกลับมาเช่นนี้หมี่เทียนเองก็ไม่รู้ต้องตอบอย่างไร
เขานั้นใช้เวลาอยู่ร่วมกับเย่หยวนมาได้หลายปีแล้วและย่อมเข้าใจว่าเย่หยวนนั้นเป็นคนที่ตอบแทนความจริงใจด้วยความจริงใจ
หากเย่หยวนนั้นเป็นมารร้ายจอมหักหลังแล้วหมี่เทียนเองก็คงไม่ปล่อยเย่หยวนไว้
ไม่เช่นนั้นหลังจากที่เย่หยวนพัฒนาตัวขึ้นมาจนแข็งแกร่งในวันหน้า เขาคงไม่อาจจะมั่นใจอะไรได้อีก
ด้วยความสามารถของเย่หยวนนั้นต่อให้จะไม่มีเขาช่วยเหลือความสำเร็จในวันหน้าของเขามันก็คงเหนือล้ำอย่างไม่อาจคาดเดาได้
หมี่เทียนนั้นเห็นถึงจุดนี้มานานแล้ว
หมี่เทียนจึงได้แต่ต้องถอนใจยาวออกมา “เจ้าได้เล่นเป็นพระเอกแต่คนลำบากกลับเป็นข้า! ปล่อยสติและให้ข้าควบคุมร่างเสีย! ข้านั้นโจมตีได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น หลังจากข้าสังหารเจ้าเสือแปดดาวนั่นลงแล้วเจ้าต้องหนีไปทันทีเข้าใจหรือไม่?”
เย่หยวนที่ได้ยินก็ยิ้มกว้างขึ้นมาทันทีเพราะว่าภัยร้ายที่สุดของเขามันก็คือเสือแปดดาวนั้น
หากเขาตายลงแล้วตัวเย่หยวนย่อมจะหาทางหนีได้ไม่ยาก!
เย่หยวนนั้นปล่อยสติของตัวเองออกจากร่างก่อนจะสัมผัสได้ถึงพลังของมังกรฟ้าที่รุนแรงพุ่งพล่านออกมาจากหัวใจมังกรนั้นและไหลเข้าสู่ร่างกายของเขา
พริบตานั้นร่างกายของเย่หยวนมันก็ได้ปลดปล่อยพลังรุนแรงออกมา
แต่ในเวลาเดียวกันนั้นเขาก็ไม่อาจจะควบคุมร่างได้อีก
“เด็กน้อย ถูกตรึงกับต้นไม้เช่นนั้นรู้สึกอย่างไรบ้างเล่า? เหอะๆ อย่าได้ว่าข้าเลย เจ้าไปโทษตัวเองที่มายุ่งเรื่องคนอื่นเถอะ!” เสือแปดดาวนั้นยิ้มกว้างขึ้นมาอย่างพอใจในฝีมือตน
แต่ในเวลานั้นเองที่มันกลับมีคลื่นพลังรุนแรงปะทุออกมาจากร่างของเย่หยวน
พลังของมันนั้นรุนแรงจนทำให้ใจของเหล่าคนทั้งหลายเต้นรัว มันเหนือล้ำกว่าคลื่นพลังจากตัวซั่วเหยียนไปมากมายนัก
พลังสายเลือดระดับนี้มันทำให้คนทั้งหลายแทบจะอยากก้มลงกราบ
เสือแปดดาวนั้นหน้าซีดลงทันทีที่สัมผัสได้ก่อนจะพุ่งตัวหนีไปทันที
ความเร็วของเขานั้นเป็นที่หนึ่งอย่างแท้จริง พริบตาเดียวเขาก็ไปได้ไกลนับหลายกิโลเมตรแล้ว
แต่หมี่เทียนนั้นย่อมจะไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายหนีไปได้
“ไอ้หนู จำความรู้สึกของกระบวนท่านี้ไว้! มันมีนามว่าหมัดแปลงเก้ามังกรสวรรค์ หากบ่มเพาะฝึกฝนมันจนถึงที่สุดแล้วผู้ใช้งานจะสามารถต่อยทำลายได้แม้แต่ห้วงมิติเวลา!” หมี่เทียนกล่าวออกมาด้วยเสียงของเย่หยวน
แม้ว่าเย่หยวนจะปล่อยการควบคุมร่างให้หมี่เทียนแต่สุดท้ายเขาก็ยังเป็นเจ้าของร่างนี้
ความรู้สึกของคลื่นชีพมังกรที่ไหลเวียนในร่างนั้นเขาสัมผัสถึงมันได้อย่างชัดเจน
พร้อมๆ กับพลังชีพมังกรนั้นคลื่นพลังสายหนึ่งมันก็เกิดขึ้นมาที่หมัดของเขา
คลื่นพลังรุนแรงนี้มันรุนแรงล้ำจนเหมือนจะทะลวงท้องฟ้าให้กลายเป็นรูได้!
เสือแปดดาวนั้นได้แต่ต้องอ้าปากค้างเมื่อได้เห็น
พลังของหมัดนี้มันคงรุนแรงพอจะสังหารยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวลงได้
มันเป็นพลังทำลายล้างที่ทำให้ผู้คนขนลุกตั้ง
เขานั้นไม่อาจจะจินตนาการได้เลยว่าทำไมนักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศล้ำคนหนึ่งมันถึงปล่อยการโจมตีเช่นนี้ออกมาได้
แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลามาคิด เขาต้องหนีให้สุดชีวิตเท่านั้น!
เขานั้นใช้กฎแห่งลมออกมาอย่างถึงที่สุดหวังอยากจะงอกขาเพิ่มออกมาอีกสักสี่ข้าง
พริบตาเดียวนั้นเขาก็ไปไกลกว่าสิบกิโลเมตรได้
ส่วนเหล่าหมาป่าศึกแสงม่วงและยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกอีกเจ็ดคนนั้นต่างไม่มีใครกล้ายืนนิ่ง ต่างหันหน้าหนีไปจากทิศของเสือแปดดาวตามๆ กัน!
ตูม!
หมัดนั้นถูกต่อยผ่านห้วงอากาศไป
จากนั้นมันก็เกิดเสียงระเบิดขึ้นมา ร่างของเสือแปดดาวนั้นแตกสลายกลายเป็นแค่ฝุ่นเลือด
หมัดเดียวนี้กลับสามารถระเบิดร่างยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกลงได้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...