เหลียนยี่นั้นร้องขึ้นมาก่อนจะยิงพลังงานสีแดงฉานออกไปจากปลายนิ้ว
คลื่นพลังรุนแรงนั้นมันระเบิดออกกลางอากาศส่งร่างของตานเฟยที่อยู่ตรงหน้านางนั้นปลิวไปไกลลิบ
ตานเฟยนั้นกระอักเลือดออกมาสภาพของเขานั้นอาบเลือดตั้งแต่หัวจรดเท้า
การต้องมารับมือยอดฝีมืออย่างเหลียนยี่นี้ต่อให้เขาจะใช้ฝีมือที่มีทั้งหมดออกมามันก็ไม่อาจจะชิงความได้เปรียบมาครองได้
“ข้ารู้แผนเจ้าดี เจ้ามันคนขยันแต่แค่กำลังของเจ้าคนเดียวนั้นย่อมจะไม่มีทางถ่วงข้าไว้ได้แน่!” เหลียนยี่ยิ้มเย้ยตานเฟยขึ้นมา
นางนั้นย่อมรู้แผนของตานเฟยดีแต่น่าเสียดายที่เมื่อนางมาถึงแล้วแผนถ่วงเวลาใดๆ นั้นมันก็ย่อมจะเสียเปล่า
ตานเฟยนั้นใช้ไม้ตายออกมาครั้งแล้วครั้งเล่าแต่กลับยังไม่อาจเอาชนะเหลียนยี่ได้แม้แต่ครั้งเดียว
หลี่เหอนั้นเมื่อไม่มีตานเฟยเป็นคู่มือมันก็ต้องใช้ทั้งจั่วเฉินและหลู่เฟิงร่วมมือกันกว่าจะหยุดเขาไว้ได้
ส่วนคนที่เหลือนั้นยิ่งมีสภาพย่ำแย่กว่า
มหาจักรพรรดิของทัพสวรรค์แรกนั้นต่างกำลังตกอยู่ในห้วงวิกฤต
ในเวลาไม่กี่วินาทีหลังจากตานเฟยตายลงตัวเหลียนยี่เองก็คงจะเข้าร่วมสมทบกับคนอื่นๆ ได้ มันย่อมจะกลายเป็นหายนะแน่นอน
ตานเฟยนั้นกัดฟันแน่นกล่าวตอบไป “มันก็แค่ตายแหละวะ!”
พูดจบเขาก็พุ่งตัวออกมามุ่งหน้าไปทางเส้นทางมิติอย่างไม่สนใจอาการบาดเจ็บใดๆ อีก
เป้าหมายของเขานั้นมิใช่การสังหารเหลียนยี่มาแต่แรกแต่เป็นการทำลายเส้นทางมิติ
น่าเสียดายที่เขานั้นไม่อาจจะผ่านตัวเหลียนยี่ไปได้
แต่จู่ๆ เขาก็ต้องหยุดร่างลงจนทำให้ฝ่ายเหลียนยี่นั้นต้องขมวดคิ้วขึ้นมา “หือ? มันกลับมีหนูหลุดเข้ามาได้หรือ? เซี่ยหลิงนี่มันไร้ประโยชน์เสียจริง!”
ตานเฟยนั้นสั่นสะท้านไปทั้งกายเพราะคนที่กำลังมุ่งหน้าไปยังเส้นทางมิติมันคือเย่หยวน!
มหาจักรพรรดินั้นสามารถมองฟ้าดินได้ทะลุปรุโปร่ง จิตของพวกเขามันย่อมจะกินพื้นที่ใหญ่โต
เมื่อเย่หยวนก้าวออกมาเขาก็ย่อมจะสัมผัสได้ทันที
ตานเฟยนั้นยิ้มกว้างขึ้นมาเหมือนได้เห็นความหวังท่ามกลางความมืดมิด
ได้เห็นหน้าตานเฟยนั้นเหลียนยี่ก็ต้องกล่าวขึ้นอย่างดูถูก “เจ้าคิดมากไปหรือไม่? แค่จักรพรรดิเซียนคนเดียวนั้นต่อให้มันจะไปถึงเส้นทางมิติได้มันก็ไม่มีทางสร้างความเสียดายใดได้หรอก มันจะทำอะไรได้? ที่สำคัญข้ายังสัมผัสได้ถึงเลือดของท่านหวู่เยวี่ยว่าท่านนั้นใกล้ถึงปากทางเข้าเส้นทางมิติเต็มทีแล้ว!”
