จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2829

สรุปบท ตอนที่ 2829 พี่น้องโปรดวางใจ!: จอมเทพโอสถ

อ่านสรุป ตอนที่ 2829 พี่น้องโปรดวางใจ! จาก จอมเทพโอสถ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 2829 พี่น้องโปรดวางใจ! คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายAction จอมเทพโอสถ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 2829 พี่น้องโปรดวางใจ!
“แม่ทัพจักรพรรดิเที่ยงทั้งหมดไปสังหารมันลงให้ได้!”

เซี่ยหลิงนั้นเห็นถึงอันตรายของเย่หยวนจึงได้สั่งการให้แม่ทัพทั้งหลายมุ่งหน้าไปสังหารเย่หยวนลงทันทีที่ได้เห็น

แต่ว่ารอบตัวเย่หยวนนั้นมันก็มีกองทัพจักรพรรดิเที่ยงปกป้องอยู่เช่นกัน

เหล่าแม่ทัพ แม่ทัพสูงรวมถึงตัวหมิงยี่แม่ทัพใหญ่คนนี้ต่างปล่อยสนามรบส่วนอื่นๆ ไปเพื่อมาป้องกันเย่หยวนสิ้น

“น้องเย่ ข้าจะขอคืนชีวิตนี้ให้แก่เจ้าแล้ว! หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้เราผิดหวังกัน!”

“ซ่งเหมียว เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?”

“ฮ่าๆ ชีวิตของข้านี้มันมิใช่ของข้ามานานแล้ว! ตราบเท่าที่สามารถใช้มันทำลายเผ่าเลือดเจ้าลงได้มันก็ถือว่าชีวิตข้ามีค่ามากแล้ว!”

ซ่งเหมียวนั้นพุ่งตัวออกไปปะทะกับจักรพรรดิเที่ยงคนหนึ่งที่มีพลังฝีมือเทียบเคียงกับตัวเขา

คนทั้งสองนั้นต่อสู้กันจนฟ้าดินแตกแยกเลือดไหลอาบท่วม

ตอนนี้ซ่งเหมียวไม่คิดรักษาชีวิตของตัวเองอีกต่อไป ใช้วิธีการต่อสู้ที่บ้าคลั่งอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน และมันมิใช่แค่ซ่งเหมียวเท่านั้น หมิงยี่เองก็เข้าปะทะกับแม่ทัพใหญ่ของเผ่าเลือดอย่างเซี่ยหลิงอยู่เช่นกัน

สองมหาจักรพรรดิครึ่งก้าวเข้าปะทะกันนี้มันย่อมจะรุนแรงจนฟ้าดินเปลี่ยนสีมิติแตกระแหง

เซี่ยหลิงนั้นคิดจะผ่านหมิงยี่หลบเข้าไปสังหารเย่หยวนแต่ด้วยการต่อสู้อันไม่คิดชีวิตของหมิงยี่นั้นจึงทำให้เซี่ยหลิงไม่อาจจะหาโอกาสได้แม้แต่น้อย

เผ่าเลือดนั้นไม่กลัวตายแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปล่อยให้คนมาสังหารง่ายๆ

ยอดฝีมือระดับหมิงยี่นั้นหากมีโอกาสเข้าแล้วเขาคงสามารถจัดการลบล้างตัวเซี่ยหลิงได้แน่

เซี่ยหลิงนั้นเก่งกว่าหมิงยี่เพียงแค่เล็กน้อย

แต่หมิงยี่นั้นไม่กลัวเจ็บไม่กลัวตายและต่อสู้อย่างไม่สนว่าจะโดนพิษเลือดกัดกร่อนหรือไม่ เป็นการต่อสู้แลกชีวิตโดยแท้

เซี่ยหลิงนั้นตกตะลึงนี่หมิงยี่คลั่งไปแล้วหรือ?

บ่มเพาะมาจนถึงระดับมหาจักรพรรดิครึ่งก้าวได้นั้นมันยากแค่ไหน?

