เจ้าโลกหยุนซานนั้นยิ้มกว้างขึ้นมากล่าวทันที “มันมีพรสวรรค์จริง แต่การที่บรรลุระดับลึกล้ำได้รวดเร็วปานนี้ก็เพราะว่าข้าทั้งนั้น!”
เจ้าโลกคนอื่นๆ ที่ได้ยินต้องเงียบปากลงทันที
เจ้าบ้านี่ช่างขี้อวดนัก!
ก่อนนั้นตอนที่เจ้าโลกโจวซ่งฉวนนั้นบรรลุขึ้นระดับเจ้าโลกมา เฒ่าคนนี้เองก็ป่าวประกาศไปทั่วทั้งโลกหล้า
คนทั้งหลายนี้เองต้องฟังมันจนหูชา
ยังดีที่ว่าตอนนี้มีสงครามใหญ่กันอยู่ไม่เช่นนั้นแล้วเรื่องนี้มันคงถูกเขียนเป็นกลอนป่าวประกาศให้ผู้คนทั้งแผ่นดินได้ยินได้ฟังแน่
พวกเขานั้นไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าบรรลุระดับลึกล้ำมาได้!
ตอนที่เหล่าเจ้าโลกทั้งหลายได้ยินนั้นพวกเขาย่อมจะต้องอ้าปากค้างไปทันที
ระดับหกบรรลุระดับลึกล้ำนั้นยังพอได้ยินมาบ้าง แต่จะเป็นเจ้าโลกได้หรือไม่นั้นมันก็ไม่แน่ เหมือนอย่างตัวโจวซ่งฉวน
แต่ระดับห้านั้นบรรลุระดับลึกล้ำมันเป็นอะไรที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!
“ฮ่าๆๆ…พวกเจ้าทั้งหลายนั้นวางท่าใหญ่โตกันมากมายแต่สุดท้ายก็อ่อนกว่าข้าทั้งนั้นในเรื่องการสอนศิษย์! ครั้งนี้ข้าจะปั้นผู้บ่มเพาะนอกรีตระดับเจ้าโลกคนแรกของสวรรค์ขึ้นมาเอง!”
“คนเฒ่าอย่างเราๆ นั้นต่อให้จะใช้เวลาเป็นหมื่นๆ ปี ก็ไม่แน่ว่าจะพัฒนาขึ้นไปได้อีก ทำไมไม่ใช้เวลาเหลือของเรานี้ไปสั่งสอนศิษย์และคนรุ่นหลังเอาเล่า? การเพิ่มจำนวนเจ้าโลกขึ้นมานั้นย่อมจะดีกว่า สงครามครั้งนี้ก็จะรบกันได้ง่ายดายขึ้นมาก!”
“…”
จะอวดก็อวดไป คิดว่าเราไม่มีสมองกันหรือ?
เจ้าโลกมันปั้นกันได้ง่ายๆ?
หากมันปั้นได้จริงแล้วทวีปสวรรค์แรกมันก็คงไม่ตกอยู่ในสภาพอย่างทุกวันนี้!
ได้เห็นคนทั้งหลายเงียบปากเช่นนั้นหยุนซานก็ยิ้มขึ้น “ซ่งฉวน เจ้าคิดว่าอย่างไรบ้าง? เจ้าเด็กนี่มีพรสวรรค์มากกว่า เจ้าไปแล้วจริงๆ!”
โจวซ่งฉวนนั้นตอบกลับไป “จะสำเร็จหรือไม่นั้นมันยังต้องรอดูกันอีกนาน!”
หยุนซานยิ้มขึ้นทันทีที่ได้ยิน “หึๆ ดูท่าเจ้าจะยังรู้จักอิจฉาคนอยู่บ้าง สมัยก่อนนั้นมันก็มิใช่ว่าจะไม่มีใครเก่งกว่าเจ้าในระดับหกแต่สุดท้ายพวกเขาก็จางหายไปกับฝูงชนกลายเป็นแค่คนธรรมดาไป แต่ศิษย์น้องของเจ้านี้ข้าว่ามันคงไม่จบเช่นนั้นแน่!”
โจวซ่งฉวนยิ้มตอบกลับไป “ที่อาจารย์ว่ามามันก็ถูก ศิษย์นั้นอิจฉาเขาอยู่หน่อยๆ จริง! แต่ว่าในสภาพตอนนี้หากศิษย์น้องบรรลุขึ้นเป็นเจ้าโลกมาได้ ก็คงจะเป็นประโยชน์กับเราได้อย่างมหาศาล!”
