ความเร็วของพวกเขานั้นมันไม่เร็วหรือช้า
ส่วนตัวจิงเฟยนั้นได้กลับร่างกลายเป็นมังกรน้ำบินรอบหัวของคนทั้งสองด้วยท่าทางร่าเริง
ดูท่าแล้วพวกเขาคงไม่คิดสนใจให้ค่าเหล่าชาวทะเลมากมายเลย
“อาจารย์เย่ เราค่อยๆ ไปเช่นนี้มันจะดีหรือ?” ต้าหวงกล่าวขึ้นมา
“ให้ตายเถอะ เจ้ากระทิงเหลืองนี่ ทำไมถึงได้ปอดแหกนัก? พี่เย่หยวนนั้นไร้เทียมทานใต้ฟ้าดินมีหรือที่เผ่าทะเลกระจอกๆ มันจะทำอะไรเขาได้?” ก่อนที่เย่หยวนจะได้ตอบอะไรไปจิงเฟยก็แย่งตอบมาก่อน
เย่หยวนยิ้มตอบต้าหวงไป “มันมิใช่ว่าเราไม่คิดหนีแต่ว่าต่อให้อยากหนีมันก็คงไม่พ้นแน่แล้ว ในเมื่อสุดท้ายก็ยังต้องสู้กันเราก็สู้เก็บแรงไว้ก่อนดีกว่า”
“แต่หากว่าจักรพรรดิเที่ยงนั้นออกมา…”
“จักรพรรดิเที่ยงมันจะว่ากันขนาดนั้น? หากพวกเขาคิดลงมือจริงตัวโฉปู้ฉุนก็คงไม่อาจจะหนีออกไปได้แน่แล้ว มีหรือที่เขาจะยังหนีไปได้ถึงล้านกิโลเมตร?” เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป
ต้าหวงที่ได้ยินก็ต้องหยุดคิดขึ้นมาทันที
เพราะในสายตาของจักรพรรดิเที่ยงนั้นเรื่องของจักรพรรดิเซียนมันก็แค่เรื่องเล็กน้อย
สังหารจักรพรรดิเซียนนั้นมันง่ายเหมือนบี้มด มีหรือที่พวกเขาจะเดินทางออกมาแสนไกลเพื่อบี้มดตัวเดียว?
ตามแผนที่ทะเลนี้พวกเขาคงเดินทางมาได้ไม่ถึงครึ่งของดินแดนทะเลพันทานตะวัน
ทะเลระดับจักรพรรดิเที่ยงนั้นมันยิ่งใหญ่มาก เรียกได้ว่าใหญ่กว่าทะเลเจ็ดสมุทรนั้นเป็นหมื่นๆ เท่า!
ต่อให้เย่หยวนจะรีบร้อนแค่ไหนมันก็คงต้องใช้เวลาอย่างน้อยๆ ปีหรือสองปีกว่าจะเดินทางพ้นเขตแดน
มันไม่อาจจะหนีได้พ้นเลย
แต่จู่ๆ เย่หยวนก็ผงะลุกขึ้นยืน “พวกมันมาแล้ว! สองจักรพรรดิเซียนขั้นสุด!”
ต้าหวงที่ได้ยินนั้นก็ต้องรีบตั้งตัวเตรียมรับการโจมตีทันที
หลังจากผ่านไปได้อีกหลายอึดใจในที่สุดเหล่ายอดฝีมือนับสิบๆ ก็ได้โผล่ขึ้นมาพ้นผิวน้ำ
หลังจากลองมองและนับดูดีๆ แล้วจำนวนของจักรพรรดิเซียนที่มาในครั้งนี้มันมีมากกว่าหกสิบคน มากกว่าครั้งก่อนเป็นเท่าตัว!
จิงหลานนั้นเดินขึ้นมาร้องกล่าวต่อหน้าเย่หยวน “เจ้าหนู เจ้ากล้ามาก่อเรื่องในทะเลพันทานตะวันเรานี่คิดเบื่อชีวิตแล้ว?”
“เย่ผู้นี้ไม่ได้มาก่อเรื่อง แค่ว่าน้องข้ามันขี้เล่นเกินไปหน่อยทำให้สร้างเรื่องไว้มาก ความผิดของนางนั้นข้าจะรับมันไว้เอง!”