แต่เจ้าบ้านี่กลับไม่สนใจจะรักษาชีวิตแล้ว!

พริบตาเดียวนั้นร่างของหมิงยี่ก็เต็มไปด้วยแผล แต่ฝ่ายเซี่ยหลิงเองก็แทบจะแตกสลายลงไปหลายครั้งเช่นกัน

“เฒ่าจาง ข้าจะจับมันไว้เจ้าไม่ต้องสนใจข้า สังหารมันไปพร้อมๆ กับข้าเลย!”

จักรพรรดิเซียนขั้นปลายคนหนึ่งของฝ่ายสวรรค์แรกร้องขึ้นมาก่อนจะไปจับตัวจักรพรรดิเซียนของเผ่าเลือดไว้

เฒ่าจางคนนั้นมีน้ำตาไหลออกมาแต่ก็ยังต่อยหมัดออกไปอย่างสุดแรงเกิดไม่มีการออมมือ

คนเผ่าเลือดและยอดฝีมือสวรรค์แรกทั้งสองนั้นแตกสลายหายไปทันที และภาพเช่นนี้มันก็เกิดขึ้นทั่วทุกแห่งบนสนามรบ

ศึกครั้งนี้เหมือนเครื่องบดเนื้อ เหล่าจักรพรรดิเซียนผู้เก่งกาจนั้นมันไม่อาจจะต่อต้านเครื่องบดเนื้อนี้ได้เลย

เพราะฝ่ายทัพสวรรค์แรกนั้นไม่คิดสนใจกลัวตายกันเลย ต่อให้จะต้องตายพวกเขาก็ต้องทำให้ศัตรูบาดเจ็บอย่างสาหัสเช่นกัน

แม้ว่าทัพของเผ่าเลือดนั้นมันจะเป็นทัพหัวกะทิแต่ว่าพวกเขานั้นก็ไม่อาจต้านทานความคลั่งของทัพสวรรค์แรกได้

จำนวนคนของทัพสวรรค์แรกนั้นมันลดฮวบลงไปอย่างเห็นได้ชัด

แต่พวกเขานั้นไม่กลัว!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งรอบๆ ตัวเย่หยวนนั้นหากมีใครตายมันก็จะมีคนเข้ามาประจำที่แทนอย่างรวดเร็ว

พวกเขานั้นเหมือนดั่งมีดที่เฉือนเข้าไปกลางทัพเผ่าเลือดจนทำให้เกิดช่องโหว่ขึ้นทันที

ตูม!

จักรพรรดิเที่ยงคนหนึ่งตายลงภายใต้หมัดของเผ่าเลือด!

ใบหน้าของเย่หยวนกระตุกขึ้นทันทีแต่มือของเขาก็ยังไม่หยุดลงและสังหารจักรพรรดิเซียนเผ่าเลือดลงไปอีกคน

ตราบเท่าที่เขาไม่ต้องเผชิญหน้ากับจักรพรรดิเที่ยงเขาก็สามารถจะสังหารจักรพรรดิเซียนเผ่าเลือดทั้งหลายได้เหมือนแค่บี้มดปลวก

แต่ว่าจักรพรรดิเที่ยงที่ปกป้องเขาอยู่รอบๆ ก็ค่อยๆ ลดจำนวนลงไปเรื่อยๆ

เย่หยวนนั้นได้แต่ต้องกัดฟันแน่น ชีวิตของเขามีค่ากว่าคนพวกนี้ขนาดไหนกันเล่า?!

เพราะคำพูดเดียวของเขาคนทั้งหลายในทัพสวรรค์แรกกลับกล้าแม้แต่จะทิ้งชีวิตเพื่อปกป้องเขา!

พวกเขานั้นบุกสังหารอย่างบ้าคลั่งมานี้ก็เพื่อจะส่งตัวเขาให้เข้าไปถึงใจกลางของกองทัพเผ่าเลือด

หมิงยี่ ซ่งเหมียว จ่าวเฉิน เสียวอี้ผิงแม้แต่เซียวชานและเต้าเฉินเองก็ยังต่อสู้อย่างไม่ยอมแพ้

เย่หยวนร้องลั่นขึ้นพร้อมยกมือตั้งท่าเป็นความสง่าที่ราวกับเทพมาร!

