จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2734

ถังเฉียนนั้นลุกขึ้นมาพร้อมด้วยรอยกีบเท้าบนหน้า

หลายต่อหลายคนที่ได้เห็นเช่นนั้นต้องอดแอบหัวเราะขึ้นไม่ได้

ยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวนั้นเป็นตัวตนที่ยิ่งใหญ่ล้ำในห้ายอดแดนสวรรค์

แต่เวลานี้เขานั้นกลับมีรอยกีบเท้าอยู่บนหน้า ใครเห็นก็อดหัวเพราะไม่ได้

แน่นอนว่าที่เป็นเช่นนี้มันเพราะว่าต้าหวงนั้นไม่ได้ใช้พลังฝีมือที่แท้จริงออกมา ไม่เช่นนั้นแล้วเขาคงไม่จบแค่ทิ้งรอยเท้าไว้

ต่อให้จะมีพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเซียนครึ่งก้าวมันก็คงไม่รอดไปได้

กีบทุเรศไหวนั้นมันมิใช่ของเล่น

“นี่หรือคือชื่อเสียงของนิกายสวรรค์เจ็ดดาวเจ้า? มันก็แค่เท่านี้! ครั้งนี้ข้าแค่จะสั่งสอนให้เจ้าได้รู้ไว้ หากมีกำลังไม่พอก็อย่าได้มาอวดเบ่งต่อหน้าคน ต้าหวง ไปช่วยสั่งสอนให้พวกนิกายสวรรค์เจ็ดดาวได้จดจำกันอีกสักครั้งเถอะ”

เมื่อคำสั่งถูกกล่าวออกมาคนนิกายสวรรค์เจ็ดดาวนั้นต่างก็ต้องหน้าซีดขาวลง

แต่ว่าพวกเขานั้นกลับไม่มีเวลาจะตั้งรับใดๆ ต้าหวงนั้นก็พุ่งตัวมาถึงแล้ว

ปัง ปัง ปัง…

ต้าหวงนั้นถีบออกไปอย่างรุนแรงรวดเร็วเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกทั่วๆ ไปย่อมไม่มีใครต้านทานหลบเลี่ยงได้

พริบตาเดียวนั้นบนใบหน้าของคนนิกายสวรรค์เจ็ดดาวนั้นมันก็มีรอยกีบเท้าประทับอยู่สิ้น

แน่นอนว่าบนใบหน้าของถังเฉียนนั้นมันมีสองรอยแล้ว

เขานั้นไม่อาจจะหลบกีบเท้านี้ได้เช่นกัน

เว่ยหยูนั้นยิ่งคับแค้นจนอยากจะกระอักเลือดเพราะสำหรับเขา นี่เป็นครั้งที่สาม!

เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายที่ได้เห็นนั้นต่างต้องอ้าปากค้างขึ้นมาตามๆ กัน

พวกเขานั้นพยายามประเมินต้าหวงให้เหนือล้ำจินตนาการไว้ก่อนแล้ว แต่สุดท้ายพวกเขานั้นกลับยังประเมินต้าหวงต่ำไป

แต่ปัญหาก็คือต้าหวงนั้นไม่ได้ใช้กำลังปราณใดๆ ออกมาเลย แล้วเขาลงมือขนาดนี้ได้อย่างไร?

ไม่ว่าจะอย่างไรวันนี้นิกายสวรรค์เจ็ดดาวนั้นมันก็ถูกตบจนหน้าหันแน่นอนแล้ว

ในฐานะยอดนิกายสวรรค์ของดินแดนสวรรค์ตะวันเที่ยงนั้น นิกายสวรรค์เจ็ดดาวย่อมจะไม่เคยต้องพบเจอเรื่องเช่นนี้มาก่อน

