เว่ยหยูนั้นรู้สึกมึนงงเหมือนโลกทั้งใบมันกำลังหมุนรอบตัว
ตอนที่เขาตั้งสติขึ้นมาได้เขาก็มีรอยกีบเท้าประทับอยู่บนใบหน้าอย่างชัดเจนไปเสียแล้ว
เมื่อคนทั้งหลายได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาต่างต้องหัวเราะกันขึ้นมา
แต่ระหว่างที่หัวเราะไปคนทั้งหลายต่างก็ตื่นตะลึงในพลังของต้าหวง
เพราะการโจมตีนี้มันไม่มีร่องรอยของปราณเทวะแต่อย่างใด แต่เมื่อเว่ยหยูรับเท้านั้นไปเขากลับต้องกลิ้งตัวล้มลง มันมิใช่สิ่งที่ภูติแท้ทั่วๆ ไปจะทำได้เลย
ตัวต้าหวงนั้นจะดูอย่างไรก็เป็นแค่กระทิงเหลืองธรรมดาๆ ทั่วไป
“หึ เจ้าคิดว่าสิ่งที่เฒ่าคนนี้อยากได้มันจะเป็นของธรรมดาได้หรือ? กระทิงเหลืองตัวนี้มันผิดปกติโกลาหล ทุกการกระทำของมันนั้นแฝงมาด้วยพลังแห่งกฎ หากได้ฝึกเสียหน่อยวันหน้ามันคงพัฒนาตัวถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนได้ง่ายๆ! เพียงแค่ว่าหากปล่อยให้อยู่ในมือเจ้าเด็กนี่ต่อไปมันมีแต่จะเสียของเหมือนเพชรที่ตกลงบ่อโคลน!”
หวูฟางนั้นได้แต่ส่ายหัวออกมาพร้อมถอนใจยาว
แต่สิ่งที่เขาคิดผิดนั้นคือต้าหวงไม่ได้เป็นตัวผิดปกติโกลาหลใดๆ แต่เขานั้นเป็นยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนอย่างแท้จริง!
หากมิใช่เพราะเขาคิดปกปิดพลังแล้วการดีดเมื่อครู่มันคงแยกหัวเว่ยหยูออกจากตัวไปแล้ว
เว่ยหยูนั้นรีบลุกขึ้นมาส่ายหัวพยายามใช้พลังปราณฟื้นฟูสภาพตัวเอง
“ไอ้เด็กนรก เจ้ากล้ามาท้าทายนิกายสวรรค์เจ็ดดาวเรา! พวกเจ้าโจมตีมันพร้อมๆ กัน ตราบเท่าที่เจ้าสังหารมันลงได้ข้าเว่ยหยูนั้นจะถือว่าติดหนี้บุญคุณเจ้าแล้ว!” เว่ยหยูกล่าวสั่งลั่นขึ้นมา
เมื่อคนทั้งหลายได้ยินพวกเขาก็ย่อมคิดลงมือกันทันที
เว่ยหยูนั้นเป็นว่าที่เจ้านิกายคนต่อไปของนิกายสวรรค์เจ็ดดาว
หากทำให้คนเช่นนี้ติดค้างบุญคุณได้มันย่อมจะมีค่าอย่างมาก!
เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงอดไม่ได้ที่จะลงมือ
เมื่อเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกขั้นกลางและขั้นปลายนับสิบเข้าโจมตีเช่นนั้นมันย่อมจะทำให้เกิดความวุ่นวายมหาศาล
แต่เย่หยวนนั้นกลับกล่าวสั่งขึ้นมาอย่างเหนื่อยหน่าย “ต้าหวง เหยียบมัน”
ปัง ปัง ปัง…
ต้าหวงนั้นยกกีบเท้าดีดเข้าหน้าคนทั้งหลายอย่างแม่นยำ
ไม่กี่อึดใจต่อมาใบหน้าของคนทั้งหลายมันก็มีรอยกีบเท้าประทับไว้สิ้น
แน่นอนว่าบนหน้าของเว่ยหยูมันมีรอยกีบเท้าถึงสองรอยแล้ว
ส่วนทางจงรุยนั้นได้แต่ต้องอ้าปากค้างอย่างไม่อยากเชื่อสายตา รู้สึกชาไปทั้งหน้า
ก่อนหน้านี้เขายังกล่าวว่าเย่หยวนลอกเลียนคนอื่นจนเสียเอกลักษณ์ของตนไป
แต่ใครจะไปคิดฝันว่ากระทิงเหลืองนี้มันจะแข็งแกร่งล้ำได้ปานนี้
เวลานี้ยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกกว่าสิบคนนั้นถูกจัดการลงได้ด้วยเท้าเดียวสิ้น
“ต้าหวง ไปกัน” เย่หยวนไม่คิดสนใจสายตาของคนทั้งหลายและสั่งต้าหวงเดินผ่านไป
ส่วนตาของหวูฟางนั้นยิ่งเบิกกว้างขึ้นอย่างเจิดจ้า
เขานั้นยิ่งชอบกระทิงเหลืองนี้เข้าไปทุกที
ได้เห็นพลังของต้าหวงนั้นเขารู้สึกราวกับว่าภูติแท้ในกระเป๋าของเขาตอนนี้มันช่างไร้ค่า
เว่ยหยูนั้นค่อยๆ ลุกกลับขึ้นมาด้วยท่าทางโซเซ
สุดท้ายเขาก็ไม่อาจทรงตัวได้ต้องร่วงลงไปนั่งกับพื้นอีกครั้ง
เขาร้องลั่นขึ้นมา “ไอ้เด็กเวร แค่มีสัตว์ขี่เก่งกาจมันจะถือเป็นยอดฝีมืออะไรกัน? หากเจ้ากล้าจริงก็ลงมาสู้กับข้าด้วยตัวเองสิ!”
เย่หยวนนั้นหันหน้ากลับไปตอบ “อ่า เรอะ? ทำไมไม่ไปบอกหวูฟางเช่นนี้บ้างเล่า?”
เมื่อเว่ยหยูได้ยินเช่นนั้นเขาก็แทบต้องสำลักขึ้น
หวูฟางนั้นย่อมไม่เคยลงมือด้วยตัวเองเวลาคิดต่อสู้สังหารใคร
แต่ก็ไม่มีใครกล้าบอกว่าเขานั้นมิใช่ยอดฝีมือ
เว่ยหยูนั้นกัดฟันแน่นกล่าวขึ้นอย่างเคียดแค้น “ไอ้เด็กเวร หากเจ้ามีปัญญาจริงก็อย่าได้หนีแล้วกัน! ความแค้นนี้ข้าจะต้องชำระแน่!”
เย่หยวนตอบกลับไป “เออๆ ข้าจะรอแล้วกัน”
แต่เดินไปได้อีกแค่สองก้าวเย่หยวนก็ต้องหยุดลง
เวลานี้สายตาของเขานั้นมันจับจ้องไปในร้านน้อยๆ ร้านหนึ่ง
“หึ ต้าหวง เจ้านั้นช่างมีโชคนัก! ไม่นึกเลยว่าจะได้มาเจอดอกกระจับน้ำฝังสวรรค์ในที่แบบนี้!” เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป
ต้าหวงนั้นสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ดวงตากระทิงของเขานั้นต้องหันไปมองยังทิศเดียวกับเย่หยวนทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...