ทหารเผ่าเลือดทั้งหลายนั้นต่างถอยหลังเปิดทางให้เย่หยวนอย่างไม่รู้ตัว

เมื่อเซี่ยหลิงได้เห็นเช่นนั้นเขาก็ต้องร้องลั่นขึ้นมาอย่างไม่พอใจ “พวกเจ้าเป็นแค่สุนัขหรือ? ไปฆ่ามัน! อย่าปล่อยมันไป!”

แม้ว่าเขานั้นจะรู้ว่าต่อให้เย่หยวนเข้าไปถึงมันก็คงไม่อาจจะสร้างความเสียหายอะไรให้เส้นทางมิติได้แต่เขานั้นกลับรู้สึกกลัวท่าทางมั่นใจของเย่หยวนอย่างไม่ทราบที่มา

แต่ต่อให้จะกลัวแค่ไหนมันก็ไม่อาจหยุดเย่หยวนได้

เพราะว่าเผ่าเลือดทั้งหลายนั้นกำลังกลัวเย่หยวนกันสิ้น!

หลายปีมานี้เผ่าเลือดมักจะได้ชัยเสมอๆ พวกเขาไม่เคยต้องเจอศึกที่น่าอดสูเช่นนี้มาก่อน เพราะฉะนั้นกำลังของเย่หยวนมันจึงเป็นที่หวาดหวั่นอย่างมาก

กลับกันแล้วทางด้านทัพสวรรค์แรกนั้นเหมือนพวกเขาได้เสียสติกันไปสิ้น เข้าโจมตีเผ่าเลือดอย่างไม่สนชีวิตจนตอนนี้เริ่มจะได้เปรียบขึ้นมา

ในศึกใหญ่เช่นนี้เป้าหมายที่ควรจดจ่อนั้นคือคนที่อ่อนแอกว่าตนเอง จักรพรรดิเซียนเผ่าเลือดทั้งหลายนั้นรู้ดีว่าเย่หยวนมิใช่เป้าหมายของตนเองจึงถอยออกมาอย่างไม่รู้ตัว

หากเป็นเช่นนั้นจริงก็ปล่อยมันไป!

ตราบเท่าที่คนอื่นไม่ได้ตามไปแล้วเย่หยวนคนเดียวย่อมจะไม่มีทางทำลายเส้นทางมิติลงได้แน่

เย่หยวนนั้นต่อยหมัดออกไปกำจัดเผ่าเลือดคนสุดท้ายที่กล้ามาหยุดเขา!

เบื้องหน้าของเขานั้นมันไม่มีใครอีกต่อไปแล้ว!

เผ่าเลือดนั้นได้ถูกสังหารจนเปิดทางหลบให้เขาได้เดินไปง่ายๆ!

เขาออกมาจากความชุลมุนได้ในที่สุด!

หมิงยี่นั้นเห็นว่าเย่หยวนหลุดออกไปได้จึงร้องขึ้นอย่างดีใจแม้ร่างกายนั้นจะเต็มไปด้วยบาดแผล “เย่หยวน รีบๆ ไปเสีย! ที่เหลือเราจะจัดการต่อกันเอง!”

“เย่หยวน เรื่องนี้ต้องฝากเจ้าแล้ว! ต่อให้ข้าจะถูกดูดเลือดไปจนหมดตัวซ่งผู้นี้ก็จะไม่ขอหยุดต่อสู้!” ซ่งเหมียวนั้นร้องขึ้นมาตามด้วยเลือดที่ท่วมกาย

เย่หยวนพยักหน้ารับก่อนจะร้องตอบกลับไป “พี่น้องโปรดวางใจ เย่ผู้นี้จะไม่ทำให้การเสียสละของพวกท่านต้องเสียเปล่าแน่!”

พูดจบเขาก็มุดหายเข้าไปในห้วงมิติลับสายตาทุกคนไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