แต่เวลานี้พวกเขานั้นกลับไม่กล้าแม้แต่จะหายใจออกมาแรงๆ ด้วยซ้ำ

ถูกตบจนหน้าหันเช่นนี้แล้วพวกเขาจึงมีแต่ต้องรับชะตาหนีไปอยู่หลังกลุ่มคนทั้งหลาย

เวลานี้เหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยกนับร้อยๆ นั้นกำลังมุ่งหน้าเดินทางไปยังป่าหมึกเรือง

เมื่อมาถึงป่าหมึกเรืองนั้นเย่หยวนก็ได้เห็นลำแสงสีแดงเลือดพุ่งขึ้นมาสู่ท้องฟ้า

ลำแสงนี้มันเหมือนเป็นพลังงานวิญญาณบางอย่างที่ทำให้รู้สึกหวาดกลัว

เมื่อเย่หยวนได้เห็นเช่นนั้นสีหน้าของเขาก็ซีดขาวลงทันที

เพราะยิ่งเข้าไปใกล้เย่หยวนก็ยิ่งเห็นชัดว่าจุดที่แสงส่องออกมานั้นมันเป็นจุดที่เขาผนึกไว้ตอนบรรลุขึ้นมาจริงๆ

เพียงแค่ว่าตอนนี้มันไม่เหลือร่องรอยของผนึกใดๆ แล้วแม้แต่น้อย

“สหายเต๋าทั้งหลาย ใครคิดอยากจะนำเข้าไปก่อนบ้าง?” เฉินไท่ถามขึ้น

“ต้าหวง ไปกัน!” เย่หยวนไม่คิดลังเล

เมื่อต้าหวงได้เห็นสีหน้าของเย่หยวนในตอนนี้เขาก็พอจะเดาเรื่องราวออกแล้วจึงไม่คิดรอช้ารีบมุ่งหน้าเข้ามายังเสาแสงนั้นทันที

คลื่นพลังรุนแรงนั้นมันราวกับว่าต้องการจะฉีกร่างของพวกเย่หยวนออก

แต่ต้าหวงที่สัมผัสได้เช่นนั้นก็ต้องหัวเราะขึ้นพร้อมกระทืบเท้าลงสยบพลังนั้นจนหายไปสิ้น

ฟุบ!

ร่างของคนทั้งสองจางหายลงไป

คนทั้งหลายที่ได้เห็นเช่นนั้นต่างหันมามองหน้ากันอย่างมึนงง

แต่ในเวลานั้นเองที่มันได้มีเงาร่างอีกหลายเงาพุ่งตามเข้าไปในเสาแสง

คนอื่นๆ นั้นก็ไม่อาจจะรอช้าได้จึงต้องพุ่งตัวตามเข้าไปเรื่อยๆ

เพราะเวลานี้พลังของเสาแสงเลือดนั้นมันเบาบางลงไปมากแล้ว

คนทั้งหลายนั้นต่างมีพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยก ย่อมจะเข้าไปได้ไม่ยากนัก

เย่หยวนนั้นรู้สึกเบลอขึ้นตรงหน้าก่อนที่จะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกปลดปล่อยเป็นหนึ่งเดียว

นี่มันเป็นความรู้สึกที่คุ้นเคย!

มันคือความรู้สึกตอนได้กลับบ้าน!

โชคยังดีที่มหาพิภพถงเทียนนั้นยังตั้งเป็นมหาพิภพถงเทียนได้ นอกจากท้องฟ้าที่อาบไปด้วยสีแดงเลือดแล้วทุกอย่างก็ยังอยู่ดี

และต้นกำเนิดของแสงนั้นมันก็สาดส่องขึ้นมาจากใต้เท้าของเขา เหมือนแทบจะกลืนมหาพิภพถงเทียนลงไปก็ไม่ปาน

จุดที่เย่หยวนยืนอยู่นั้นมันย่อมจะเป็นตำแหน่งที่เขาแห่งถงเทียนเคยตั้งอยู่นั่นเอง

เหนือหัวเขาขึ้นไปนั้นมันคือเส้นทางขึ้นไปสู่สวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