“ก็นึกว่าจะต้องตายแน่แล้ว ไม่นึกเลยว่าข้ากลับยังฟื้นมาได้!”
“แม่ทัพสูงเย่หยวนจงเจริญ! แม่ทัพสูงเย่หยวนเก่งล้ำฟ้า!”
“แม่ทัพสูงเย่หยวนสร้างคุณใหญ่โตมหาศาล ท่านนั้นคือวีรบุรุษของทวีปสวรรค์แรกอย่างแท้จริง!”
…
หลังจากที่เหล่าคนไข้ทั้งหลายเริ่มหายจากอาการเลือดกัดกร่อนแล้วทหารทั้งค่ายสวรรค์แรก ต่างก็โห่ร้องขึ้นมาตามๆ กัน
ก่อนหน้านี้แม้ว่าเลือดกัดกร่อนมันจะถูกสะกดไว้แต่ว่าพวกเขาก็ไม่เคยจะดีอกดีใจกันได้ขนาดนี้
ตอนนี้เหมือนว่าในค่ายสวรรค์แรกนั้นมันมีงานเลี้ยงใหญ่กันก็ไม่ปาน
ไม่มีใครคิดฝันว่าพิษเลือดกัดกร่อนนั้นมันจะหายลงได้จริงๆ!
มันเหมือนพวกเขาได้หายจากโรคที่ไม่มีทางรักษา ความรู้สึกที่เหมือนได้เกิดใหม่นี้มันทำให้พวกเขาดีใจจนแทบจะคลั่ง เพราะฉะนั้นตอนนี้ชื่อของเย่หยวนมันจึงกลายเป็นเหมือนคำศักดิ์สิทธิ์ในค่ายไป
เหล่าทหารที่ได้รับการรักษานั้นต่างเทิดทูนเย่หยวนเป็นดั่งเทพ
เรื่องที่ไม่มีใครทำได้มาตลอดหลายพันปี เย่หยวนกลับสามารถทำมันได้สำเร็จในที่สุด!
โรคที่ไม่มีทางหายกลับหายได้ด้วยมือเขาคนนี้!
จ่าวเฉินนั้นกอดเสียวอี้ผิงแน่นก่อนจะยิ้มกว้างกล่าวขึ้น “น้องข้า เราจะได้มีโอกาสร่วมศึกด้วยกันอีกครั้งแล้ว! ครั้งนี้เราจะต้องร่วมมือกันล่าสังหารพวกเผ่าเลือดให้มันหมดสิ้นแผ่นดินให้จงได้!”
เสียวอี้ผิงพยักหน้ารับ “นายท่านวางใจเถอะ เรามีกำลังเต็มที่กันขนาดนี้แล้ว เราย่อมจะไปสั่งสอนพวกเผ่าเลือดเวรนั่นให้มันรู้ซึ้งได้แน่!”
“ต้องขอบคุณแม่ทัพเย่จริงๆ! หากไม่ได้ท่านแล้วเราคงไม่มีทางได้ลงสนามรบอีกแน่” จ่าวเฉินกล่าว
“แม่ทัพเย่ท่านช่างเก่งกาจราวกับเทพสวรรค์! สิ่งที่นิกายยาสุดล้ำทำไม่ได้มานับพันๆ ปีแต่ท่านนั้นกลับสามารถทำได้ในเวลาเดือนกว่าๆ! มันจะเหนือล้ำเกินไปแล้ว! จะสุดยอดไปถึงไหนกัน!”
พูดถึงเย่หยวนเสียวอี้ผิงและพี่น้องทหารทั้งหลายต่างก็แสดงสีหน้าท่าทางสุดเคารพขึ้นมาทันที
ความเคารพนี้มันเกิดขึ้นมาจากส่วนลึกของหัวใจ
หนึ่งครั้ง สองครั้ง สามครั้ง สี่ครั้ง!
เย่หยวนนั้นได้สร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่าจนเอาชนะใจทุกผู้คน!
เวลาครึ่งเดือนที่ผ่านมานี้เย่หยวนได้พาพวกเซียวชานทั้งหลายออกเดินทางรักษาทหารสี่พันกว่าคนนั้นที่ติดพิษเลือดกัดกร่อนอย่างไม่หยุดพัก
ตอนนี้มันเหลือเวลาอีกไม่ถึงเดือนแล้วก่อนที่เส้นทางมิตินั้นจะสมบูรณ์
ที่สำคัญไปกว่านั้นเผ่าเลือดเองยังส่งกำลังผ่านเส้นทางมิติมาทุกๆ วัน
มันจะช้าไปกว่านี้ไม่ได้!
แม้ว่าทหารเบื้องล่างนั้นจะตื่นเต้นดีใจกันแค่ไหนแต่ว่าเหล่าแม่ทัพเบื้องสูงนั้นต่างนั่งหน้าเครียด
“จะช้าไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว! ตอนนี้ทางใต้นั้นได้ส่งข่าวมาบอกว่าสงครามทางนั้นหนักหน่วงมาก จนทำให้เกิดความเสียหายใหญ่หลวง! ไม่กี่วันก่อนนั้นแม้แต่เจ้าโลกเฟิงเล่ยท่านเองยังถูกเจ้าโลกชิเออของเผ่าเลือดทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส เวลานี้ทางใต้ส่งกำลังมาเพิ่มให้เราอีกหนึ่งหมื่นแต่มันก็เรียกได้ว่าเกินขีดกำจัดที่พวกเขาจะส่งมาได้แล้ว!” ตานเฟยกล่าวขึ้นด้วยหน้าเคร่งเครียด
ได้ยินเช่นนั้นเหล่ามหาจักรพรรดิคนอื่นๆ เองก็ต้องกัดฟันแน่น
เพราะแม้แต่เจ้าโลกยังบาดเจ็บสาหัส แสดงว่าสภาพสงครามทางใต้ในตอนนี้มันคงรุนแรงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ทหารทั้งหมื่นที่ถูกส่งมาเสริมทางเหนือนี้มันคงเรียกได้ว่าเป็นน้ำหยดสุดท้ายที่พวกเขาจะได้รับแล้ว
เพราะอย่างไรเสียหากแดนเหนือแตกพ่ายลงแล้วเขตแดนสวรรค์สัมบูรณ์เองก็คงไร้ค่าลงทันที
“ระหว่างนี้เผ่าเลือดก็ได้ส่งมหาจักรพรรดิเดินทางผ่านเส้นทางมิติมาอีกสามคน ศึกครั้งนี้มันคงยากกว่าเก่ามากแน่!” จั่วเฉินกล่าวขึ้นเสริม
“ไม่ว่ามันจะยากแค่ไหน ก็ต้องสู้! ต่อให้แดนเหนือเราต้องสู้จนเหลือแค่ทหารคนสุดท้ายเราก็ต้องเข้าไปทำลายเส้นทางมิติลงให้ได้! ไม่เช่นนั้นแล้วผลลัพธ์ที่ตามมามันคงเลวร้ายเกินรับได้!” ตานเฟยนั้นกล่าวขึ้น
เขานั้นเข้าใจดีว่าศึกครั้งนี้มันจะต้องหนักหนากว่าครั้งก่อนมากแน่!
เพราะว่าครั้งนี้มันต่างเป็นศึกสุดท้ายตัดสินแพ้ชนะของสงครามกันแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับฝ่ายพันธมิตรสวรรค์แรก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...