คำพูดของเย่หยวนนั้นมันซื่อตรงอย่างไม่สนใจใคร
เขาย่อมจะไม่คิดส่งจิงเฟยไปแน่
ในเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วเขาก็มีแต่ต้องแบกรับความผิดให้แก่นาง!
จิงหลานนั้นหัวเราะตอบกลับมา “แค่จักรพรรดิเซียนขั้นต้นก็คิดจะรับความผิดของนางไว้แทนได้?”
เย่หยวนตอบกลับไปตรง “ข้าจะรับมันได้หรือไม่เจ้าก็ต้องลองดูก่อน!”
“ได้ เช่นนั้นข้าจะขอลองหน่อยแล้ว!”
จิงหลานนั้นร้องตอบก่อนจะต่อยหมัดออกมา
วาฬยักษ์ปรากฏขึ้นโจมตีเย่หยวนในทันที
เย่หยวนต้องเลิกคิ้วสูงเมื่อได้เห็นเพราะว่าเขาคนนี้กลับเป็นยอดฝีมือแปลงยอดเต๋า
แต่เย่หยวนก็ไม่คิดลังเลต่อยหมัดกลับออกมา
ตูม!
ผิวทะเลสั่นสะท้านพร้อมๆ กับตัววาฬยักษ์นั้นที่สลายกลับกลายเป็นน้ำไปด้วยหมัดนี้ของเย่หยวน!
การประมือนี้มันซัดเหล่าจักรพรรดิเซียนคนอื่นๆ จนลอยลิ่วไป
แค่นี้มันก็ชัดเจนแล้วว่าพลังของคนทั้งสองนั้นแข็งแกร่งปานใด
จิงหลานนั้นหรี่ตาลงด้วยความตื่นตะลึงต่อฝีมือของเย่หยวน
“ที่แท้เป็นผู้บ่มเพาะนอกรีต! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเจ้าถึงได้เก่งกาจนัก!” จิงหลานนั้นร้องขึ้น
เย่หยวนที่ได้ยินก็ต้องผงะถามไป “เจ้ากลับรู้จักผู้บ่มเพาะนอกรีตด้วย?”
จิงหลานนั้นตอบกลับมาด้วยท่าทางภาคภูมิ “มันแปลกอะไรเล่า? ในทะเลนั้นมียอดอัจฉริยะมากเท่าใด มันย่อมจะมีคนที่ถูกสวรรค์ริษยาอยู่บ้าง! แต่ว่าเมื่อเจ้าก้าวขึ้นมาในเส้นทางนี้แล้วชีวิตของเจ้ามันก็คงเหลือน้อยเต็มที! ส่งนังเด็กนั่นมาแล้วข้าจะปล่อยให้เจ้าได้ใช้ชีวิตสั้นๆ ของเจ้าอย่างสงบ”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ชีวิตที่เหลือของข้านั้นยืนยาวจนเกินนับ ไม่ต้องมาห่วงข้าหรอก”
จิงหลานนั้นหัวเราะตอบกลับไป “ไอ้หนู เลิกหลงตัวเองก่อนเถอะ! ต่อให้จะเป็นผู้บ่มเพาะนอกรีตในทะเลเราแต่เมื่อบ่มเพาะขึ้นไปถึงชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงได้แล้วพวกเขาต่างก็ต้องตายลงเพราะเต๋าทุกข์ทั้งสิ้น ไม่มีใครรอดมันไป! เจ้าเอาอะไรมามั่นใจว่าตัวเองจะรอดกัน?”
เย่หยวนยิ้มตอบไป “เพราะชะตาของข้านั้นอยู่ในมือข้า ไม่ต้องพึ่งสวรรค์!”
จิงหลานนั้นหัวเราะตอบกลับไป “ดูท่าเจ้ามันจะเป็นพวกไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาสินะ! ซิงเหยา โจมตีมันพร้อมกันเถอะ!”
อีกด้านนั้นซิงเหยาก็พยักหน้ารับก่อนจะพุ่งตัวหายไป
เหล่าจักรพรรดิเซียนทั้งหลายที่ได้เห็นเช่นนั้นต่างต้องถอยหนีไปไกล
วินาทีต่อมามันก็เกิดดาวห้าแฉกขึ้นมารอบตัวเย่หยวน
เย่หยวนหน้าเปลี่ยนสีรู้สึกได้ถึงความอันตราย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...