“ทำไมเล่า? ข้าทำไม่ได้?” เย่หยวนถามกลับไป
หวู่เจียงนั้นยิ้มขึ้นมาอย่างเย็นเยือก “มีฝีมือนิดหน่อยก็คิดว่าตัวเองเหนือล้ำฟ้าหรืออย่างไร! แค่จักรพรรดิเซียนคนหนึ่งนี้เจ้ากลับกล้ามาอวดอ้างตัวตนต่อหน้านิกายยาสุดล้ำเรา เจ้าไปเอาความกล้านี้มาจากที่ใด?”
เย่หยวนนั้นตอบกลับไปอย่างไม่หันหลังไปมอง “นิกายยาสุดล้ำนั้นคือนิกายเดียวของทวีปสวรรค์แรกที่ยังอยู่ครบดีและยังเป็นนิกายโอสถอันดับหนึ่งด้วย ในสงครามกับเผ่าเลือดศิษย์ของนิกายยาสุดล้ำมากมายได้ต่อสู้บนสนามรบและรักษาคนเจ็บนับไม่ถ้วน สร้างชื่อเสียงความนับถือขึ้นมา แต่พวกเจ้านั้นกลับยืนมองปล่อยคนนับหมื่นๆ ตายไปตรงหน้า พวกเจ้าช่างใจเหี้ยมโหด! ชื่อเสียงของนิกายยาสุดล้ำมันเสียลงก็เพราะคนอย่างพวกเจ้านี้!”
คนทั้งหลายที่ได้ยินต่างก็ต้องพยักหน้าขึ้นตามๆ กัน
นิกายยาสุดล้ำนั้นมีชื่อเสียงยิ่งใหญ่ล้ำฟ้าขึ้นมาหลังจากเกิดสงคราม
เพราะนอกจากศิษย์ของนิกายยาสุดล้ำนั้นจะลงไปสู้ในสนามรบด้วยตัวเองแล้วพวกเขานั้นยังทำหน้าที่แพทย์สนามรักษาคนเจ็บมากมาย
หากพูดกันถึงชื่อเสียงของนิกายยาสุดล้ำมันก็ไม่แปลกที่พวกเขาจะกลายเป็นนิกายอันดับหนึ่งในปัจจุบันไป!
แต่ก็เพราะว่าเรื่องนี้ที่มันทำให้ศิษย์หลายคนของนิกายยาสุดล้ำเย่อหยิ่งผยองตัวขึ้นมา
เต้าเฉินและพวกนั้นเองก็ใช่ พวกหวู่เจียงนั้นเองก็ไม่ต่างกัน
หากจะให้พูดถึงคุณประโยชน์แล้วพวกหวู่เจียงที่มีพลังบ่มเพาะแค่นี้ย่อมจะไม่อาจสร้างคุณได้มากมาย
แต่พวกเขานั้นเกาะกินชื่อเสียงของนิกายยาสุดล้ำและทำลายชื่อเสียงของนิกายยาสุดล้ำไปพร้อมๆ กัน
ในเมื่อเย่หยวนเข้านิกายมาแล้วเขาก็ย่อมจะยุ่งกับเรื่องภายในได้
ที่สำคัญไปกว่านั้นพวกหวู่เจียงและเฉียนหนานยังแย่กว่าพวกเต้าเฉินไปมาก ยืนมองดูคนตายไปต่อหน้าอย่างไม่คิดจะขยับแม้แต่นิ้วมือ สิ่งนี่คือสิ่งที่เย่หยวนไม่มีทางยอมรับได้เป็นอันขาด
เมื่อหวู่เจียงได้ยินเขาก็ยิ้มขึ้นมาแทน “โอ้ ว้าว เจ้าเป็นแค่จักรพรรดิเซียนนั้นแต่กลับมาพูดถึงเรื่องชะตากรรมของเผ่าพันธุ์ใด! แต่หากเจ้าอยากจะอวดอ้างตัวเจ้าไม่คิดว่าตัวเองเลือกคู่มือผิดไปหน่อยหรือ? เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน? ถึงกล้ามาสั่งสอนจักรพรรดิคนนี้?”
คนทั้งหลายนั้นต่างคิดว่าเย่หยวนบ้า
หากเจ้าแค่สั่งสอนจักรพรรดิเซียนอย่างเฉียนหนานมันยังพอรับได้
แต่นี่อาจารย์ลุงของเขามาแล้วเจ้ายังจะสั่งสอนเขาอีก?