หยุนซานหัวเราะขึ้นเมื่อได้ยิน “ไอ้เด็กพวกนั้นคงแย่งกันจนแทบคลั่งแล้วล่ะมั้ง? ไม่ได้รู้เลยว่าเพชรเม็ดงามนี้มีเจ้าของแล้ว! หากพวกเขารู้ถึงตัวตนของเย่หยวนแล้วข้าว่าสีหน้าของพวกมันคงน่าดูทีเดียวใช่ไหม? ฮ่าๆๆ…”
…
“เย่หยวน ข้านั้นคือศิษย์พี่ของเจ้านิกาย ระดับอาวุโสของข้านั้นสูงที่สุดในนิกายแล้ว! หากเจ้ากราบข้าเป็นอาจารย์เจ้าย่อมจะได้ประโยชน์อย่างมหาศาลแน่นอน!”
“อย่าได้ไปฟังเขา เจ้าเฒ่านี้มันอ่อนแอที่สุดไม่เช่นนั้นก็คงไม่ได้มารับหน้าที่แค่คนเฝ้าห้องสมุดคัมภีร์หรอก! ข้านั้นต่างจากเขา ข้านั้นเก่งกาจที่สุดรองจากเจ้านิกาย! หากเจ้ากราบข้าเป็นอาจารย์แล้วเจ้าย่อมจะได้ทรัพยากรมหาศาลเกินนับ! เย่หยวน ในเส้นทางการบ่มเพาะนั้นนอกจากพรสวรรค์แล้วมันก็มีทรัพยากรนี่แหละที่สำคัญที่สุด!”
“ทรัพยากรห่าเหวอะไรของเจ้า? เย่หยวน ข้านั้นคือผู้ดูแลทรัพยากรโอสถของนิกายยาสุดล้ำ ตราบเท่าที่เจ้าอยากได้ข้าก็พร้อมจะหาสมุนไพรนั้นให้เจ้าทันที! ผลประโยชน์นี้มากมายแค่ไหนเจ้าคงไม่ต้องคิดแล้ว มากราบข้าเป็นอาจารย์เถอะ!”
…
ตอนนี้มียอดนักหลอมโอสถสวรรค์ห้าคนกำลังล้อมเย่หยวนอยู่
คนทั้งห้านั้นคือผู้อาวุโสที่มีอำนาจเป็นรองเพียงแค่เจ้านิกายยาสุดล้ำซ่งชิงหยาง!
ฟานหลี่นั้นเป็นศิษย์พี่ของซ่งชิงหยางแต่ว่าในหมู่คนทั้งห้านั้นเขากลับเสียเปรียบที่สุด
แน่นอนว่าตอนนี้มหาจักรพรรดิบนชั้นหกนั้นต่างถูกไล่ออกไปสิ้น
เพราะภาพเช่นนี้จะให้คนมาดูคงไม่เหมาะนัก
เหมียวชวนและฟานหลี่นั้นสนิทกันมากแต่ก็เพราะเช่นนั้นตอนนี้ฟานหลี่และเหมียวชวนจึงกล้าจะชนกันอย่างไม่ต้องเกรงใจ
ตอนนี้เหมียวชวนนั้นคือคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดในการแย่งชิงศิษย์คนนี้!
ความเย้ยหยันดูถูกใดๆ ในตอนแรกนั้นได้ถูกโยนทิ้งหายลับสวรรค์ไปแล้ว!
ศิษย์เช่นนี้ต่อให้จะหาทั้งชาติก็คงไม่อาจหาเจอได้อีก!
เย่หยวนมองดูคนทั้งห้าก่อนจะยิ้มถามขึ้น “บรรพบุรุษทั้งหลาย ท่านเจ้านิกายไม่ได้มาด้วย?”
ได้ยินเช่นนั้นคนทั้งห้าก็แทบจะคลั่งขึ้น
‘ทำไม? เจ้าดูถูกพวกเรา?’
“ไอ้หนู เจ้าอย่าเพิ่งได้ใจไป! แม้แต่ตอนที่เจ้าโลกโจวซ่งฉวนท่านเป็นจักรพรรดิเซียนก็ยังไม่มีใครคิดสนใจในตัวท่านเลย!”
“ฮ่าๆ อย่าได้เข้าใจความหมายของข้าผิดไปสิ ความหมายของข้าคือ…พวกท่านทั้งหลายคงไม่มีสิทธิ์จะรับข้าเป็นศิษย์ใดๆ!” เย่หยวนตอบ
คนทั้งห้านั้นกัดฟันแน่นขึ้นมาพร้อมๆ กัน
‘เด็กเวร จะโอหังจนเกินไปแล้ว!’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...