ตานเฟยนั้นต้องขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา เพราะนี่มันเป็นเรื่องไม่ดีแน่แล้ว!
หากหวู่เยวี่ยมาถึงแล้วต่อให้เย่หยวนจะเก่งกาจแค่ไหนมันก็คงไม่อาจรอดชีวิตได้
ได้เห็นสีหน้าของตานเฟยนั้นเหลียนยี่ก็ยิ้มขึ้นมา “ดูท่าเจ้าจะยังตั้งความหวังกับมันอยู่นะ ช่างเถอะ เช่นนั้นข้าจะช่วยดับความหวังของเจ้านั้นให้เอง!”
ตานเฟยนั้นหน้าซีดขาวลงทันทีแต่มันก็สายเกินไปแล้ว!
เหลียนยี่นั้นโจมตีออกไปด้วยปลายนิ้วยิงพลังงานเลือดรุนแรงเข้าหาเย่หยวนทันที
พลังของมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์นั้นมันย่อมจะสามารถทำลายล้างจักรพรรดิเซียนลงได้อย่างง่ายดายไม่ต้องลงแรงใดๆ ให้มากมาย
ตานเฟยนั้นไม่ลังเลพุ่งมือออกไปคิดหวังหยุดรับพลังของเหลียนยี่ไว้ด้วยร่างกายตัวเอง
เหลียนยี่เองก็ไม่คิดจะหยุดและยิ้มกล่าวขึ้นมา “ไม่มีประโยชน์หรอก แค่จักรพรรดิเซียนน้อยคนหนึ่งมันต่างอะไรจากมดเล่า? ต่อให้เจ้าจะรับได้ทันแต่แรงสะท้อนที่ผ่านไปมันก็คงสังหารมันลงได้อย่างเกินพอ!”
ตูม!
เสียงของนางยังไม่ทันจางหายมันก็เกิดเสียงระเบิดขึ้นที่ขอบฟ้า คลื่นพลังงานรุนแรงนั้นมันเหมือนพลุไฟที่ระเบิดออกจนฟ้าดินสั่นสะท้าน
“เหลียนยี่เจ้าสารเลว!”
ตานเฟยนั้นคับแค้นสุดใจเพราะความหวังของเขามันกลับดับลงง่ายๆ เช่นนี้!
เขานั้นเข้าใจว่าไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิเซียนที่เก่งล้ำฟ้าแค่ไหนมันก็คงไม่อาจจะหลบจากแรงกระแทกนี้ไปได้
“หึๆ น่าสนใจนี่ เจ้าดูไม่พอใจมาก หรือว่าเจ้าจะคาดหวังไว้กับจักรพรรดิเซียนตัวน้อยแค่คนเดียวนั้นจริง? ตอนนี้ถึงได้ผิดหวังปานนี้?” เหลียนยี่หัวเราะขึ้น
การเห็นสีหน้าสิ้นหวังของศัตรูนั้นคือสิ่งที่นางชอบที่สุดในการต่อสู้
ตอนนี้มิใช่แค่ตานเฟยแต่เหล่ามหาจักรพรรดิของทัพสวรรค์แรก ต่างก็แสดงสีหน้าสิ้นหวังออกมาตามๆ กัน
เจ้าหนุ่มคนนี้มันแตกต่างจากคนอื่นมากจริงๆ
แต่ว่าคนตายมันย่อมไร้ค่าใด
แต่จู่ๆ สีหน้าของเหลียนยี่ก็ต้องเปลี่ยนไปก่อนจะร้องขึ้น “หือ? มันกลับยังไม่ตาย? เป็นไปได้อย่างไรกัน?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...