คนทั้งสิบนี้มันเป็นถึงจักรพรรดิเที่ยง!
แต่เจ้านั้นมีจักรพรรดิเที่ยงมาด้วยแค่คนเดียว!
หวู่เจียงนั้นไม่คิดพูดพร่ำให้มากความรีบทำท่าสั่งให้จักรพรรดิเที่ยงทั้งหลายเข้าจู่โจมทันที
มันย่อมจะกลายเป็นเรื่องใหญ่เกินแก้แล้ว
คนทั้งหลายรอบๆ นั้นได้แต่ร้องขึ้นมาอย่างคับแค้นใจ บอกให้หนีไปแต่แรกแล้วแต่กลับไม่ยอมหนี ตอนนี้ต่อให้อยากหนีมันก็คงไม่อาจหนีได้แล้ว!
แต่ในตอนนั้นเองที่มันได้ปรากฏเงาร่างหนึ่งขึ้นมาขวางหน้าพวกหวู่เจียงไว้
เมื่อหวู่เจียงได้เห็นผู้มาถึงนั้นเขาก็ต้องยิ้มกว้างขึ้นคารวะทันที “หวู่เจียงคารวะอาจารย์ลุงฮั่วจง!”
“คารวะอาจารย์ลุงฮั่วจง!”
“คารวะอาจารย์ปู่ฮั่วจง!”
เหล่าจักรพรรดิเที่ยงและจักรพรรดิเซียนทั้งหลายนั้นต่างก้มหัวลงพร้อมๆ กัน
ฮั่วจงนั้นคือศิษย์ของจั่วเฉิน
แม้ว่าตอนนี้เขาจะมีพลังแค่ชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิเที่ยงขั้นสุดแต่ว่าเขานั้นก็เป็นศิษย์ของจั่วเฉินผู้ยิ่งใหญ่และย่อมจะมีรุ่นอาวุโสกว่าหวู่เจียงไปขั้นหนึ่ง
แน่นอนว่าหวู่เจียงเองก็ไม่คิดจะบ่นใดๆ ด้วย
เพราะอีกไม่นานฮั่วจงก็คงก้าวขึ้นอาณาจักรมหาจักรพรรดิได้!
มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์นั้นต่อให้จะเป็นแค่มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ขั้นต้น ก็มิใช่ตัวตนทั่วๆ ไปในนิกายอีกต่อไปแล้ว
เพราะฉะนั้นฮั่วจงนั้นจึงมีสถานะที่สูงส่งในนิกายยาสุดล้ำอย่างมาก!
ฮั่วจงนั้นพยักหน้ารับตอบกลับไป
แต่หวู่เจียงที่ได้เห็นเช่นนี้ก็ต้องยิ้มกว้างขึ้นมา “อาจารย์ลุงฮั่วจง ไอ้เด็กคนนี้มันคิดจะมาเอาชนะใจคนหน้านิกายยาสุดล้ำเราทั้งยังว่ากล่าวให้นิกายยาสุดล้ำต้องเสียหายและหักขาศิษย์ของนิกายเราลงด้วย อาจารย์ลุงช่วยทวงถามความยุติธรรมให้ข้าด้วยเถอะ!”
หวู่เจียงนั้นเป็นคนที่มากเล่ห์เช่นกัน ในเมื่อฮั่วจงมาถึงแล้วคนที่ต้องจัดการเรื่องมันก็ต้องเป็นฮั่วจง
จะแค่ตีหรือเอาถึงตายมันก็เป็นเขาที่ต้องตัดสินใจ
ฮั่วจงนั้นตอบกลับมาสั้นๆ “คุกเข่า”
หวู่เจียงและพวกนั้นต่างผงะถามขึ้นมา “อาจารย์ลุงฮั่วจง…”
ฮั่วจงนั้นขมวดคิ้วแน่นขึ้นพร้อมกับสั่ง “คุกเข่า!”
หวู่เจียงและพวกนั้นไม่กล้าขัดคำของฮั่วจงจึงได้แต่ต้องคุกเข่าลงก่อนถามอีกครั้ง “ศิษย์ไปทำอะไรให้อาจารย์ลุงไม่พอใจหรือไม่? อาจารย์ลุงฮั่วจงช่วยบอกกล่าวข้าด้วยเถอะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...